“ไทรสุก” Popsicle Shop จำหน่ายไอศกรีมแท่งสีสันสัตว์ป่าบนเขาใหญ่ ที่มีการพูดถึงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กับ การเปิดตัวไอศกรีมรสใหม่ที่สร้างความฮือฮา ในชื่อว่า I’m Here ที่เจ้าของได้แรงบันดาลใจมาจาก “น้องเหี้ย” มีคอมเมนท์ออกไปต่างๆ นานามากมาย มีสื่อหลายสำนัก พูดถึงไอศกรีมดังกล่าว วันนี้ เราจะพามารู้จักกับ ร้านไอศกรีมแห่งนี้ ซึ่งต้องบอกว่าทั้งร้านและเจ้าของ มีความน่าสนใจไม่แพ้ ไอศกรีมที่ออกแบบมาทั้ง 19 รสชาติ
การมาพบกันของช่างภาพสัตว์ป่า และ Ice Cream Maker
ก่อนอื่น มาทำความรู้จัก กับไอศกรีม ของ “ไทรสุก” มีความโดดเด่นอย่างไร ต้องบอกว่าไม่เฉพาะไอศกรีมตัวใหม่ อย่าง I’m Here แต่ไอศกรีมตัวอื่นๆ ทางเจ้าของตั้งใจรังสรรออกมาได้อย่างน่าสนใจ โดยเจ้าของร้าน คือ “ปฤษฏิ์ เก่งสูงเนิน” (คุณเต้ย) และแฟนสาว “วราภรณ์ มงคลแพทย์” (คุณแนน) ทั้งสองคนเปิดร้านแห่งนี้ ขึ้นมา เพราะต้องการจะสานฝันของทั้งสองคนที่ต้องการจะมีกิจการร่วมกัน
โดยคุณเต้ย เดิมทำบริษัททัวร์ดูสัตว์ป่าบนเขาใหญ่ Khao Yai National Park - Greenleaf Guesthouse & Tour พาคนที่เดินทางมาจากทั่วโลกไปดูสัตว์ป่าบนเขาใหญ่มานานกว่า20 ปี ส่วนคุณแนนได้มาต่อยอดทำสวนมะม่วงของครอบครัวที่ทำมานานกว่า 35 ปี ก่อตั้งร้าน บ้านหมากม่วง KhaoYai The Mango House Farm มาได้ 10 ปี “ไทรสุก” เกิดจากความชอบ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ของทั้งสองคน มาหาจุดร่วมเพื่อให้เกิดเป็นร้านที่เป็นความฝันร่วมกันขึ้นมา
ส่วนที่มาเป็นไอศกรีมแท่งสีสันสัตว์ป่าเขาใหญ่ ในครั้งนี้ มาจากทั้งความชอบและความเชี่ยวชาญ ของทั้งสองคน ออกมาเป็นธุรกิจทำร่วมกัน โดยทางคุณแนน มีดีกรี เป็นถึง Ice Cream Maker ในขณะที่คุณเต้ยเองเป็นช่างภาพสัตว์ป่า เลยเป็นที่มาของไอศกรีมที่เป็นผลิตภัณฑ์หลักของทางร้าน ซึ่งทั้งคู่ต้องการที่เป็นประตูด่านแรกที่ทำให้ผู้คนรู้จักสัตว์ป่าเขาใหญ่ มากขึ้น ภายในร้านไทรสุกไม่ได้มีแค่ไอศกรีม แต่ยังมีวัตถุดิบท้องถิ่น และกิจกรรมการเรียนรู้เกี่ยวกับสัตว์ป่าเขาใหญ่ ด้วย
ไอศกรีมทุกแท่งมาจากสีสันของน้องๆ สัตว์ป่าบนเขาใหญ่
โดยไอศกรีมทุกแท่ง ทาง “ไทรสุก” ได้แรงบันดาลใจมาจากสี ของน้องๆสัตว์บนเขาใหญ่ ที่มีความหลากหลาย ทำให้ได้ไอศกรีมที่มีรสชาติที่หลากหลายให้ลูกค้าได้เลือก ไม่ว่าจะเป็น ครีม นม ผลไม้ ชา กะทิ ฯลฯ โดยเลือกใช้วัตถุดิบที่หาได้ในท้องถิ่น นำมาเป็นส่วนผสมในการรังสรรไอศกรีมออกมาในแต่ละรสชาติ เช่น ไอศกรีมนกขุนแผนหัวแดง ได้เลือกใช้ ดาร์กช็อกโกแลต และสตอเบอรี่สดของพื้นที่ในโคราช หรือ ไอศกรีมไก่ฟ้าหลังขาว เลือกใช้ วนิลาเขาใหญ่ ไดฟุกุ และราชเบอรี่แยม
และรสชาติที่ใครกินแล้ว ทุกคนรู้สึกอร่อยแบบงง ในชื่อว่า “พิศวงเขาใหญ่” (Thismia mirabilis)โดยทางเจ้าของร้าน บอกว่า เป็นไอศกรีมที่เริ่มทำมาตั้งแต่เปิดร้าน อยากทำให้รสมันอร่อยงงๆสมชื่อ เลยออกมาเป็นส่วนประกอบนี้ “หัวม่วงๆดำๆ” ทำมาจากแยมบลูเบอร์รี่ที่เรากวนเอง ส่วน “สีชาๆไข่ๆ” ทำมาจากชาเอิร์ลเกรย์ ที่สกัดกับนมไวท์มอลท์ ให้หอมกรุ่นๆ ส่วน “สีขาวครีม” สีงงๆในแท่ง นั่นคือ !! ทีรามิสุ ที่ทำสดๆใหม่ๆทุกครั้ง เพื่อนำมาใส่ในไอศกรีม ยัดลงไปทีละแท่ง ทีละแท่ง รสนี้เลยเป็นความผสมปนเป กันของ กาแฟนิดๆ ชาหน่อยๆ หวานๆ ขมๆ หอมๆ เป็นที่มาของความอร่อยแบบงงๆ ตามชื่อที่ตั้ง
อึ้งส่วนผสมกว่าจะได้มาเป็น ไอศกรีม I’m Here
ส่วนรสชาติที่ไม่พูดถึงไม่ได้ในวันนี้ นั่นคือ I’m Here ที่ทางเจ้าของร้านได้แรงบันดาลใจมาจากน้องเหี้ยนั่นเอง แต่พอได้เห็นส่วนผสมในการทำไอศกรีมรสนี้ ต้องบอก ว่าทำให้หลายคนอดใจไม่ไหวอยากจะกินกันเลยทีเดียว ซึ่งคุณแนน บอกว่า เธอต้องใช้เวลาในการทำรสชาตินี้ เพราะเป็นงานแฮนด์เมด โจทย์นี้ถูกถอดมาเป็นหน้าตาและรสชาติแบบที่ทุกคนเห็น ส่วนสำคัญมันอยู่ที่ หนังเหี้ย!!! อะไรที่จะเป็นส่วนผสมที่ทำให้มันคล้ายและยังอร่อย ส่วนที่ยากที่สุด ส่วนของหนัง เราทำ Brittle จากงาดำ หรือทุกคนลองจินตนาการตามนะว่ามันคือขนมงาตัด ที่ทำมาจากการเคี่ยวน้ำตาลเป็นคาราเมลผสมกับงาหอมๆ แล้วเอาไปรีดเป็นแผ่น พอเย็นตัวก็จะกรอบเกรียวเคี้ยวโปเต้ สำคัญคือ ต้องผสมงาดำงาขาว คั่วออกมา จากงาขาวมันจะออกเป็นสีน้ำตาล รวมกันเป็นสีตัวเหี้ยพอดี!!! กรอบๆ หวานๆ มันๆ นัวๆ
“และที่เป็นดอกๆน้ำตาลๆ นั่นคือ รวงผึ้งสด ที่ใส่ไปแทนดอกๆน้ำตาลที่เป็นลายน้อง ส่วนเนื้อด้านในที่เป็นสีครีมน้ำตาล เราทำมาจากเคี่ยวซอสคาราเมลผสมกับครีมกับชีสกับนมต่างๆจนออกมาหวานนุ่มละมุนสุดๆ และสุดท้าย ส่วนสีน้ำตาลด้านบน คือ Honeycomb candy ที่เราทำเอง แล้วเอามาบดๆใส่ปิดท้าย ให้มีลูกเล่น กรุบๆเรียกว่ารสนี้ มันคือความโคตรคาราเมล โคตรกรุบกรอบ โคตรเบาหวาน ทุกส่วนประกอบเกิดจากการทำน้ำตาลคาราเมลเป็นเบสทั้งหมด สำหรับรสนี้ ยากตรงที่จะทำยังไงให้คนกินไม่บ่นว่า รสชาติ เหี้ย มาก แต่ให้พูดว่า อร่อย Here Here แทน!! แถมจะทำไงให้มันเหมือนตัวเหี้ย แต่ไม่น่ากลัวน่าเกลียดดูไม่น่ากิน” นี่คือ คำบอกเล่าที่มาของ ไอศกรีม I’m Here ที่เจ้าของต้องการจะถ่ายทอดให้ทุกคนได้รู้ที่มาว่ากว่าจะได้ไอศกรีมตัวนี้ ยากแค่ไหน
“ปัจจุบันทางร้านมีไอศกรีมด้วยกันทั้งหมด 19 รสชาติ เป็นไอศกรีมโฮมเมดทางย้ำว่าเป็นแค่สีสัตว์ป่าเขาใหญ่เท่านั้น ไม่ได้เน้นรูปร่างหน้าตาของสัตว์ โดยแต่ละแท่ง แนนตั้งใจอัดแน่นสารพัดสิ่ง ไม่มีการแต่งสี/กลิ่น ไม่มีวัตถุเจือปนอาหารใดๆเลยทั้งสิ้น ทุกแท่งถูกทำขึ้นด้วยคุณภาพของวัตถุดิบล้วนๆ หลายๆรสชาติก็มาจากการควานหาวัตถุดิบท้องถิ่นดีๆมาใส่ลงไปด้วย อยากให้ทุกคนได้มาลอง มั่นใจว่าจะติดใจในรสชาติไอศกรีมของเราที่มีดีไม่แพ้หน้าตา” คุณแนน
กล่าวในที่สุด
สานฝันของคนรักสัตว์ป่าและรักเขาใหญ่
นายปฤษฏิ์ เก่งสูงเนิน (คุณเต้ย) เจ้าของร้าน ได้โพสต์เล่าถึงที่มาของการมาเปิด “ไทรสุก” ในครั้งนี้ไว้ ว่า “เกิดขึ้นมาจากทุกครั้งที่บนเขาใหญ่มีต้นไทรที่ผลลูกไทรกำลังสุก ผมจะขึ้นไปบนอุทยานเสมอเพราะจะมีสัตว์ป่านานาชนิด มากินลูกไทรเป็นอาหารกันมากมาย เป็นเหมือนศูนย์รวมชีวิตนานาชนิดในป่าให้เราได้มีโอกาสได้เห็นได้ชื่นชม และแนนจะได้ยินผมบอกตลอดว่าไปเฝ้าต้นไทร แนนเลยตั้งชื่อร้านว่า “ไทรสุก” เพราะว่าเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อทุกชีวิตในป่าและมีความหมายต่อมนุษย์ที่ทำงานเกี่ยวกับธรรมชาติเช่นเรามากๆ และเราอยากเป็นศูนย์รวมทั้งความรู้และขนมจากวัตถุดิบดีๆในท้องถิ่น ให้ได้แบบที่ไทรสุกเป็น”
“ไทรสุก” คือ อะไร ไม่ใช่แค่ร้านอาหารหรือคาเฟ่
“ในส่วนของ “ไทรสุก” เราเป็นร้านที่จำหน่ายกิจกรรมธรรมชาติ มีเกมส์ฐานการเรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและสัตว์ป่าเขาใหญ่ มีไกด์พาทำกิจกรรมพาทุกคนสนุกและได้ความรู้ไปพร้อมๆกัน ผมเชื่อว่าเป็นเกมส์ที่มีประโยชน์ เป็นเหมือนด่านแรกที่จะทำให้ทุกคนขึ้นอุทยานไปอย่างมีความรู้และสนุกมากขึ้น และมีของกินเล่นที่ส่วนใหญ่ทำมาจากวัตถุดิบในท้องถิ่นจำหน่าย และ ตัวชูโรงก็คือ Popsicle ไอศกรีมแท่งโฮมเมดที่แนนคิดสูตรเองและออกแบบให้คล้ายกับสีสัตว์ป่าเขาใหญ่”
“นอกจากนี้ยังมีเมนู Signature อย่าง Khao Yai Bite เป็นมันหวานเขาใหญ่อบหอมๆ โรยหน้าด้วยวัตถุดิบท้องถิ่นแบบ100% และอีกเมนู คือ Corn Ribs หรือข้าวโพดหวานปากช่องอบซอสบาร์บีคิว ซึ่งทั้งหมดนี้ เราพัฒนาสูตรกันเอง อยากให้ทุกคนมีของกินเล่นที่ทำมาจากวัตถุดิบท้องถิ่นเขาใหญ่จริงๆ”
เริ่มต้นจากศูนย์ ผ่านมาหลายอาชีพกว่าจะมาถึงวันนี้
คุณเต้ย เล่าถึงการเดินทาง กว่าจะมาเป็นไทรสุก ว่า “ตนเอง และแฟนสาว เราทั้งสองคน ฝ่าฟันอะไรกันมามาก กว่าจะเดินทางมาถึงวันนี้ เราเริ่มต้นกันด้วยเงิน 0 บาท ทำทุกวิถีทางเพื่อให้มันเกิดขึ้น เนรมิตพื้นที่ป่าและมินิมาร์ทเก่าที่เราเห็นมาตั้งแต่เด็ก ให้กลายมาเป็น ‘ไทรสุก’ ในวันนี้ ใช้ข้อมูลความรู้มากมายในการทำงาน ทุ่มเทพลังทั้งหมดที่เรา 2 คนมี รวมถึงมีคนอีกมากมายที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในโปรเจ็คนี้ ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ของเรา เพื่อนสนิท นักวิชาการ อาจารย์ เพื่อนพี่น้องวงการสัตว์ป่า ที่ให้การช่วยเหลือ จนเราเดินมาถึงวันที่เราสามารถ เปิดไทรสุกให้ทุกคนได้รู้จักในวันนี้”
ติดต่อ Facebook :ไทรสุก - Sai Sook Khao Yai Wildlife Learning Ground & Local Treats
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด