“ผมว่าธุรกิจของแก๊สมันเป็นช่วงๆ เนาะช่วงที่มันพีคๆ ก็คือน้ำมันแพงนั่นแหละบางทีถ้าน้ำมันถูกมากคนไทยเราใช้น้ำมันไปก่อนแต่ว่า ช่วงที่มันจะพีคๆ ก็คือแล้วแต่น้ำมันที่มันขึ้นมาเพียงแต่ว่าบางที่โอเคเขาอาจจะเปิดแค่ช่วงที่มันพีคลูกค้าไปติดตั้งแล้วพอใช้งานจริงซ่อมเซอร์วิสไม่ได้เพราะเขาปิดไปแล้ว
แต่ของเราเองจะพีคจะอะไรเราก็มีทีมมีอะไรอยู่ เพราะอย่างน้อยเราไม่มีติดตั้งเราก็มีเซอร์วิสดูแลลูกค้าอยู่ตลอดอยู่แล้ว คนที่ใช้แก๊สแล้ว เขาก็ใช้นั่นแหละต่อเนื่องบางคนรถคันที่สองช่วงนี้น้ำมันถูกยังไม่ติด ใช้น้ำมันไปก่อนอะไรแบบนี้ แต่พอน้ำมันขึ้นรถคันที่สองก็ติดเพราะเขาเคยติดมาแล้ว คนที่เคยใช้แก๊สมาแล้วก็อยากใช้ เพราะเขารู้ว่าประหยัดอย่างน้อยก็คือครึ่งหนึ่งของน้ำมันที่ใช้อยู่แน่นอน อยู่ที่ว่าวิ่งมากวิ่งเยอะต่อเดือนจุดคุ้มทุน/จุดคืนทุนก็เร็ว วิ่งน้อยจุดคุ้มทุนก็ช้า ถามว่ากำไรไหม? กำไรตั้งแต่วันแรกที่ติดอยู่แล้ว” ส่วนกรณีของข่าวที่เคยมีว่ารถติดแก๊สระเบิด! หรือมีไฟไหม้ก็ตามทีซึ่งเคยเป็นข่าวเกิดขึ้น ผมมองว่าส่วนใหญ่เท่าที่ผมเคยเห็นนะก็จะเป็น บางคนชอบดัดแปลง ไปติดตั้งถังแก๊สเพิ่ม (NGVตอนนั้น) ไปดัดแปลงเองโดยที่ไม่ได้มีมาตรฐานรับรอง หรือช่างไม่ได้มีความรู้จริง ๆ ก็จะเจอปัญหาพวกนั้น แต่ส่วนใหญ่ที่ติดจาก “อู่มาตรฐาน” ต่าง ๆ ไม่ใช่แค่ที่นี่เนาะทั่ว ๆ ไปก็ไม่ค่อยเจอปัญหาคือน้อยมาก ๆ เรื่องระเบิดหรือว่าไฟไหม้ที่เมื่อก่อนจะมีกันอยู่ช่วงหนึ่ง อันนั้นจะเป็นถ้าเราไปสืบค้นข้อมูลก็จะเห็นว่าอันนี้เขาไปติดกันเองไปดัดแปลงกันเองส่วนใหญ่ “ช่างต้น-ภาคภูมิ บุญรอด”หุ้นส่วนฯ และผู้จัดการทั่วไปของ บริษัท โอสุเนเจอรัลแก๊ส จำกัดหรือ “โอสุ แก๊ส” (OSU GAS)เปิดประเด็นในการสนทนาได้อย่างตรงใจของคนไปเยือน ที่อยากจะรู้ว่าศูนย์บริการติดตั้งแก๊สในรถยนต์แห่งนี้อยู่มานานถึงกว่า 18 ปีแล้ว ข้ามผ่านกาลเวลาตั้งแต่ในยุคที่ “น้ำมันแพง” มาก ๆ จนทำให้มีหลายคนหันหาทางเลือกใหม่ พลังงานทดแทนใช้ในรถยนต์ อย่าง “แก๊ส” ซึ่งก็มีให้เลือกใช้ได้ทั้ง NGV และก็ LPG โดยโอสุ แก๊ส ถือเป็นหนึ่งในอู่เปิดให้บริการรับติดตั้งในยุคนั้นด้วย พร้อมกับอีกหลาย ๆ ที่ก็เกิดขึ้นมาตามช่วงการพีคของธุรกิจแก๊สจริง ๆ เวลาล่วงมาจนถึงในปัจจุบันสถานการณ์ของน้ำมันไม่ได้ถูกไปกว่าครั้งอดีตแต่ทว่า ด้วยตัวแปรหลาย ๆ ปัจจัยที่อาจทำให้เราได้รับรู้เรื่องแก๊ส(รถยนต์ติดแก๊ส) ไม่ใช่เป็นตัวเลือกสำคัญของคนมีรถหรือไม่แค่ไหนอย่างไรบ้างแล้ว? รวมไปถึงการมีเทรนด์ใหม่ของโลกอย่าง “รถไฟฟ้า”(EV) ที่เริ่มเข้ามาเป็นทางเลือกอย่างจูงใจให้ปลื้มในเรื่องความ “ประหยัด”กว่า! ทั้งไม่ว่าการเติมน้ำมันก็ดีหรือแก๊สก็ตามที
“เริ่มต้นเลยตั้งแต่ปี 2549 นะครับประสบการณ์ก็สัก 17 ปีได้ เพราะเริ่มจากช่วงนั้นน้ำมันแพงมาก ๆ พอน้ำมันแพงมากเราก็เลยอ้าวโอเคอยากทำ เรื่องการติดแก๊ส ก็พอมีสมัครพรรคพวกก็ลองมาทำดูนะครับก็เริ่มทำมา หนึ่งเราเป็นหนึ่งในอู่มาตรฐานของ ปตท. อู่มาตรฐานของกรมการขนส่งทางบก และก็เป็นอู่มาตรฐานของกรมธุรกิจพลังงาน ในรุ่นแรก ๆ เลย ก็ติดตั้งแก๊สในช่วงแรกก็มีทั้ง NGV หรือ CNG นะครับ LPG นะครับกับรถของโรงงาน โรงงานก็คือ รถที่ออกจากศูนย์ฯ มิตซูบิชิ โตโยต้า หลาย ๆ ศูนย์ฯ ที่ไว้วางใจให้เราติดตั้งรวมทั้ง ลูกค้าขาจรที่มาติดตั้งกับเรา ตัวเลข ณ ปัจจุบันรถติดตั้งเนี่ย น่าจะมีประมาณ 6-7 หมื่นคัน ที่ผ่านมือเราใช่ครับประมาณนั้น และก็มีรายชื่อลูกค้าที่มาเซอร์วิสประมาณ 2 แสนรายชื่อ” เริ่มแรกพี่ ๆ เขาในชุดแรก ๆ เขาก็ทำเกี่ยวกับเรื่องรถ รถยนต์มาก่อนขายรถยนต์อะไรพวกนี้ ก็พอมีความรู้ในเรื่องรถยนต์บ้างแล้วก็พอมี “ทีมช่าง” ที่เซอร์วิสเกี่ยวกับพวกนี้ แต่ว่าเรื่องแก๊สมันต้องได้รับการอบรมก็คือผ่านการอบรมมาทั้งหมดอยู่แล้ว ถึงจะทำได้คือไม่ใช่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ และก็ส่วนใหญ่ช่างก็จะอยู่กับเราสิบกว่าปีทั้งนั้นตอนนี้ก็คือ ส่วนใหญ่เป็นช่วงประสบการณ์ทั้งนั้น
เรื่องความ “ประหยัดเงิน” ได้มากกว่า ยังคงต้องยกให้สำหรับ “รถติดแก๊ส”
ที่นี่จะมีทั้งในส่วนของ การตรวจสภาพ โดยจะมี “วิศวกร” ประจำอยู่ที่นี่ด้วยตลอด มีอยู่ทั้งหมด 3 คนที่จะคอยสลับกันมา ภายใน 6 วันทำการของโอสุ แก๊ส ลูกค้าสามารถเข้ามาได้ทุกวันโดยไม่ต้องนัด เข้ามาปุ๊บตรวจได้เลย ซึ่งในส่วนของการเซอร์วิสจะแยกกัน โดยวิศวกรจะอยู่ในส่วนของตรวจสภาพประจำปีของรถใช้แก๊ส เพื่อจะนำไปต่อภาษีรถยนต์ ส่วนของช่างเซอร์วิสศูนย์ฯ จะมีให้บริการตลอดอยู่แล้ว จะเซอร์วิสติดตั้งเข้าได้เลย หรือสะดวกเมื่อไหร่ก็นัดเข้ามาได้หมด
เรื่องความประหยัดกว่าของรถยนต์ที่ติดแก๊ส “ผมมองว่าเอาง่าย ๆ ยกตัวอย่างแบบกลม ๆ เลยนะเคยจ่ายค่าน้ำมันอยู่ 1 หมื่น/เดือน สมมุติเลยนะ ถ้าติดแก๊สน่ะ 5 พัน ครึ่งหนึ่งแน่นอน รายจ่ายตรงนี้หายไปสมมุติเราประหยัดไปเดือนละ 5 พัน ค่าติดตั้ง ประมาณ 2 หมื่นหรือ 3 หมื่น 4-6 เดือน เราคืนทุนแล้ว นอกนั้นคือกำไรครับผม” ซึ่งในส่วนของรถที่มาใช้บริการติดตั้งแก๊สได้ก็จะมีทั้ง ตั้งแต่รถ “อีโค่คาร์” ไปจนถึงรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่ ๆ ก็มีซึ่งเข้ามารับการติดตั้งระบบแก๊ส รวมถึงตอนนี้ก็มี “รถมินิบัส” ด้วยเป็นมินิบัสเบนซินที่มารอติดตั้งแก๊ส“ในส่วนของการติดตั้งแก๊สของเรามีทั้ง NGV ทั้ง LPG นะครับซึ่งได้รับรองมาตรฐานมาจาก กรมการขนส่งทางบก กรมธุรกิจพลังงาน รวมทั้ง ปตท. อันนี้คือ 3 ตัวนี้ที่เราได้มาตรฐาน”
สิ่งหนึ่งที่ลูกค้ามักจะพูดถึงโอสุ แก๊ส ก็คือว่าเรื่องของฝีมือช่าง เรื่องของการบริการ ที่นี่มีบริการหลังการขายด้วยการเซอร์วิสของศูนย์ฯ เราค่อนข้างได้รับคำชมมาจากลูกค้า หรือในกรณีลูกค้าไปติดกับที่อื่นมาแล้วมีปัญหาหรือต้องการจะเข้ามาใช้บริการซ่อมเซอร์วิสกับเรา ซึ่งที่นี่ก็รับหมดรับดูแล ที่อื่นเคยไปติดตั้งมาแล้วเขาปิดตัวไปที่นี่ก็รับดูแล ดูแลได้ ในส่วนที่เราเองมีชุดอุปกรณ์หรือมีอุปกรณ์ที่รองรับให้กับเขาได้ เราก็ดูแลให้ได้
รถยนต์ทุกยี่ห้อที่เป็นยอดนิยมในบ้านเราก็ติดแก๊สได้?“ผมว่าร้อยละ 95 เนี่ยรถญี่ปุ่นติดได้ บางรุ่นอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของระบบอาจจะติดไม่ได้ อะไรอย่างเงี้ยครับ ในไดเร็คอินเจ็คชันบางรุ่นยังติดไม่ได้ แต่ว่าหลาย ๆ รุ่นติดได้แล้วที่เป็นเบนซินไดเร็คอินเจ็คชัน เราติดได้แล้วใช่ มีทั้งรถเก่า ๆ อย่าง เบนซ์ ซึ่งเป็นรุ่นติดตั้ง NGV มาจากโรงงานเราก็รับเซอร์วิสด้วยส่วนหนึ่ง”
“รถยุโรป” ที่มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง บางรุ่นติดแก๊สได้! ในราคาไม่แพงอย่างที่คิด
ในยุคหนึ่งที่สร้างความฮือฮาอยู่ไม่น้อยเมื่อ “รถเบนซ์” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นรถหรูมีราคาแพงและที่สำคัญคือเขาจะมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงมากแต่ทว่าก็มี รถเบนซ์ติดแก๊สด้วย!“มันมีออกจากโรงงานด้วยครับหนึ่ง ที่ออกจากโรงงานเลยตอนนั้นที่น้ำมันพีค
ๆ เขาก็ออกมารุ่นหนึ่ง เป็น NGV เป็นรุ่นเขาจะเรียก NGT เนาะหลังรถเขาจะเขียนว่าอย่างนั้น แล้วก็จะมีเบนซ์ที่มาติดตั้งข้างนอกที่เป็นเบนซินด้วยใช่ นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นพวกนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่เรารับซ่อมเบนซ์ด้วย”ลูกค้าถามมีเบนซ์ NGT มาเช็กกับโอสุ แก๊ส อยากซ่อมเบนซ์ทำโน่นทำนี่ถามเราว่ารับทำด้วยไหม ซึ่งก็พอมีทีมงานมีทีมช่างเทคนิคอยู่แล้วเราก็เลยเปิดซ่อมเบนซ์ หลังจากโอสุ แก๊ส ตอนนี้เราก็เปิดซ่อมเบนซ์มาประมาณ3 ปี ทำครบวงจรซ่อมเบนซ์ครบวงจรในนามของ B.A.S หรือบุญอนันต์ออโต้เซอร์วิส เราก็เปิดมา“ช่วงนั้นมันก็เริ่มจากเบนซ์ที่เป็นแก๊สก่อนเนาะ ตรงนี้ซ่อมได้ไหมเราซ่อมระบบแก๊สให้เขา ทำหม้อต้มได้ไหม หัวฉีดมันเสียหรือเปล่า พอทำแล้วเขาโอเคช่วงล่างดูได้ไหมอะไรเงี้ย มันก็เริ่มจากตรงนั้น”
ราคาถูกกว่าศูนย์ฯ แน่นอน ที่นี่จะมีบริการทั้งอะไหล่แท้ อะไหล่ OEM อะไหล่เทียบ แม้กระทั่งอะไหล่มือสองก็มีให้ลูกค้าเลือกได้หมด อันไหนควรจะใส่แท้เราแนะนำ “แท้” อันไหนที่มัน “ย่อม” ได้ก็แนะนำลูกค้า “ก็มีรุ่นเก่า ๆ เบนซ์ยังติดแก๊สได้อยู่ แต่รุ่นใหม่ ๆ มันก็ติดไม่ได้แล้วด้วยวิวัฒนาการของเครื่องยนต์ อุปกรณ์แก๊สมันไม่รองรับ แต่เราก็จะมีเซอร์วิสพวกช่วงล่าง เครื่องยนต์ เกียร์ แอร์ เรามีทำทุกอย่าง” เบนซ์รุ่นเก่า ๆ สัก W211, W212, E200, E250 หรือจะเป็นตัว C, W204 ประมาณนี้ซึ่งยังเป็นรุ่นที่สามารถติดแก๊สได้อยู่“เราก็เซอร์วิสครบวงจร ไม่สะดวกเราไปซ่อมให้ถึงบ้าน ถ้าระยะไม่ไกลมาก ถ้าไม่สะดวกมาเรามีรถสไลด์ไว้บริการอะไรอย่างนี้ก็มีหมด อาการเล็ก ๆ น้อย ๆ เราไปดูให้ ของเราเองเนี่ยเข้ามาตรวจเช็กฟรีทุกรายการนะครับ แล้วก็ประเมินกันว่า ทำหรือไม่ทำได้ไม่มีปัญหาเราไม่เก็บตังค์”
จากกระแส “รถ EV” ที่กำลังมาแรง คู่แข่งเรื่องความประหยัด(กว่า!) ที่ต้องจับตา?
ช่างต้น บอกด้วยมันยังไม่ได้ถือว่ามาแชร์ตลาดเนาะเพราะว่า กลุ่มรถไฟฟ้า (EV) โอเคตอนนี้มาแรงจริง ๆ แต่ตนเองมองว่ากลุ่ม มันยังไม่ได้ใหญ่มากและลูกค้าบางคนก็ยัง ยังไม่แบบจะใช้คำว่าอะไรดีล่ะ?“ยังไม่มั่นใจในรถไฟฟ้าสักเท่าไร” ส่วนใหญ่รถที่เป็นสันดาปภายในหรือเป็นเบนซินเป็นอะไรอย่างเงี้ย ก็ยังมีเยอะอยู่พอสมควร รถในตลาดอย่างรถ “อีโค่คาร์”อะไรพวกนี้บางคนก็มองว่า ซื้ออีโค่คาร์มาติดแก๊สดีกว่า อะไรอย่างเงี้ย จะดีกว่าประหยัดกว่าเยอะ!“ก็ไม่รู้แหละน้ำมันเท่าไหร่ แก๊สครึ่งหนึ่ง! อีโค่คาร์ประหยัดอยู่แล้วใช่ไหม ก็เหลือได้ครึ่งหนึ่ง LPG ก็เหลือครึ่งหนึ่ง ครับผม ก็ประหยัดเข้าไปอีกอะไรแบบนี้ครับ”ลูกค้าเรามีเยอะมากที่นำอีโค่คาร์มาติดแก๊ส ไม่น้อยเลยผมว่ามีหลาย ๆ คัน คือเยอะมากที่ลูกค้านำมาติด ซึ่งถามว่ามันประหยัดอยู่แล้วใช่ไหมอีโค่คาร์ แต่ว่าพอติดแก๊สมันก็ประหยัดเข้าไปอีก “ครึ่งหนึ่งของน้ำมันเลยสมมุติว่า สมมุติผมตัวอย่างกลม ๆ อยู่ที่ 2 บาทสำหรับอีโค่คาร์ ติดแก๊สก็เหลืออยู่บาทนึงอะไรอย่างเงี้ย ถ้ารถใหญ่ ๆ หน่อยน้ำมันกินอยู่ 4 บาท แก๊สก็ 2 บาทอะไรเงี้ย ประมาณนี้ 50% มันหายไปแน่นอนค่าใช้จ่าย”
งานติดตั้งก็อย่างที่ผมบอกว่ามันจะเป็นช่วง ๆ นั่นแหละ บางช่วงก็แล้วแต่ก็ยังรักษาระดับการติดตั้งอยู่วันละ 3-4 คัน ยังต้องมี ทิศทางผมว่ามันก็อยู่ในระดับอยู่ในระนาบของมัน อย่างวันธรรมดาตอนนี้เราก็มี 3-4 คัน เสาร์-อาทิตย์ก็มีติดตั้งสัก 5-6 คัน ส่วนเซอร์วิสวันเสาร์ก็มีสัก 20 กว่าคัน รวมรถตรวจด้วยก็สัก 50 วันธรรมดาเฉลี่ยสัก 30 คัน ประมาณนี้“ถือว่าทิศทางก็ยังโอเคอยู่ครับ ยังไม่ถือว่าเป็นขาลงผมว่าไม่ลงนะ ณ ตอนนี้นะ ถ้าน้ำมันยังประมาณนี้นะก็ผมว่ายังขนาดนี้อยู่”
ทำไมรถติดแก๊สต้องตรวจสภาพประจำปี? ประหยัดแล้วก็ต้อง “ปลอดภัย” ด้วย
ด้านวิศวกรตรวจสภาพรถที่ใช้แก๊สประจำศูนย์ฯ แห่งนี้ “พี่เจริญ คำภู่” สามัญวิศวกรเครื่องกลซึ่งขึ้นทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนามคม บอกกับเราด้วย หลายคนที่อยากจะรู้มากว่าเราตรวจสอบประจำปีเพื่ออะไร? หรือรถต่ออายุถังแก๊ส 10 ปีเพื่ออะไร? กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม ทำไมต้องให้เราตรวจต่ออายุหรือตรวจสภาพทุกปี “ไม่ใช่บนท้องถนนอย่างเดียวแม้กระทั่ง จอดอยู่ที่บ้าน หรือจอดอยู่ที่ไหนก็แล้วแต่ถ้า “แก๊สรั่ว”! นะครับจะเกิดอะไรขึ้น? เราคงมองเห็นภาพ” ซึ่งตาม พ.ร.บ.ของกรมการขนส่งเองเขียนไว้ว่า การตรวจสอบจะต้องตรวจสอบ “มาตรฐาน” ของอุปกรณ์และส่วนควบที่จะเอามาใช้กับรถยนต์ อันที่สองที่สำคัญก็คือตรวจ “ถังแก๊ส” อันที่สามตรวจ “การติดตั้ง” และก็ถึงหัวใจหลักคืออันที่สี่ตรวจ “ความปลอดภัย”
ยกตัวอย่างของแก๊ส LPG ซื้อมาไม่ใช่ซื้อถังโนเนมมาไม่มีป้ายชื่อ ไม่มีเนมเพลทอะไรเลย เราดูได้จากเนมเพลทจะต้องมี “มอก.370” ของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เขาบังคับเอาไว้เลย“ทีนี้มาถึงเรื่องการตรวจอุปกรณ์ อุปกรณ์เราก็ต้องไล่ตรวจหมดเลยจากถังมาจนถึงข้างหน้ารถที่มี “หม้อต้ม” เนาะผมย้อนให้คร่าว ๆ ก่อนนะ ย้อนจากท้ายรถมาจะว่ากันตั้งแต่อุปกรณ์ในการเติมแก๊สเลย และก็อุปกรณ์ที่ประกอบถังแก๊ส มีอะไรบ้างล่ะ ก็มีหัวเติมและก็มีเขาเรียก “มัลติวาล์ว” นะครับหลาย ๆ ท่านคงเข้าใจคำว่ามัลติวาล์ว ก็คือจะมีวาล์วเอ็คเซสโปรวาล์วและก็โอเวอร์ฟิล และก็ชุดวัดระดับแก๊ส และก็เป็นวาล์วเปิด-ปิดแก๊ส พวกนี้จะต้องมีมาตรฐาน ECER 67 นะครับซึ่งกรมการขนส่งทางบกก็บังคับไว้เหมือนกันว่า ในการที่คุณใช้รถไป1 ปีบางทีเราไม่เห็นว่าเขาไปซ่อมอะไรบ้าง พอเราตรวจปุ๊บต้องดูแล้วเอ๊ะของดีไหม ไปเอาของประเทศไหนมาไม่รู้ที่ไม่มีมาตรฐานอะไรเนี่ย เราต้องตรวจก่อน ถ้าตรงนี้ผ่านปุ๊บก็โอเคถือว่าเป็นมาตรฐานแล้ว” หรือแม้กระทั่ง “ท่อ” ท่อก็จะมีอยู่ 2 ลักษณะสำหรับท่อแก๊สในรถยนต์ จะเป็นท่อแข็ง ๆ ก็คือตั้งแต่ท่อเติมแก๊สและก็เป็นท่อที่ส่งจากวาล์วมาถึงหน้ารถ และก็อีกท่อหนึ่งก็คือจะเป็นท่อเขาเรียก ท่อเฟล็กซ์ หรือท่อยางอ่อน ก็ต้องมีมาตรฐานเหมือนกัน พวกนี้ก็ ECER 67 เหมือนกัน ทนแรงดันได้อย่างน้อยก็คือต้อง100 KPA บางคนอาจจะไม่เข้าใจหน่วยนี้ก็คือ 10 บาร์หรือ 10 กิโลฯ ต่อตารางเซนนั่นเอง ซึ่งจะต้องมีทั้งหมดเลย
“และก็มาถึงเรื่องของ “ความปลอดภัย”เราก็ดูตามข้อต่อมีแก๊สรั่วไหม จะใช้พวกตัวตรวจแก๊สกับฟ๊อกกี้ที่ใช้ฉีดดู “ฟอง” ถ้าไม่รั่ว ก็โอเค ถ้ารั่วก็คือต้องทำการแก้ไขก่อนตรงนั้น พอเสร็จแล้วก็ไปว่ากันถึง “ระบบคอนโทรล” ด้วยไฟฟ้า พวกโซลินอยวาล์วที่บางคนเรียกว่า “ติ๊กแก๊ส” อะไรพวกนี้ ไฟจ่ายปุ๊บสำคัญตรงนี้ล่ะครับ! ต้องทำงาน พอเราดับเครื่อง (ดับเครื่องคือเครื่องยนต์ดับ) ต้องไม่มีเชื้อเพลิงเข้า ถ้าน้ำมันก็คือตัดน้ำมัน ถ้าแก๊สโซลินอยวาล์วต้องตัดแก๊ส คือต้องดับอัตโนมัติ ทีนี้ไม่ใช่แค่ดับแล้วตัดแก๊สอย่างเดียวถ้าสมมุติเกิดอุบัติเหตุแล้วเกิดการ “แก๊สรั่ว” ระบบต้องตัดแก๊สเหมือนกันด้วย เราจะดูตรงจุดนั้น”ก็คือต้องไล่ตั้งแต่ท้ายรถมาจนถึงหน้ารถทั้งหมดเลย
กว่า18 ปีของ “โอสุ แก๊ส” ตัวจริงเรื่องการติดตั้งแก๊สในรถยนต์
ช่างต้น-ภาคภูมิ บุญรอด หุ้นส่วนฯ และผู้จัดการทั่วไปของโอสุ แก๊ส ยังบอกด้วย ด้วยจำนวนรถที่ผ่านมือเรามาผมว่าเราก็ น่าจะอันดับต้น ๆ ในการติดตั้งแก๊สในบ้านเรา ผมว่าระยะเวลา 17 ปีถ้าไม่ดีจริง เราคงอยู่ไม่ได้ขนาดนี้ ก็อยากให้ลูกค้าพิจารณาลองดูถ้าไม่ ยังไม่ไว้ใจ ไม่มั่นใจ ก็เข้ามาดูเข้ามาคุยกันก่อนได้ มาดูพื้นที่เราว่าเราทำอะไรบ้าง มาดูอุปกรณ์เราว่าเรามีอะไรบ้างโทรมาสอบถามหรือว่าแวะเข้ามาได้ ให้ความรู้ได้หมด“ท่านใดที่ใช้รถยนต์นะครับและต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย ผมยังมองว่า LPG เป็นทางเลือกหนึ่งในการประหยัดค่าใช้จ่ายของครัวเรือนของแต่ละบ้านครับ อย่างน้อยครึ่งหนึ่งในการใช้งานนะครับเหมือนที่ผมยกตัวอย่าง 5,000 จากการเติมน้ำมันเดือนหนึ่งก็เหลือ 2,500 หรือ 10,000 ก็เหลือ 5,000 ผมมองว่า LPG ยังเป็นหนึ่งในทางเลือกไม่ใช่ค่าใช้จ่ายบุคคลเนาะ มันเป็นค่าใช้จ่ายของครัวเรือนของบ้านนั้น ๆ เลยผมแนะนำ 2 คันก็ยิ่งประหยัดเยอะเข้าไปนะครับ และก็ที่จะฝากไว้ก็พยายามดู “อู่” ที่ได้มาตรฐานของแต่ละอู่ ไม่จำเป็นต้องเป็นที่ผมนะอาจจะสะดวกตรงไหนแต่ว่าดูที่เขาได้มาตรฐานหน่อย อุปกรณ์เป็นของแท้ และก็หลังการขายเขาดูแลเราได้อะไรอย่างเงี้ย ผมให้ไกด์ไลน์ไว้ประมาณนี้ ยังไง LPG ผมยังมองว่าประหยัดอยู่ ยังมองว่ายังตอบโจทย์กับรถยนต์ในหลาย ๆ รุ่นอยู่”
ขณะที่ในมุมของผู้ที่อยู่กับธุรกิจรถยนต์มาเกินกว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตแล้วสำหรับ “คุณยศ-ขจรยศ วณิชชานันท์” ซึ่งก็เป็นผู้ก่อตั้งโอสุ แก๊ส ด้วยได้พูดถึง “รถไฟฟ้า”(EV) ซึ่งกำลังเป็นกระแสอย่างมากในบ้านเราปัจจุบันคุณยศเองมองว่า เรื่องความประหยัดกว่าในแง่ของการใช้พลังงานสำหรับรถ EV ต้องยอมรับว่า ประหยัดจริง รวมถึงในเรื่องของเทคโนโลยีของรถซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีการพัฒนาไปอย่างมากทำให้ผู้บริโภคเองสามารถเลือกใช้ได้เลยว่า ตนเองมีความสนใจหรือพอใจในเทคโนโลยีรถของค่ายไหน ซึ่งปัจจุบันก็พอมีให้เห็นได้จากการจัดอันดับที่เป็นเบอร์ต้น ๆ1-4 อันดับสำหรับแบรนด์รถ EV ค่ายดัง ที่ผู้บริโภคได้ให้ความเชื่อมั่นในแบรนด์กันอยู่ แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่ตอนนี้ธุรกิจรถ EV ในบ้านเรายังขาดอยู่อย่างมากก็คือว่า บริการหลังการขายซึ่งเกือบทุกค่ายแทบไม่มีในเรื่องนี้เลย! เพราะจริง ๆ มันสำคัญมากกว่าซึ่งไม่ใช่ว่ามีแต่การแข่งขัน “ราคา” ตอนนี้กลยุทธ์หลักคือมุ่งกันที่ราคาและก็ยอดขายของรถมากกว่าแต่ยังไม่เห็นว่า มีค่ายไหนออกมาให้ข้อเสนอกับผู้บริโภคได้ชัดเจนในเรื่องของเซอร์วิสหลังการขาย ว่ามีการดูแลให้ในเรื่องอะไรบ้าง การมีศูนย์บริการหรือ “ทีมช่าง” ที่ชำนาญงาน สถานีชาร์จ ต่าง ๆ เหล่านี้เป็นต้น เพราะอย่าลืมว่าความกังวลหรือปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับรถที่ซื้อไปแล้วที่จะต้องมีทางออกให้กับลูกค้าได้ นอกจากเรื่องของ “แบตเตอรี่” แล้วเรื่องอะไหล่และการซ่อมเซอร์วิสที่ต้องแน่ใจได้ว่ารถ EV จากค่ายนั้น ๆ ก็มีบริการให้กับลูกค้าด้วย
ในตอนท้ายเราถามคุณยศอีกว่าแล้วโอสุ แก๊ส ให้ความมั่นใจกับลูกค้าที่ใช้แก๊สในรถยนต์ได้อย่างไรบ้าง เพราะก็ยังมีหลาย ๆ
คนที่แอบกลัวและไม่กล้าที่จะติดแก๊สในรถยนต์ทั้งที่รู้แล้วว่ามันประหยัดกว่าการเติมน้ำมันมาก ซึ่งคุณยศก็ได้บอกกับเราว่า คุณรู้ใช่ไหมว่า LPG มันก็เป็นก๊าซธรรมชาติชนิดหนึ่ง ที่มีลักษณะเป็นของเหลว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และติดไฟได้ แต่เพื่อให้รู้ว่ามันมีLPG อยู่นะเขาก็เลยมีการ “ใส่กลิ่น” เข้าไปด้วยซึ่งนั่นก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่ง เพราะฉะนั้นเราจะรู้ได้ว่ามีแก๊สรั่วไหม? ทางหนึ่งก็จากกลิ่น และก็ถามว่าทุกบ้านมีการใช้แก๊สหุงต้มกันไหม? ซึ่งมันก็คือแก๊ส LPG แล้วถามต่ออีกว่า มันอันตรายไหม? เหมือนกัน เราสามารถมั่นใจในการใช้งานได้ไม่แตกต่างกันเลย
“จริงใจ ไม่โกง”เป็นสโลแกนหรืออาจเรียกว่าเป็น motto ของแบรนด์ด้วยก็ว่าได้ที่ทำให้ “โอสุ แก๊ส” เติบโตในธุรกิจมานับตั้งแต่ก้าวย่างที่เริ่มจวบกระทั่งสามารถขยายแตกไลน์ธุรกิจเพิ่มได้อย่างแข็งแกร่งในปัจจุบัน ขอบคุณข้อมูลที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้บริโภคในยุคนี้ที่ทางเจ้าของธุรกิจได้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ความสำเร็จเพื่อแบ่งปันในครั้งนี้ สามารถติดตามผลงาน หรือติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ “โอสุ แก๊ส”(รังสิต) เลขที่1/9 หมู่5 ถ.พหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี โทร.02-5168643 Line ID : @osugas หรือเสิร์ช “โอสุ แก๊ส”
