Chocotoss ช็อกโกโทส ร้านเครื่องดื่มที่ได้รับเลือกจากกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ให้เข้าร่วมออกบูทโชว์สินค้างาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2024 งานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่และครบวงจรมากที่สุด ในปีนี้กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้จัดสรรพื้นที่ให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ จัดกิจกรรม “ยกทัพชา กาแฟ โกโก้ และนมไทย ไปตลาดโลกด้วย FTA”
ร้านเครื่องดื่มได้รับเลือก DTN ออกบูธในงาน THAIFEX
สำหรับ Chocotoss เป็นร้านแฟรนไชส์เครื่องดื่ม และยังเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ โกโก้ และ กาแฟ สำเร็จรูป พร้อมดื่ม ภายใต้แบรนด์ Chocotoss เปิดดำเนินกิจการมาได้ 7 ปี ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 18 สาขา สาขาแรกเปิดที่จังหวัดเชียงใหม่ และปัจจุบันมีแฟรนไชส์ อยู่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และครั้งนี้ เป็น 1 ใน 10 ผู้ประกอบการด้านเครื่องดื่ม ที่ได้คัดเลือกเข้าร่วมในบูธ FTA Café by DTN ในงาน THAIFEX - ANUGA ASIA 2024
และการได้คัดเลือกในครั้งนี้ ทาง ผู้บริหารเจ้าของ Chocotoss “นายชนินทร์ ชินวงศ์ ” บอกว่า มาจากเราเป็นแบรนด์ เครื่องดื่ม โกโก้ ที่แปรรูปทุกอย่างเอง ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ โดยได้มีการทำคอนเท็กฟาร์มมิ่งกับเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ ในหลายพื้นที่ เป็นการช่วยส่งเสริมเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ และร้านของเรายังเป็นรายเดียวที่พัฒนาเครื่องดื่มโกโก้ จากซอสโกโก้ ไม่ได้ใช่ผงโกโก้ เหมือนกับแบรนด์เครื่องดื่มทั่วไป เป็นซอสโกโก้ที่เราผลิตเอง ข้อดีของซอสโกโก้ คือ ยังคงมันหวาน มันแบบเนยถั่วตามธรรมชาติ ต่างจากผงโกโก้ที่จะโดนดูเอาความมันตรงนั้นไปเวลานำมาชงก็ต้องผสมเนยลงไป แต่พอเป็นซอสโกโก้ จะได้ความมันจากโกโก้แบบ 100%
ทางกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเอง ก็ต้องการผลักดันผลิตภัณฑ์โกโก้ จากประเทศไทยให้คนทั่วโลกได้รู้จักอยู่แล้ว ก็เลยเลือกให้เรามาร่วมออกบูธที่งาน Thaifax ในครั้งนี้ เพราะเราไม่ได้มีแค่ เครื่องดื่มที่ชงขายในร้านเท่านั้น ยังมีเครื่องดื่มสำเร็จรูป เป็นโกโก้ พร้อมดื่ม แบบทูอินวัน ออกมาจำหน่าย สินค้าตัวนี้ สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศ เป็นโอกาสในการสร้างชื่อให้กับ โกโก้จากประเทศไทยให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งเพิ่งเริ่มออกมาทำตลาด ตอนนี้อยู่ระหว่างการทำข้อตกลงกับตัวแทนในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อนำไปจำหน่าย
ไทยชนะประกวดเครื่องดื่มโกโก้โลกด้วยรสชาติแปลกใหม่
ดันโกโก้ไทยติดท็อป 10 ทั่วโลกต้องการ
นายชนินทร์ เล่าถึง โอกาสของ โกโก้จากประเทศไทยในการทำตลาดในต่างประเทศ ว่า เนื่องจากที่ผ่านมาประเทศไทยได้ส่งโกโก้ปลูกในประเทศไทย เข้าร่วมประกวดในเวทีระดับโลก ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นการสร้างปรากฎการณ์ที่ทำให้คนทั่วโลก รู้จักโกโก้จากประเทศไทยมากขึ้น เพราะบาริสต้าของเราได้ใช้โกโก้ไทยในการชงเครื่องดื่ม และคว้าเหรียญเงินในการประกวดดังกล่าว และการได้ชนะการประกวดครั้งนี้ คณะกรรมการรู้สึกว่าได้ดื่มโกโก้ที่มีรสชาติใหม่ แตกต่างจากที่เคยดื่ม ซึ่งทำให้หลายคนรู้จักโกโก้จากประเทศไทย ที่มีความแตกต่างจากโกโก้จากแหล่งผลิตอื่นๆ เพราะมีเอกลักษณ์ ตรงที่รสชาติที่หวานติดเปรี้ยงและมีความมันน้อย คนที่ได้ดื่มต่างชื่นชอบ เพราะดื่มโกโก้จากประเทศไทยรู้สึกถึงความสดชื่น
วันนี้ หลายประเทศก็เลยมุ่งเป้ามาที่โกโก้จากประเทศไทย จนผลผลิตโกโก้จากประเทศไทย ถูกสั่งจองและส่งออกไปหลายประเทศ เป็นโอกาสใหกับเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ให้กับมามีรายได้อีกครั้ง เพราะจากเดิมในอดีตเกษตรกรปลูกโกโก้ เจ็บช้ำมาเยอะ จากการที่มีพ่อค้าหัวใส มาหลอกลวงให้ปลูกโกโก้ บอกว่าจะกลับมาซื้อคืน แต่สุดท้ายก็ลอยแพทิ้งให้เกษตรกรต้องหาตลาดเอง และด้วยโกโก้ เป็นพืชที่ต้องอาศัยการแปรรูป เกษตรกรไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร กับผลผลิตโกโก้ที่ปลูก บางคนก็ยอมขาดทุน เลิกทำไป เราเองเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเกษตรกรผู้ปลูกโกโก้ในการระบายผลผลิตด้วย
นายชนินทร์ กล่าวว่า การที่เกษตรกรปลูกโกโก้ และมีผู้ประกอบการที่นำโกโก้จากไทยมาแปรรูปในครั้งนี้ นอกจากช่วยสร้างอาชีพให้กับเกษตรกรแล้ว ยังช่วยลดการนำเข้าโกโก้จากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยเองมีการนำเข้าโกโก้ปีละหลายหมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปของโกโก้ผง และที่ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มยังเลือกที่จะนำเข้าโกโก้จากต่างประเทศ เพราะประเทศไทยเอง ยังไม่มีโรงงานแปรรูปโกโก้ ที่รองรับอุตฯดังกล่าวได้ และ โกโก้จากประเทศไทยยังมีราคาแพงเมื่อเทียบกับต่างประเทศ ผู้ผลิตอาหารและเครื่อง ยังคงเลือกนำเข้าโกโก้จากต่างประเทศอยู่
เผยความสำเร็จ งัดกลยุทธ์ราคากลางคุณภาพเกรด A
เช่นเดียวเครื่องดื่มแบรนด์ดัง
นายชนินทร์ กล่าวว่า สำหรับในส่วนของ ร้านเครื่องดื่ม และคาเฟ่ของ Chocotoss ประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ เพราะสามารถขยายสาขาได้มากขึ้น มีคนสนใจซื้อแฟรนไชส์ของเรามากขึ้น จุดขายกลยุทธ์การตลาดของ ร้าน Chocotoss คือ กลยุทธ์ราคา ตั้งราคาในระดับกลาง แต่ขายเครื่องดื่มในระดับคุณภาพเกรด A เช่นเดียวกับร้านเครื่องดื่มชื่อดังอย่าง อะเมซอน ที่ตั้งราคากลางแต่เน้นคุณภาพ รวมถึงการจัดร้านที่ให้ความสำคัญกับการออกแบบร้านที่ดูทันสมัย มีกิมมิก
ในส่วนของเครื่องดื่มมีพัฒนาสูตรการชงเครื่องดื่มที่หลากหลาย เชื่อว่า คุณภาพระดับเดียวกับเรา และเป็นร้านโกโก้ และขายเครื่องดื่มในราคาระดับกลางแบบนี้ เราแทบจะไม่มีคู่แข่งเลย เพราะส่วนใหญ่ทุกคนจะเปิดตัวในแบบของร้านเครื่องดื่มกาแฟ อย่างไรก็ดี แม้ว่าเราจะเป็นร้านโกโก้ แต่เครื่องดื่มกาแฟของเราก็ไม่แพ้ใคร เพราะก่อนจะมาทำโกโก้ ทำกาแฟมาก่อน เปิดบริษัททำกาแฟ มาก่อน และใช้กาแฟจากโรงคั่วกาแฟทศกันต์ เป็นโรงคั่วกาแฟชื่อดังของเชียงราย ที่ร้านกาแฟดังๆ ต่างก็ใช้กาแฟจากโรงคั่วกาแฟแห่งนี้ อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะเป็นร้านโกโก้ แต่ยอดขายก็ยังคงเป็นเครื่องดื่มกาแฟที่ขายได้มากกว่า เพราะตลาดเครื่องดื่มโกโก้เมืองไทย ยังไม่ได้รับความนิยมเท่ากับกาแฟ
เปิดขายแฟรนไชส์คนที่สนใจ ตั้งเป้าลุย 150 สาขา
อย่างไรก็ดี ในส่วนของคนที่สนใจเปิดร้านกับ Chocotoss ทาง คุณชนินทร์ เจ้าของแฟรนไชส์ คิดค่าแฟรนไชส์ในราคา 390,000 บาท ไม่รวมค่าตกแต่งร้าน โดยทางคุณชนินทร์ บอกว่า การตกแต่งร้าน จะเป็นการออกแบบร่วมกัน เพราะต้องการให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะส่วนตัวเป็นสถาปนิก นักออกแบบอยู่แล้ว เราจะออกแบบให้ฟรี โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ละร้านพยายามจะหาข้อแตกต่าง โดยหยิบความชอบของเจ้าของร้านแต่ละร้านออกมาใช้ร่วมกับการออกแบบ จัดพื้นที่ 30% เพื่อจัดกิจกรรมที่เจ้าของร้านคิดขึ้นมา เช่น บางคนชอบเล่นหมากล้อม ก็จัดมุมหมากล้อมเอาไว้ภายในร้าน ทำให้แต่ละร้านมีกิมมิกที่แตกต่างกันออกไปตรงนี้
สำหรับโอกาสคืนทุน ทาง “คุณชนินทร์” บอกว่า ที่ผ่านมาแต่ละสาขาโอกาสคืนทุนแตกต่างกัน แต่ไม่เกิน 8 เดือน ซึ่งแต่ละร้านจะมียอดขายไม่เท่ากัน ต่ำสุดประมาณ 150 แก้วต่อวัน ยอดขายสูงสุดอยู่ที่วันละ 300 แก้ว ต่อวัน ในส่วนของกำไรหรือผลตอบแทนประมาณ 50-60% ต่อแก้ว ในส่วนของราคาเครื่องดื่มอยู่ที่ 50 บาท จนถึง 65 บาท การแข่งขันในตลาดเครื่องดื่มที่เป็นโกโก้ การแข่งขันไม่ได้สูงมากเหมือนร้านเครื่องดื่มที่เป็นกาแฟ แต่ความนิยมในเครื่องดื่มประเภทโกโก้เมืองไทย ไม่ได้สูงเหมือนกาแฟเช่นกัน
จากสถาปนิกทำเครื่องดื่มเป็นอาชีพเสริมรายได้มากกว่าอาชีพหลัก
คุณชนินทร์ กล่าวว่า จากความสำเร็จของ Chocotoss ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การวางแผนขยายสาขา มีการวางแผนขยายสาขาด้วยตัวเองเพิ่มมากขึ้น ตั้งเป้าไว้ว่าจะขยายให้ได้ 150 สาขา ทั้งแฟรนไชส์ และขยายเอง แต่เน้นขยายเอง เพราะดูจากตัวเลขการสั่งซื้อ วัตถุดิบเข้ามาของสาขาแฟรนไชส์ ทำให้เรามองเห็นโอกาสในการที่อยากจะขยายสาขาด้วยตัวเองให้มากขึ้น ส่วนที่มาของ Chocotoss เกิดขึ้นมาจากไปทำงานเป็นสถาปนิกที่เชียงใหม่ เป็นแหล่งปลูกกาแฟ ทำให้ตอนนั้นอยากเปิดบริษัทกาแฟ แต่พอเปิดบริษัทกาแฟ ก็เลยอยากจะมีร้าน และมีสาขาเยอะ ก็เลยลองเปิดร้านสาขาแรกที่เชียงใหม่ดู จนได้มารู้จักกับผู้ปลูกโกโก้ เห็นว่า โกโก้เป็นตลาดที่น่าสนใจ และคู่แข่งน้อย ปรับเปลี่ยนมามุ่งเน้นการทำโกโก้ เป็นหลักเป็นที่มาของ Chocotoss
สนใจ ติดต่อ Facebook : Choco Toss
