กล้วยหอม สินค้าการเกษตร ที่มีการปลูกกันมากในพื้นที่ภาคกลาง ราคากล้วยหอมจะราคาดีในช่วงเทศกาลตรุษจีน หรือ เทศกาลที่ต้องมีการไหว้ต่างๆ ราคากล้วยหอมจะแพง แต่พอหลังจากนั้น ราคากล้วยหอมก็จะถูกลง เกษตรกรได้มีการรวมกลุ่มกันแปรรูป ซึ่ง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพผลไม้สด และผลผลิตเกษตรแปรรูปบ้านดอนทอง อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม เป็นตัวอย่างของเกษตรกรที่นำมาแปรรูป จนประสบความสำเร็จ สร้างยอดขายหลายล้านบาท และยังได้วางขาย King Power ภายใต้แบรนด์ เพลิน และยังรับจ้างผลิตกล้วยหอมอบเนย ส่งร้านสะดวกซื้อชื่อดังและ โมเดิร์นเทรด อีกหลายแห่งภายใต้แบรนด์ OEM ปัจจุบันมีรายได้เดือนละกว่า 2 ล้านบาท
จากปัญหาผลผลิตการเกษตรล้นตลาด
นางสาวพชรวรรณ ไพรรักษ์บุญ เจ้าของ บริษัท วสช.กลุ่มผลไม้สดและผลผลิตแปรรูปบ้านดอนทอง จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ผลไม้แปรรูป เล่าว่า บริษัทฯ ของเราเริ่มต้นมาจากการเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ชื่อว่า วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพผลไม้สด และผลผลิตเกษตรแปรรูปบ้านดอนทอง ก่อตั้งมาได้ประมาณ 13 ปี โดยคุณแม่ “วันดี ไพรรักษ์บุญ” จุดเริ่มต้นมาจากด้วยในพื้นที่ มีเกษตรกรทำสวนผลไม้เป็นส่วนใหญ่ ผลไม้ที่ปลูกในพื้นที่ เช่น กล้วยหอม มะพร้าวน้ำหอม ชมพู่ ฝรั่ง ฯลฯ และในบางช่วงเวลาผลผลิตที่ออกมามากเกินไป ราคาตก เกษตรกรขาดทุน พอวันหนึ่งมีกองทุนหมู่บ้านเข้ามา และชาวบ้านในชุมชนก็เลยได้มารวมตัวกันนำผลผลิตจากสวนมาแปรรูปจำหน่าย โดยคุณแม่วันดี เป็นแกนนำในการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลไม้บ้านดอนทอง ฯ ตามที่กล่าวมาข้างต้น
สำหรับผลไม้ที่นำมาแปรรูป ในช่วงแรก ชาวบ้านเลือกทำ มะพร้าวแก้ว และ กล้วยหอมอบเนย แต่ด้วยมะพร้าวแก้วมีข้อจำกัดเรื่องน้ำหนักในการขนส่ง ตอนหลังเลิกทำไปเหลือ แค่กล้วยหอมอบเนย เพียงแค่ตัวเดียว เพราะน้ำหนักเบา ขนส่งได้สะดวก ในส่วนขั้นตอนการทำกล้วยหอมอบเนย เริ่มจากการนำกล้วยหอมมาสไลด์ และนำมาทอด ก่อนจะนำมาฉาบ และสุดท้ายก็นำมาอบลมร้อน เพื่อไล่น้ำมัน และช่วยให้เก็บได้นานขึ้น ไม่เหม็นฮืน ยังช่วยให้กล้วยกรอบมากขึ้นด้วย เหมาะกับคนรักสุขภาพกังวลเรื่องแคลอรี่จากน้ำมันที่ทอด
แจ้งเกิดผลิตภัณฑ์กล้วยหอมอบเนย
หลังจากได้ผลิตภัณฑ์กล้วยหอมทองอบเนย ออกมาขายแล้ว การทำตลาดของ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มอาชีพผลไม้สด และผลผลิตเกษตรแปรรูปบ้านดอนทอง ในช่วงแรกใช้การนำไปฝากตามร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหาร ชื่อดังในพื้นที่ใกล้เคียง หลังจากนั้น ขอได้ขึ้นทะเบียนโอทอป และส่งกล้วยหอมอบเนย เข้าประกวดสุดยอดโอทอป ได้โอทอป 4 ดาว ได้มีโอกาสได้ไปร่วมออกร้านในงานแสดงสินค้าโอทอปประจำปี ที่เมืองทองธานี ทำให้มียอดขายเพิ่มขึ้น ในงานยอดขายไม่ต่ำกว่า 60,000 บาท จากการออกร้านในงานไม่กี่วัน และพอลูกค้าได้ซื้อไปกิน พอปีต่อๆ มา ก็กลับมาซื้ออีก เพราะชื่นชอบ กล้วยหอมอบเนยของเราว่า อร่อยมาก
นางสาวพชรวรรณ เล่าถึงจุดเปลี่ยนที่ทำให้กล้วยหอมอบเนยเป็นที่รู้จัก มากขึ้น เกิดขึ้นมาจาก การได้ออกร้านในงานโอทอป หลังจากนั้น ได้ซื้อบูทขอออกร้านในงาน Thaifax งานแสดงสินค้าเพื่อการส่งออกด้านอาหาร ของกระทรวงพาณิชย์ โดยได้มีการปรับรูปแบบของกล้วยหอมอบเนยใหม่ ด้วยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความทันสมัย และเก็บได้นานมากขึ้น พร้อมกับบสร้างแบรนด์ ชื่อว่า เพลิน โดยใช้ซองบรรจุเป็นอลูมิเนียมฟอยด์ พร้อมการเติมไนโตรเจนลงไป ช่วยยืดอายุการเก็บได้ 1 ปี และป้องกันการแตกหักได้ การออกร้านในงาน Thaifax ครั้งนั้น ได้ออเดอร์ จากคู่ค้าประเทศจีน จำนวน 1 ตู้คอนเทนเนอร์ หรือ ประมาณ 250,000 ถุง รายได้ประมาณ 3-4 แสนบาท
รับจ้างผลิตแบรนด์ชั้นนำ ส่งออกต่างประเทศ
หลังจากนั้น ก็ได้เปิดรับจ้างผลิตไปพร้อมกับการส่งออก มีคนสนใจมาผลิตเพื่อสร้างแบรนด์กล้วยหอมอบเนยออกไปขายตามท้องตลาดหลายแบรนด์ ปัจจุบันมีรายได้จากการทำ OEM ถึง 70% ที่เหลือเป็นการขายภายใต้แบรนด์ ของ “เพลิน” ซึ่งมีทั้งส่วนของการส่งออก หยุดไปช่วงโควิด ส่วนตลาดในประเทศในส่วนของแบรนด์ เพลิน ได้มีโอกาสได้นำสินค้าไปวางจำหน่ายที่ King Power และในปีนี้ ได้หันมาตั้งตัวแทนจำหน่าย ให้มาช่วยทำตลาดกล้วยหอมอบเนย แบรนด์เพลิน ส่วนเราเองหันมาทำการผลิตเพียงอย่างเดียว เพราะเป็นสิ่งที่เราถนัดมากกว่า การทำตลาด
โดยในปีนี้ ได้มีการขยายการผลิต รองรับการเติบโตในส่วนของ OEM เพราะลูกค้ารับจ้างผลิต แบรนด์ของตัวเอง ได้มีการขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น ทำให้เราต้องขยายการผลิต รองรับด้วย คาดว่าจะต้องใช้เงินลงทุน ทำโรงงานในครั้งนี้ สูงถึง 30 ล้านบาท คาดว่าจะต้องใช้กล้วยหอม จากเกษตกรเพิ่มเป็น 2-3 ตันต่อวัน จากปัจจุบันที่ใช้กล้วยหอมอยู่ที่ 1-1.5 ตันต่อวัน เกษตรกรที่ปลูกกล้วยหอมทองป้อนให้กับโรงงานของเราจะเป็นเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียง เช่น ราชบุรี เพชรบุรี ประจวบฯ และนครปฐม
ช่วยชาวสวนระบายผลผลิตตกเกรด
ทั้งนี้ ในส่วนของราคากล้วยหอมทองวัตถุดิบหลักของโรงงานนั้น ทางบริษัททำคอนเท็กฟาร์มมิ่งกับเกษตรกร โดยรับซื้อตรงกับเกษตรกรในราคากิโลกรัมละ 5 บาท โดยเกษตรกร สามารถใช้กล้วยที่ตกเกรดจากการขายหน้าสวนมาส่งโรงงานได้ เนื่องจากทางโรงงานไม่จำเป็นต้องใช้กล้วยที่ภายนอกสวย อาจจะเป็นกล้วยไซด์เล็กหรือ กล้วยที่เปลือกมีลาย หรือ ช้ำ แต่ภายในต้องเป็นกล้วยคุณภาพดี ซึ่งเกษตรกรจะคัดเลือกกล้วยหอมที่เปลือกสวยๆส่งขายกับผู้บริโภค คัดในส่วนที่มีตำหนิมาส่งให้กับโรงงานของเรา ช่วยเกษตรกรระบายผลผลิตตกเกรดอีกทางหนึ่ง
สำหรับ จุดเด่นที่ทำให้กล้วยหอมอบเนย “เพลิน” แตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะการเลือกใช้วัตถุดิบ ทางโรงงานจะเลือกกล้วยหอมเป็นสายพันธุ์ไทยแท้เท่านั้น เนื่องจากปัจจุบันมีกลัวยหอมสายพันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่เกษตรกรที่หันมาปลูกกล้วยหอมสายพันธุ์ต่างประเทศที่มีการตัดต่อพันธุ์กรรมกันมากขึ้น เพราะให้ผลที่ใหญ่ ลูกค้านิยมโดยเฉพาะการนำไปเข้าพิธีต่างๆ แต่จะมีข้อเสียตรงรสชาติจะออกเปรี้ยว เนื้อไม่แน่น พอนำมาทำกล้วยหอมอบ จะได้กล้วยที่รสชาติไม่ดี เพราะการทำกล้วยอบเนย ไม่ได้มีการปรุงแต่งรสชาติความหวานจะมาจากความหวานของกล้วยตามธรรมชาติ ถ้าเราได้กล้วยที่รสชาติไม่ดี กล้วยอบของเราจะไม่อร่อย
ท้ายสุด ความสำเร็จของ “เพลิน” แบรนด์กล้อยหอมอบกรอบ เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการต่อยอดวิสาหกิจชุมชนเล็ก ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ที่สามารถผลักดันสินค้าเข้าไปขายในห้างโมเดิร์นเทรด และร้านสะดวกซื้อชั้นนำ และยังได้มีโอกาสส่งออกไปต่างประเทศ ความสำเร็จทั้งหมด มาจากความตั้งใจทำกล้วยหอมอบกรอบให้มีรสชาติที่ดี ถูกปากลูกค้า และเกิดการบอกต่อ และยังได้รับความช่วยเหลือหน่วยงานรัฐ ผลักดันวิสาหกิจชุมชนอีกทางหนึง ทำให้สามารถสร้างธุรกิจและรายได้ที่ยั่งยืนต่อไป
ติดต่อ Facebook : กล้วยเพลิน Banana Chips
โทร. 09-7149-3624
