(ชมคลิป) “ไก่บนบาน” ของแก้บนย่อยสลายได้ ตีตลาดสายมู-รักษ์โลก ชูกิมมิค “ขูดเลข” ขอหวยเจ้าแรกในไทย

พาทำความรู้จักกับ “ไก่บนบาน” ผลิตภัณฑ์สายมูรักษ์โลกที่ถูกออกแบบมาเพื่อต้องการลดปัญหาขยะจากสิ่งของแก้บน ปิ๊งไอเดียทำจากเศษวัสดุเยื่อกระดาษที่สามารถย่อยสลายได้ 100% แจ้งเกิดเป็นแบรนด์ “BonBan บนบาน ของแก้บนรักษ์โลก” พร้อมชูกิมมิคเอาใจคอหวยด้วยการ “ขูดเลข” เสี่ยงดวง

นายถากูร เชาว์ภาษี หรือ หมู เจ้าของธุรกิจ “ไก่บนบาน” ของแก้บนรักษ์โลก เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจนี้เริ่มต้นจากการมองเห็นถึงปัญหาขยะที่เกิดจากสิ่งของที่นำมาแก้บนในวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) โด่งดังและเป็นกระแสและถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ทำให้มีผู้คนศรัทธาและตามมาบนบานกันจำนวนมาก แต่สิ่งที่ตามมาและเกิดเป็นปัญหาคือสิ่งของที่ผู้คนนำมาบนบานกับทางวัดมีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนล้น ทำให้ตนและแฟนมองเห็นถึงปัญหาดังกล่าวจึงได้ใช้ความรู้ความสามารถด้านการออกแบบลองออกแบบผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำมาแก้บนได้และรักษ์โลกไปในตัวได้ จึงเกิดเป็นผลิตภัณฑ์ “ไก่บนบานรักษ์โลก” นั่นเอง ปัจจุบันเพิ่งเริ่มต้นธุรกิจและขายมาได้ประมาณ 2 เดือน

ทำไมต้องทำธุรกิจเกี่ยวกับของแก้บน

นับย้อนไปในช่วงโควิด-19 ตลาดสายมูเริ่มคึกคักและคนส่วนใหญ่เข้าถึงเป็นจำนวนมาก ซึ่งไอ้ไข่เองก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก ตีตลาดได้ทั้งกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ ทำให้ตลาดสายมูคึกคักเป็นพิเศษและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งคุณหมูเองเติบโตมาในจังหวัดนครศรีธรรมราชและคุ้นเคยกับวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อยู่แล้ว บวกกับเป็นสายมูเหมือนกับคนอื่น จึงปิ๊งไอเดียการทำธุรกิจในตลาดสายมูนั่นเอง

เป็นเด็กรุ่นใหม่จะทำธุรกิจต้องมี “ทุน”

หลังจากที่เริ่มทดลองทำผลิตภัณฑ์คุณหมูก็เริ่มมองหาโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในตลาดเพื่อต่อยอดธุรกิจ จึงได้มีการเขียนแผนธุรกิจ ออกแบบผลิตภัณฑ์ต้นแบบและมีโอกาสได้นำผลิตภัณฑ์ไปแสดงในงาน Bangkok Design Week เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมาซึ่งเป็นการนำผลิตภัณฑ์ “ไก่บนบานรักษ์โลก” ออกสื่อครั้งแรก และได้กระแสตอบรับกลับมาค่อนข้างดี ทำให้ทางร้านนำฟีดแบกดังกล่าวเข้าไปขอทุนสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์และธนาคารออมสิน ซึ่งสามารถได้ทุนสนับสนุน จำนวน 200,000 บาท กลับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และดำเนินธุรกิจในรูปแบบอุตสาหกรรมขนาดเล็กได้

จุดเด่นของ “ไก่บนบานรักษ์โลก”

การทำผลิตภัณฑ์ “ไก่บนบานรักษ์โลก” ขึ้นมาคุณหมูบอกว่าจุดประสงค์คือต้องการเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการลดปัญหาขยะที่เกิดจากสิ่งของแก้บน ทำให้ “ไก่บนบาน” ถูกผลิตขึ้นมาจากวัสดุเศษเยื่อกระดาษรีไซเคิลและสามารถย่อยสลายได้ 100% ใน 2-5 เดือน ซึ่งในตัวไก่จะมีเมล็ดพันธุ์ดอกไม้มงคล ที่ช่วยส่งเสริมด้านการงาน ความรักและสุขภาพ โดยในอนาคตก็อาจจะมีการทำเป็นต้นไม้เพื่อที่จะสามารถเพิ่มการปลูกป่าได้อีกด้วย

กิมมิคที่ “คอหวย” ต้องถูกใจ

ไม่พูดถึงไม่ได้สำหรับรายละเอียดที่น่าสนใจสำหรับคอหวยคือ “การขูดเลข” ซึ่งทางแบรนด์เพิ่มส่วนนี้เข้าไปเพื่อสร้างความน่าสนใจให้กับตัวผลิตภัณฑ์และตอบโจทย์ตลาดสายมูได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีลูกค้าขูดเอาเลขและนำไปซื้อลอตเตอรี่แล้วถูกรางวัลเลขหน้า 3 ตัว โกยเงินไปเกือบแสน เรียกได้ว่าถูกใจคอหวยเป็นอย่างมาก

ทำไมต้องเป็น “ไก่”

การจะเลือกสัญลักษณ์หนึ่งอย่างมาเป็นผลิตภัณฑ์นั้นจำเป็นต้องเป็นสัญลักษณ์ที่มีความหมายและมีความน่าสนใจ ซึ่งการที่ทางแบรนด์เลือกสัญลักษณ์เป็น “ไก่” มาทำเป็นผลิตภัณฑ์ก็เพราะว่าได้มีการศึกษาและสำรวจว่าของแก้บนที่คนส่วนใหญ่นำมาแก้บนกันมากที่สุด อะไรที่มีมูลค่าทางการตลาดสูงที่สุด ซึ่งคำตอบก็คือ “ไก่” คุณหมูมองว่าไก่ที่ถูกนำมาแก้บนในวัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) อาจจะมีมูลค่ามากที่สุดและเป็นอันดับหนึ่งของประเทศได้ “ไก่” จึงเป็นคำตอบสำหรับสัญลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกและในอนาคตอาจจะมีแบบอื่นตามมา

ทั้งนี้คุณหมูเปิดเผยว่ามีความต้องการสร้างแบรนด์ขึ้นมาเพื่อเป็นผู้ผลิตขายส่งเป็นหลัก รวมถึงที่หน้าวัดก็มีพ่อค้าแม่ค้าที่รับของแก้บนหรือของกราบไหว้มาขายกันอยู่แล้ว ทำให้ทางแบรนด์มองว่าการเป็นผู้ผลิตและรับตัวแทนจำหน่ายจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าเปิดร้านขายปลีกเอง รวมถึงกระจายรายได้ให้กับตัวแทนจำหน่ายที่เป็นพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่และนอกพื้นที่ได้อีกด้วย

ปัจจุบันไม่มีหน้าร้านออฟไลน์แต่มีเปิดขายออนไลน์ทางเพจเฟซบุ๊กเพื่อเป็นช่องทางติดต่อและประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้า ซึ่งในตอนนี้มีตัวแทนจำหน่ายรับไปวางขายที่ร้านในสนามบินนครศรีธรรมราช ร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดอย่างร้านครัวตังเก รวมถึงโรงแรมที่จังหวัดพังงา ซึ่งตัวแทนจำหน่ายเหล่านี้ต้องการนำเอาผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ไปวางขายเพื่อซัพพอร์ตตลาดสายมูในยุคปัจจุบัน

การถวายไก่เป็นสิ่งของแก้บนหรือขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้มีแค่ที่วัดเจดีย์ (ไอ้ไข่) เพียงที่เดียวแต่ยังมีสถานที่อื่นๆ ที่มีพระนเรศวร พันท้ายนรสิงห์ หรือหลวงพ่อรวยและอีกมากมายที่คนนิยมนำไก่ไปถวายแก้บนหรือขอพร ทำให้ผลิตภัณฑ์ไก่บนบานของทางร้านสามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้หลากหลายขึ้น นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าที่นอกจากสายมูแล้วยังมีลูกค้าที่ชื่นชอบในการออกแบบตัวผลิตภัณฑ์ซื้อไปเก็บสะสมอีกด้วย

ปัจจุบัน “ไก่บนบาน” มีขนาดเดียวคือ 16 เซนติเมตร น้ำหนักเบาประมาณ 60 กรัม มีหลายสี ได้แก่ ไก่แก้บนออริจินอลสีกระดาษรีไซเคิล ราคา 159 บาท แบบที่สองคือไก่แก้บนประจำวันเกิดซึ่งจะมีสีครบทั้ง 7 วัน ราคา 169 บาท โดยสีที่ใช้จะเป็นสีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แบบที่สามคือไก่แก้บนพรีเมี่ยมสีเงินและสีทองหรือเรียกว่า ไก่เงินและไก่ทอง ซึ่งได้มีการลงทองคำเปลวที่สามารถย่อยสลายได้ ราคา 259 บาท ปัจจุบันขายไปได้ประมาณ 2,000 ชิ้นภายใน 2 เดือน

สำหรับกำลังการผลิตในตอนนี้ทางแบรนด์มีโรงงานขนาดเล็กเป็นของตัวเองและทำกันเองภายในครอบครัวและมีเพื่อนบ้านมาช่วยอีกแรงพร้อมกับรับทำ OEM ซึ่งใน 1 วันสามารถผลิตไก่บนบานได้ประมาณ 200 ตัว ซึ่งในอนาคตถ้าหากว่าผลตอบรับดีและมียอดการสั่งซื้อมากขึ้นก็อาจจะมีการเพิ่มกำลังคนเข้ามาช่วยผลิตเพื่อที่จะได้ยอดการผลิตเพิ่มขึ้นนั่นเอง

นอกจากนี้ผลตอบรับจากลูกค้าทางแบรนด์เผยว่ามีลูกค้าเริ่มสนใจและเห็นด้วยกับการแก้ปัญหาขยะ ซึ่งเมื่อมาเห็นผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ก็เห็นด้วยและบอกต่อปากต่อปาก รวมถึงมีการติดต่อจากหน่วยงานภาครัฐอย่าง ททท. ให้ไปออกบูธในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทำให้มีคนรู้จักมากยิ่งขึ้น พร้อมกับแชร์ผลิตภัณฑ์ของทางแบรนด์ต่อๆ กันอีกด้วย

ตลาดสายมูในมุมมองของเจ้าของแบรนด์ “แนวทางของตลาดสายมูค่อนข้างมาแรงมากในตอนนี้ คนพยายามทำผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสายมูกัน ซึ่งสายงานออกแบบเองก็ออกแบบงานที่เกี่ยวกับการมูมากขึ้น หลายๆ คนก็มองว่าตลาดสายมูอาจจะเป็นซอฟต์พาวเวอร์ของไทยได้ เราเห็นกระแสการรักษ์โลกที่มีเพิ่มขึ้นทั่วโลกในตอนนี้เราก็เลยจับเอาสองสิ่งนี้มาประกอบกัน จนมาเป็นผลิตภัณฑ์ของเราครับ” เจ้าของแบรนด์ระบุ

ตลาดสายมูจะยังเติบโตได้หรือไม่

ในช่วงโควิด-19 ตลาดสายมูคึกคักเป็นอย่างมาก ซึ่งในอดีตอาจจะได้เห็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก แต่ในปัจจุบันเริ่มมีผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สายมูกันมากขึ้นด้วยการออกแบบที่เข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ จะสังเกตได้จากผลิตภัณฑ์สายมูต่างๆ ถูกออกแบบมาให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลาย เช่น สร้อยข้อมือ วอลเปเปอร์โทรศัพท์มือถือ หินนำโชคต่างๆ ซึ่งการออกแบบไก่บนบานออกมาในรูปแบบของการรักษ์โลกได้ด้วยทางร้านมองว่าเป็นอีกโอกาสที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เช่นเดียวกัน

ในส่วนของการออกแบบไก่บนบานทางแบรนด์มีการวางแผนพัฒนาให้เป็นงานศิลปะมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะมีการร่วมมือกับศิลปินท่านอื่นๆ เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์และเพิ่มมูลค่ามากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งสร้างความหลากหลายให้กับตัวผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้เจ้าของแบรนด์ยังมีการทำแคมเปญรวบรวมขยะ คัดแยกและอาจจะนำมาหลอมเพื่อนำมาผลิตเป็นไก่แก้บนหรือสินค้าส่งเสริมสายมูเพิ่มขึ้น ส่วนเรื่องการขยายตลาดทางแบรนด์มองว่าได้วางแผนของแก้บนเป็นสัญลักษณ์อื่นนอกจากไก่ เช่น ม้าลาย เป็นต้น พร้อมกับทำการตลาดในประเทศมากขึ้น

อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ “ไก่บนบานรักษ์โลก” เป็นอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ตลาดสายมูที่เขาถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายวัย เนื่องจากตลาดสายมูในปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก พร้อมกับมีแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งไอเดียการทำผลิตภัณฑ์ที่ทั้งสามารถเป็นของแก้บนหรือนำไปขอไหว้กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือศรัทธาได้แล้วยังตอบโจทย์การรักษ์โลกและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย

ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : BonBan บนบาน ของแก้บนรักษ์โลก