การต่อยอดและพัฒนาเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบกาเอสเอ็มอี ยุคใหม่จะต้องคิดลงมือทำ เพราะการแข่งขันบนโลกธุรกิจในปัจจุบัน ไม่ได้มาง่ายเหมือนในอดีต ซึ่งทายาทธุรกิจ เมื่อต้องมาสืบทอดกิจการต่อ ก็ต้องคิดอย่างหนัก ว่าจะนำพากิจการที่ครอบครัวทำไว้ไปในทิศทางไหน ซึ่งมีคนรุ่นใหม่หลายคนประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับ ทายาท เจ้าของลูกชิ้นปลาเจ้แหม่ม เมืองนครศรีธรรมราช รายนี้ พิสูจน์ให้เห็นว่า สามารถยกระดับลูกชิ้นปลา ที่ส่งขายตลาดสด ขึ้นมาเป็นสินค้าพรีเมี่ยมทำให้คนทั้งประเทศรู้จัก ลูกชิ้นปลาเจ้แหม่ม เมืองนครฯ
นำของเหลือทิ้ง สร้างมูลค่าเพิ่ม
นางสาววัชรี ปัญญาสะ กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัดพรปัญญา เจ้าของปลาทูแท่งอบกรอบโกเล Gole Crispy จังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า เดิมครอบครัวผลิตลูกชิ้นปลา ส่งขายพื้นที่ภาคใต้ หลายคนรู้จักกันในชื่อของ “ลูกชิ้นปลาเจ้แหม่ม” ซึ่งทำมานานเกือบ 20 ปีแล้ว กลุ่มลูกค้าจะเป็นพ่อค้า แม่ค้าในตลาดสด โรงเรียน ตลาดนัด ในพื้นที่ จังหวัดภาคใต้ ซึ่ง ตนเองเป็นทายาทรุ่นที่ 2 ทำต่อจากพ่อ แม่ ซึ่งการมาทำต่อครอบครัวครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากคุณพ่อป่วย เป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบไม่สามารถทำงานได้ ทำให้ตนเองก็เลยต้องรับช่วงดูแลกิจการต่อ การเริ่มต้นครั้งนี้ไม่ได้ง่าย เพราะไม่มีประสบการณ์ หรือเงินลงทุนมากนัก ทุกอย่างต้องเริ่มต้นใหม่ พอมาเจอวิกฤติต่าง ๆ ก็ต้องผ่านไปให้ได้ จนกระทั่งเมื่อปี 2562 เกิดวิกฤติโควิด กลุ่มลูกค้า เป็นโรงเรียน ตลาดนัด ตลาดสด ฯลฯ ก็ปิดกันหมด ช่วงนั้น ขายสินค้าแทบจะไม่ได้เลย
ทั้งนี้ ต้องกลับมามองว่า และจะทำอะไรได้บ้าง พอดีก็หันมาเห็นว่า มีวัตถุดิบที่เป็นก้างปลาที่มาจากการที่เราเลาะเอาเนื้อมาทำลูกชิ้น เหลือก้างปลาจำนวนมาก เพราะในแต่ละวันใช้ปลาในกระบวนการผลิตลูกชิ้นไม่ต่ำกว่า วันละ 5 ตัน ซึ่งก้างปลาเหล่านั้น จะมาทำประโยชน์อะไรบ้าง และทราบมาว่าในต่างประเทศเองมีงานวิจัยและนำก้างปลา จมูกปลา มาผลิตแคลเซียม จำหน่าย ก็เลยเกิดแนวคิดว่า น่าที่จะผลิตสินค้าที่มีแคลเซียมจากก้างปลาออกมาจำหน่ายได้ หลังจากนั้น ได้ส่งก้างปลาไปเข้าห้องแล็บตรวจหาว่า ก้างปลามีแคลเซียมอยู่เท่าไหร่ และพบว่าก้างปลามีแคลเซียมสูงถึง 60% เป็นที่มาว่า จะสร้างมูลค่าก้างปลาเหล่านี้ ออกมาในรูปแบบใด
ต่อยอดงานวิจัยสารสกัดก้างปลา
โดยได้ขอความช่วยเหลือกับหน่วยงานวิจัยของภาครัฐ จากอุทยานวิทยาศาสตร์ในพื้นที่ภาคใต้ อย่างมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้ามาช่วยทำวิจัย จนได้ออกมาเป็น ปลาทูแท่งอบกรอบโกเล โดยได้นำก้างปลามาเป็นส่วนผสมกับปลาทู ซึ่งใช้ก้างปลา และส่วนผสมอื่นๆ ประมาณ 10% ในขณะที่ส่วนผสมหลัก คือ ปลาทู 90% และใช้กระบวนการอบกรอบแทนการทอดที่ต้องใช้น้ำมัน เป็นทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพที่ต้องการสแน็ก ขนมขบเคี้ยวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย หรือ เด็กที่ชื่นชอบการกินสแน็ก ผู้ปกครองก็มีสแน็กที่เด็กกินได้และมีประโยชน์ด้วย เนื่องจากเป็นสแน็กมีปริมาณแคลเซียมสูงถึง 6 เท่า เพราะแคลเซียมที่ได้มาจากสารสกัดจากก้างปลา มีปริมาณแคลเซียมสูงกว่า
ช่องทางการจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ ได้เริ่มนำออกมาวางจำหน่ายเมื่อปี 2564 ที่ผ่านมา เป็นการวางขายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ส่วนหนึ่งมองตลาดไปที่กลุ่มมุสลิม เพราะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั่วโลก เนื่องจากสินค้าของเราเป็นปลา ที่มุสลิมสามารถรับประทานได้ ด้วย ในส่วนการทำตลาดในช่วงที่ผ่านมาได้เข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจกับหน่วยงานของภาครัฐ และได้มีการนำสินค้าไปออกโรดโชว์ในต่างประเทศ อยู่ระหว่างการรอออเดอร์จากต่างประเทศ ด้วย ส่วนตลาดในประเทศ มีแผนที่จะนำสินค้าไปวางในโมเดิร์นเทรด
นอกจากนี้ ในส่วนของแผนการตลาดที่ผ่านมา ได้มีโอกาสไปออกรายการ Shark Tank Thailand ซีซั่น 3 รายการที่เปิดให้ผู้ประกอบการมาร่วมนำเสนอธุรกิจ แก่ชาร์คนักลงทุน และในครั้งนั้น เราได้ชนะใจชาร์คนักลงทุนถึง 2 คนได้แก่ ชาร์คเต้ ภูริต ภิรมย์ภักดี” กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บุญรอด เทรดดิ้ง จำกัด และ “ชาร์คประพล มิลินทจินดา” ประธาน คอมมูนิตีมอลล์ พีเพิล พาร์ค อ่อนนุช ร่วมลงทุนด้วยเงิน 2 ล้านบาท แลกกับการถือหุ้น 40%
“จุดเด่นที่ทำให้ทีมชาร์คเลือกธุรกิจ ปลาทูแท่งอบกรอบโกเล ในครั้งนี้ ส่วนหนึ่งมาจากความโดดเด่นของตัวผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน และเป็นของทานเล่นเพื่อสุขภาพที่มีส่วนผสมของแคลเซียมสกัดจากก้างปลา ผลิตมาจากปลาแบบ 100% ไม่ส่วนผสมของแป้ง นอกจากนี้มาจากความตั้งใจสร้างธุรกิจของเราในวันนั้น ที่ทีมชาร์คมองเห็นในความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะผลิตสินค้าทีดีและมีประโยชน์ออกมานำขายให้กับผู้บริโภคไทยพุทธ และมุสลิมทั่วโลก นอกจากการได้ดิวในรายการ Shark Tank Thailand ยังได้ไปร่วมประกวดในหลายเวที เช่น การประกวดในโครงการ LION Health Startup Business Contest เป็นโครงการประกวดแผนพัฒนาธุรกิจเพื่อสุขภาพ และมีผู้ประกอบการ 28 รายยื่นส่งแผนเข้าประกวด และได้รางวัลชนะเลิศในการประกวดครั้งนั้นด้วย ” วัชรีกล่าว
เตรียมยกระดับลูกชิ้นปลา เจาะกลุ่มพรีเมี่ยมมากขึ้น
วัชรี กล่าวถึงในส่วนของกิจการลูกชิ้นปลาเจ้แหม่ม ซึ่งยังคงเป็นกิจการหลักของตนเองนั้น ปัจจุบันกลับมาสร้างยอดขายได้เหมือนเดิม ตลาดสด โรงเรียน และอื่นๆที่เราส่งขายในขณะนี้ ก็กลับมาเปิดเหมือนเดิม ซึ่งในส่วนของลูกชิ้นปลา มีแผนที่จะพัฒนาต่อยอด จากเดิมขายลูกชิ้นที่เจาะกลุ่มตลาดแมสทั่วไป หันมาผลิตสินค้าที่เจาะกลุ่มพรีเมียมมากขึ้น โดยเตรียมจะออกลูกชิ้นปลาที่มีเทคเจอร์ที่เป็นเนื้อกุ้ง และแมงกะพรุน เป็นการนำเนื้อกุ้งและแมงกะพรุนผสมลงไป เพื่อให้การกินลูกชิ้นปลาอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ไม่เหมือนลูกชิ้นปลาทั่วไปที่ขายตามท้องตลาด เจาะกลุ่มตลาดลวก จิ้ม และยำ
ติดต่อ Facebook : ปลาทูแท่งอบกรอบโกเล Gole Crispy Mackerel
โทร. 09-5481-9775
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *
