“คือเราไม่ได้เดินมาถวายบังคมคนที่เป็นลูกค้า ไม่ได้เสิร์ฟ แต่เขากำลังทำภารกิจของเขาในเวลานั้นเหมือนย้อนมิติกลับมา เราให้ลูกค้าไปนั่งตรงนั้นเพราะอะไรคุณนั่งข้างนอกไม่ได้ฟิลลิ่งจริง ๆ ไม่เหมือนกันตรงนั้นแสงสีเสียงนักแสดงเขาพุ่งมาหาคุณทุกอย่างถ้าอินไปตามเรื่องราวของเรา
ขนคุณต้องลุกน้ำตาคุณต้องมีซึมบ้าง เราอยากให้คุณลองจำลองเหตุการณ์ว่าถ้าคุณเป็นคนที่รอคนที่คุณรักไปรบและเขาสูญเสียคุณจะรู้สึกอย่างไรในเวลานั้น กับเวลา 2 นาทีตรงนั้นคุณจะรู้สึกได้ ว่าเหตุการณ์อย่างนี้ถ้าเกิดในอดีตมันเป็นอย่างนี้” ปฏิเสธไม่ได้จริง ๆ ว่ายุคนี้กระแสไวรัลที่เกิดขึ้นในโลกโซเชียลกลายเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญช่วยแจ้งเกิด “ธุรกิจ” หลาย ๆ ธุรกิจได้อย่างน่าชื่นใจแทนเจ้าของกิจการ แม้ว่าอาจจะมาพร้อมทั้งกระแสบวกและก็มี “ลบ” บ้างอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่สุดท้ายแล้วถ้าเจตนาเราดีเสียอย่างมันก็ไม่มีอะไรที่ลบล้างได้เช่นกัน หลังจากเปิดร้านได้ในระยะสัปดาห์แรก ๆ ของ “ฤาดี” คาเฟ่ อโยธยา (Ruedee Café Ayothaya) คุณเจี๊ยบ-วัชรินทร์ ศุปธรรม เจ้าของร้าน บอกกับเราว่าก็ยังเงียบ ๆ อยู่จนกระทั่งเริ่มมีลูกค้าเข้ามาและเกิดการรีวิวโดยเขาเองโพสต์ลงสื่อโซเชียลและมีการแชร์ต่อ ๆ กัน จากนั้นก็เกิดกระแสการบอกต่อหรือไวรัลให้กับทางร้านเองต่อเนื่องมาจนถึงในขณะนี้ เป็นเวลากว่า 4 เดือนแล้วสำหรับกิจการร้านคาเฟ่ที่ตนเองมีความมุ่งเน้นอยากฉีกแนวเพื่อสร้างความต่างทางธุรกิจให้เกิดขึ้น “เราใส่ใจตั้งแต่ชื่อเมนูเลย จนวัตถุดิบ จนพร็อพ จนโชว์ อย่างโชว์ “สายโลหิต” เมื่อกี้นี้เป็นโชว์แห่งความรักชาตินะครับ ความรักชาติเนี่ยมันมักจะเกิดขึ้นมาพร้อมกับความสูญเสีย แล้วอารมณ์แห่งความรักชาติเนี่ยมันจะไม่เกิดถ้าบ้านเมืองอยู่ในภาวะปกติทุกคนก็จะเฉย ๆ แต่เมื่อไหร่บ้านเมืองมีศึกสงครามนะครับ เลือดรักชาติมันจะพลุ่งพล่านกาแฟแก้วนี้เราโชว์ให้เห็นจุดตรงนี้นะครับ เราใช้คำว่า “สายโลหิต” แล้วเราก็สื่อไปในทางนี้ว่า ความรักชาติพอมันเกิดมันสูญเสียเลือดต้องออกนะครับ กาแฟสายโลหิตเนี่ยเราสร้างสตอรี่ขึ้นมาไม่เกี่ยวกับขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม ใด ๆ ทั้งสิ้น หรือไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ เราสร้างขึ้นมาเองไม่ได้เกี่ยวกับอะไรทั้งสิ้น” เป็นการแสดงที่เน้นโชว์ความเป็นไทยเพื่อหวังจะปลุกพลังเลือดรักชาติของคนไทยผ่านการนำเสนอเมนูกาแฟที่ชื่อว่า สายโลหิต เท่านั้น
“ฤาดี” คำไทย ๆ ที่มาจากภาษาสันสกฤตแปลว่า “ความยินดี”
ผมเอามานำเสนอให้คนรู้จัก ต่างชาติมาเขาก็ชอบ คนไทยยินดีที่จะพาเพื่อนถ้าเวลาเขามีเพื่อนมาเที่ยวเขาจะนึกถึงผมพามา มาให้ฝรั่งได้เห็นความเป็นไทย“ฤาดีเนี่ย(อ่านว่า รือดี) แปลว่า ความยินดี(เป็นภาษาสันกฤต) เราต้องการใช้ตัวหนังสือพร้อมกับคำที่ไม่ค่อยมีคนใช้ ตัว “ฤ” เนี่ยจะไม่ค่อยมีคนใช้ แล้วมันมีความเป็นไทยนะครับและผมสามารถมาดัดแปลงให้เป็นเหมือนตัว “พญานาค” ได้ถ้าสังเกตดี ๆ เนี่ย ตัว “ฤ” เนี่ยผมจะแสดงความเป็นพญานาคอยู่ในนั้น”โดยต้องการให้ร้านมีความเป็นไทย ตั้งแต่เรื่องของตัวโครงสร้างอาคารที่เป็นทรงไทย ไม่เหมือนใคร และให้ดูโดดเด่น มีองค์พญานาคที่อยู่ด้านหน้าเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของทางร้านซึ่งไม่ได้สื่อทาง “สายมู” แต่อย่างใดเราต้องการสัญลักษณ์ที่ชัดเจนให้ใครเห็นก็จำเราได้ ส่วนความศรัทธา ความเชื่อมั่น อยู่ที่ตัวบุคคล
“คือเราตั้งใจมาด้วยที่อยุธยาเนี่ย หนึ่งมีความเป็นไทยชัดเจนมาก เป็นเมืองเก่า แล้วTheme ของร้านเราเนี่ยมันดูแล้วมันไปในแนวทางนี้นะครับ ผมว่าตรงนี้มันตรงจุด ผมก็เลยเอาจุดนี้ให้มาอยู่คู่กับโลเกชันตรงนี้นะครับ ซึ่งมันก็โอเคมันไปด้วยกันได้ดี กับสิ่งที่เราโชว์ออกมา สิ่งที่เราเสนออกไปนะครับ แม้แต่ “เมนู” ชื่อเครื่องดื่มความเป็นไทยมันมาครบ ซึ่งมันเหมาะกับตรงนี้มาก”
ธุรกิจคาเฟ่ “ขายกาแฟ” การแข่งขันสูง! ทำอย่างไรเพื่อให้แตกต่าง
ด้วยความแตกต่าง ทั้งรูปลักษณ์อาคาร การเสิร์ฟ การแสดง รสชาติของกาแฟที่ไม่เหมือน“คืออันดับแรกเนี่ยผมไม่ขายแก้วพลาสติกนะ เพราะว่าผมว่ามันกินแล้วไม่อร่อย แก้วพลาสติกกินแล้วไม่อร่อยสำหรับผมถ้าแก้วจริงมันกินแล้วอร่อยกว่า สองมันต้องถ่ายรูปได้สวยเพราะฉะนั้น พร็อพมันต้องมาเต็มทุกแก้วพร็อพต้องจัดเต็ม! แล้วต้องเข้ากับร้านเรา เข้ากับความเป็นอยุธยาเข้ากับความเป็นไทย อันนี้สำคัญถ่ายออกมาต้องสวยต้องอลังการ สุดท้ายเครื่องดื่มต้องอร่อยด้วยรสชาติต้องได้ด้วยต้องไม่เหมือนใคร”เราใช้ความเป็นไทยหลายอย่าง อย่างแก้วนี้ “สายโลหิต” เป็นน้ำกระเจี๊ยบกับราสเบอร์รี่และกาแฟ ซึ่งเราต้องทำให้รสชาติมันกลมกล่อมกินได้อร่อย บางแก้วคุณอาจจะคิดไม่ถึงว่าเอา “มะกรูด” มาทานคู่กับกาแฟได้ด้วย! แล้วมันต้องอร่อยด้วย ต้องมาลอง “อย่างเมนู “เจดีย์” แล้วมันก็มีโชว์ชื่อชุดเจดีย์ด้วยนะ เราก็คิดว่าชื่อมันไทยพร็อพมันมาเป็นเจดีย์แล้วทีนี้เครื่องดื่มอะไรที่มันจะเป็นไทยล่ะ ต้องคำนึงคาแร็กเตอร์เราก็เอา “น้ำมะกรูด” เอามะกรูดมันเป็นไทยบางคนเกิดมาไม่เคยกินน้ำมะกรูดเลยทั้งชีวิต อย่าว่าแต่จะกินกาแฟมะกรูด มะกรูดเปล่า ๆ ไม่รู้ว่าน้ำกินได้ด้วยซ้ำ แต่ผมทำให้มันไปด้วยกันได้ แล้วต้องอร่อยด้วย สำหรับผมนะเมนูน้ำมะกรูดกับกาแฟเนี่ยอร่อยที่สุดในร้านนี้นะ ถ้าให้ผมเลือกนะผมกินเมนูนี้”
ความขม บางคนไม่ดื่มกาแฟเพราะมันมีรส “ขม” แต่ร้านผมทำให้มันดื่มง่าย คนไม่เคยดื่มกาแฟก็ดื่มได้ ซึ่งที่นี่เครื่องดื่มรสของ “กาแฟ” มันจะมาสุดท้ายเลย มันไม่ขมโดด“แล้วก็ยังมีชื่อแปลก ๆ อีกอย่าง เฝ้าพระอินทร์ แปลกมั้ยใครฟังชื่อนี้แล้วก็หัวเราะกันทุกคน ชื่อจริง ๆ ของมันคือเฝ้าพระอินทร์แล้วค่อยกินกาแฟ เฝ้าพระอินทร์คือการนอน ตื่นมาแล้วค่อยมากินกาแฟแต่มันยาวไปผมเลยเอาแค่ เฝ้าพระอินทร์ สั้น ๆ แล้วพร็อพที่มันมาคือ เป็นชฎาของพระอินทร์เลย คุณก็นั่งอยู่ข้างหน้าคุณเฝ้าพระอินทร์ตรงนี้เลย (หัวเราะ) ทุกอย่างต้องสอดคล้อง ไม่ใช่มั่ว ๆ มาไม่ได้ มันต้องเข้ากันหมด ชื่อเครื่องดื่ม น้ำเครื่องดื่ม พร็อพ มันต้องไปทางเดียวกัน”
เครื่องดื่มนอกจาก “กาแฟ” แล้วก็ยังมี น้ำหวาน อย่างมีน้ำมะตูมชื่อ “นิรมิต” อย่างเงี้ยแล้วก็มี น้ำมะกรูด น้ำผึ้ง โซดา อันนี้เราใช้ชื่อว่า Love You Forever ให้เป็นต่างชาติสักนิดหนึ่งคำนี้แปลออกมาใครก็เข้าใจ Love You Forever = รักกันตลอดไป“เราสื่อทำไมเราใช้น้ำผึ้ง น้ำผึ้งเนี่ยมันไม่มีคำว่าหมดอายุถูกมั้ยครับถ้าเรารู้จักมันน่ะ มันไม่มีคำว่าหมดอายุมันคือ Forever (love you forever) ทำไมถึงใช้น้ำผึ้ง น้ำผึ้งเนี่ยความหวานความรักเราเปรียบถึงน้ำผึ้ง ทำไมผมใส่มะกรูดเข้าไป มะกรูดมีความเปรี้ยวมีความขมนิดหนึ่ง ความรักไม่มีที่ไหนไม่มีหวานไม่มีขมไม่มีเปรี้ยวปนหรอก มันมาครบรส เครื่องดื่มผมมีสตอรี่ทุกตัว อธิบายได้หมดว่าทำไมชื่อนี้ ทำไมใช้เมนูนี้ ทำไมใช้วัตถุดิบนี้ ทำไมใช้พร็อพนี้” ทุกอย่างมันะต้องไปด้วยกันได้หมด อธิบายได้หมดว่าทำไมจัดมาแบบนี้
ได้รับความคุ้มค่าจากดูโชว์ เพื่อสมเหตุสมผลกับ “ราคา”
มันไม่เหมือนกับคุณดูหรือชมโชว์ทั่วไปที่คุณเคยดูมา ไม่เหมือน อันนี้คือทางร้านต้องการให้เกิดตรงนั้นขึ้นมาเลย ซึ่งนอกจากโชว์ “สายโลหิต” แล้วที่ร้านก็ยังมีโชว์อยู่ทั้งหมด6 โชว์ด้วยกัน ซึ่งก็จะเป็นคนละสตอรี่ คนละเรื่องราว อารมณ์ก็จะคนละฟิวส์กันด้วย “ทุกโชว์มีเรื่องราว ต้องบอกว่ามีเรื่องราว ถ้าลูกค้าใส่ฟิลลิ่งเข้าไปในสิ่งที่โชว์เขาบอก คุณจะได้รับรู้อรรถรสของโชว์นั้นมันคืออะไร อย่างบวงสรวงอย่างเงี้ย บวงสรวงเป็นโชว์เหมือนกับเราฝันแล้วเราตื่นขึ้นมาเนี่ย เราเห็นวิมานสีขาวเล็ก ๆ อู้หูดอกไม้สีขาวเต็มไปหมดเลย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันคือสวรรค์เราไปนั่งอยู่หน้าบ้านวิมานเล็ก ๆ หลังหนึ่ง แล้วมีเทวดาถือพานดอกไม้ซึ่งกำลังทำพิธีบวงสรวงกล่าวบทชุมนุมเทวดา เทวดามาเต็มเลย แล้วเทวดาเดินมาหาเรามามอบดอกไม้เรา เหมือนกับเขามายินดีที่เราเป็นเทวดาองค์ใหม่ล่าสุด มาจุติในสวรรค์ชั้นเดียวกับเขา”แล้วก็ยังมี รำนาคี ก็เป็นเหมือนตรงนี้คือวังบาดาลเพราะมีพญานาคเป็นวังนาคีเป็นเหมือนเมืองบาดาล คนที่ไปนั่งก็เหมือนกับเป็นผู้มาเยือนเมืองบาดาล ผมเป็นเจ้าของอาณาจักรผมจัดโชว์มารับรองแขกบ้านแขกเมืองก็จะเป็นอะไรประมาณนั้น แล้วก็มี รำบูชา ก็เกี่ยวกับพญานาคเป็นการบูชาองค์พญานาคที่เป็นกษัตริย์เขาจะเรียกว่า “ธิบดี” ก็เป็นเพลงสไตล์อีสาน แล้วก็มีตัวเรียกว่า “ฮวดใช้” จะเป็นแป๊ะยิ้มเหมือนเมื่อก่อนที่เราเด็ก ๆ เราเห็นแป๊ะยิ้มที่เชิดกับสิงโต เขาก็จะมาแสดงให้เราซึ่งร้านจะมาทำจากTheme ตรุษจีน อันนี้เหมือนเราไปดูโชว์ถ้าใครไปอัลคาซ่าหรือทิฟฟานีมันจะมีธีมตลกอยู่ธีมหนึ่งในนั้น เพื่อคลายเครียด ให้มีตลกบ้างที่แทรกเข้ามาเพื่อจะเบรกอารมณ์ด้วย
ในเรื่องของ “ราคา” แพงมั้ยทั้งเรื่องของเครื่องดื่มและก็มีโชว์ให้ดูแบบนี้ โดยคุณเจี๊ยบบอกว่า จะว่าแพงก็แพง ไม่แพงก็ไม่แพง อยู่ที่คนคิดแล้วล่ะ แต่สำหรับตนเองก็ว่ามันไม่ได้ถูกนะ ถามว่าคุ้มมั้ย? มันคุ้มเพราะคุณซื้อในสิ่งที่คุณไม่เหมือนใคร “ราคาแตกต่างจากที่อื่นแน่นอน แต่สิ่งที่ได้มันไม่เหมือน คุณดื่มกาแฟที่อื่นร้านหรูหน่อยแก้วพลาสติกก็เกือบ 200 บางที 200 กว่าก็มี แต่ได้แค่แก้วพลาสติกนะ แต่ตรงนี้เรามันเหนือกว่าตั้งเยอะเลย มันพร็อพอลังการทุกแก้ว ผมต้องคิดขึ้นมา หาวิธีทำขึ้นมา ทุกอย่างมันไม่มีไปซื้อเขามาใช้ได้ มันต้องมาอะแด๊ป ให้ลงตัวให้ใช้ได้ กับแก้วกับพร็อพต้องไปด้วยกันได้หมด”ซึ่งถ้าย้อนกลับไปอีกมันจะว่าแพงมั้ย? มันก็ไม่ได้แพงนะ ราคาเริ่มต้นมีตั้งแต่ 100 กว่าบาท หรือไม่ถึง 100 ก็มี คุณก็เลือกเอาอย่างตัวถูกก็ได้ตัวแพงก็ได้ ตัวแพงคุณแค่ไปอยู่ตรงนั้นเอง(อย่างโชว์ชุดของกาแฟสายโลหิต ราคา คือ 230 บาท+ 150 บาท) ทุกอย่างมันต้องแลกด้วยราคา ทางร้านจะมีราคาบอกไว้เพื่อให้ลูกค้าได้ทราบก่อนการตัดสินใจอยู่แล้ว “ลูกค้าเข้ามาสามารถสั่งได้เลยครับ สั่งเมื่อไหร่ผมโชว์เมื่อนั้นเลย ถ้าว่างอยู่คือโชว์เลย แต่ถ้าคิวยาวคุณต้องรอนิดหนึ่ง เพราะทุกโชว์ถ้าโชว์จริง ๆ คือ 2 นาที แต่ถ่ายรูปด้วยอะไรด้วยมันเกือบ ๆ 5 นาที ถ้ามีโชว์ค้างอยู่ต้องรอ ซึ่งลูกค้ารอ เพราะเขาอยากจะไปนั่งตรงนั้น เขาอยากจะเห็นภาพอย่างที่เขาเห็นในสื่อเขายอมรอ บางคนรอเกือบชั่วโมงถ้าตอนคิวเยอะ ๆ คิวมันค้างอยู่ 10 กว่าโชว์ ๆ ละ 5 นาที ก็หนึ่งชั่วโมง”
ย้ำว่าไม่ใช่ “สายมู” และไม่ได้ลบหลู่ “ของสูง” เอามาทำเล่น!
ปกติของแบบนี้(พร็อพต่าง ๆ ที่นำมาใช้ในร้าน) เราจะเห็นอยู่บนหัวของนางรำไกล ๆ ปีหนึ่งอาจจะเห็นครั้งหนึ่ง สองครั้ง เราเห็นว่ามันสวยแต่เราไม่เคยมาเห็นใกล้ ๆ ไม่เคยมีโอกาสได้ถ่ายรูป ของไทยที่เป็นของสวยงามทำไมเราต้องเห็นไกล ๆ แล้วเราไม่เคยเห็นใกล้ ๆ แล้วไม่สามารถสัมผัสได้ เอามาให้เขาดู ดีกว่ามั้ย? ถูกมั้ยครับ เขาเห็นในความเป็นไทยมันสวยขนาดไหน แล้วทุกคนก็บอกว่าสวยจริง เพราะทุกคนเห็นความละเอียดอ่อนของมันใกล้ ๆ เราปกติเนี่ยนางรำบางทีอยู่ไกลลิบเลย สวย แต่เราไม่เคยได้สัมผัสเลย“ผมเอามาให้คุณได้สัมผัสได้เห็นใกล้ ๆ ได้ถ่ายรูปได้ชื่นชม ซึ่งมีเยอะแยะไปหมดเลย แต่ของพวกนี้ไม่ใช่ของที่มีการทำพิธีอะไรมานะครับ เป็นพร็อพของร้านที่ทำขึ้นมา เราไม่ได้ลบหลู่ไม่ได้อะไรเลย ไม่ได้ทำให้เสียหายเลย และก็ไม่ได้ทำให้ตกต่ำ เอามาให้คุณได้เห็นใกล้ ๆ งานมันละเอียดสวยงามขนาดนี้เลยเหรอ แล้วมันเอามาคู่กับเครื่องดื่มได้ด้วย” ไม่ได้เกี่ยวกับความเชื่อ ศักดิ์สิทธิ์ ใด ๆ อีกอย่างตนเองไม่สามารถรับรู้ในเรื่องเหล่านั้นได้ ไม่สามารถรับรู้เรื่องของความเหนือธรรมชาติ เหนือมิติ แต่อย่างใดทั้งสิ้น ตนเองไม่ได้รับรู้ได้ ไม่ได้เป็นคนพิเศษ เป็นคนธรรมดา สิ่งที่เราทำก็คือหนึ่งเราต้องการสัญลักษณ์ของร้านให้ดู จดจำเราง่าย เข้มขลัง สวยงาม ศักดิ์สิทธิ์ยิ่งดี ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องของส่วนตัวบุคคล
จากงานจินตนาการ สู่ไวรัลแจ้งเกิดธุรกิจมานานกว่า 4 เดือน!
คุณเจี๊ยบ-วัชรินทร์ ศุปธรรม เจ้าของร้าน “ฤาดี” คาเฟ่ อโยธยา บอกด้วยว่า สมัยนี้สำหรับส่วนตัวคิดเองนะผมไม่ใช่คนเก่ง
ต้องอธิบายอย่างนี้ก่อนผมแค่คิดขึ้นมาเองว่าถ้าผมทำเหมือนคนอื่น ผมก็เดินตามคนอื่น ไม่มีอะไรเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเลย ผมต้องทำในสิ่งที่คนอื่นไม่เคยทำ แต่ก็ถือว่าเป็นการเสี่ยงนะว่ามันจะเกิดหรือไม่เกิด “ผมทำตรงนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าคนจะกล้าขึ้นหรือเปล่า ผมอธิบายให้ลูกน้องผมฟังนะว่าผมจะทำแบบนี้ ลูกน้องผมบอกว่าอะไร พี่เขาจะกล้าขึ้นเหรอเขาไม่อายเหรอ ถูกมั้ย คนไทยขี้อายนะการจะขึ้นไปนั่งตรงนั้นทุกคนเขิน คุณไปดูในคอมเม้นต์สิใช้คำว่า เขิน หมดเลย ใครก็มองคุณ คุณขึ้นไปอายแล้วอายอีกอ่ะ ลูกน้องผมบอกใครจะกล้าขึ้นเหรอ ผมบอกมันต้องมีคนกล้าขึ้น แต่อาจจะมีน้อยนะแต่ต้องมี” ถ้าคุณอยากได้ในสิ่งที่คุณไม่เหมือนใคร อยากได้รูปไปลงโชว์ คุณต้องทำ ผมบอกลูกน้องผมอย่างนี้คุณต้องทำ “ผมคิดไว้ แต่ผมไม่รู้ผมคิดถูกหรือคิดผิดนะ ผมไม่ใช่คนเก่ง ผมมั่วนะผมบอกได้เลยว่าผมมั่วขึ้นมา เพราะมันไม่มีใครทำมาก่อนให้เราเห็นว่ามันทำได้ เพราะงั้นผมมั่วผมบอกได้เลยผมมั่ว ผมไม่ได้เก่งนะผมมั่วแต่เผอิญมันฟลุ๊ค! มันไปโดนใจคนมันก็เลยฟลุ๊ค แค่นั้นเองผมไม่ได้เก่ง” มันฟลุ๊ค จังหวะมันได้ แค่นั้นเอง อาทิตย์แรกมันยังเงียบ ๆ อยู่นะ แต่พอมีคนเริ่มมารีวิว เขาเห็นใน TikTok กันแล้วอยากจะทำบ้าง“อยากพาคุณพ่อคุณแม่มา ลูกค้าผมอายุมากสุด 90 กว่านะเดินถือไม้เท้าแบบหลังงอเข้ามา ลูกอยากพาพ่อแม่มาให้รับรู้ฟิลลิ่งของอารมณ์เนี้ยะความรักชาติ แล้วส่วนใหญ่คนที่อยู่ในอยุธยาอายุเยอะ ๆ เขาอยู่กับความรักชาติมาตั้งนานนะเขาสัมผัสเขาอยากให้พ่อแม่มาสัมผัส แล้วพ่อแม่มาก็แบบ มีคุณยายอยู่คนหนึ่งนะอายุ 90 กว่าแล้วเขาเดินไม่ไหวแล้วนะ จับวอล์คเกอร์งอหลังมาพอเขาขึ้นไปอยู่บนนั้นเขารำเลยนะ! ผมยังงงอู้ยคุณยายคุณยายเคยเป็นนางรำมาก่อนหรือเปล่า เขาบอกเปล่ายายไม่รู้ว่ายายรำไปได้ยังไง เขารำสวยมาก! อยู่บนนั้น”
ใช้เวลาประมาณ 7 วันเอง หลังจากนั้นกระแสทำให้มีคนอยากมานั่งตรงนั้น เกิดการบอกต่อกัน สื่อมันไวเขาเห็นในสื่อผมไม่ได้โฆษณาเขาเห็นกันในสื่อเอง “ผมว่าทุกคนที่มาพร้อมเป็นคนโฆษณาให้ผมอยู่แล้ว ใครจะถ่ายรูปถ่ายคลิปไปเก็บไว้ล่ะ เขาก็เอาไปลง ลงเพื่อนเขาเห็นเพื่อนเขาแชร์ แชร์ ๆ ไปเขาก็เลยเห็นผมแค่นั้นเอง” นักแสดงไม่ใช่นักแสดงมืออาชีพนะ เป็นพนักงานของเรา เขาไม่เคยทำมาก่อนแบบนี้ คุณต้องเดินมาถึงตรงนี้ทำท่านี้ ต้องทำหน้าอย่างนี้ ผมต้องบิวท์เขาก่อนว่าคุณไม่ใช่พนักงานตอนนี้คุณเป็นทหารแล้วนะ ที่แม่ทัพคุณตายนะ ฟิลลิ่งคุณต้องได้นะ คุณต้องคิดว่าแม่ทัพคุณตายคุณถือศพแม่ทัพคุณมา เราต้องบิ้วท์เขาแล้วให้เขาฝึกแล้วเขาทำ ผมต้องเป็นผู้กำกับ
ผมเคยทำแล้วแบบนี้ จริง ๆ ฟิลลิ่งนี้ผมทำมาก่อนแล้วอยู่ที่นนทบุรี ผมมีโรงแรมแล้วผมทำอยู่บนดาดฟ้าผมทำช่วงก่อนโควิดฯ
พอโควิดฯเปิด-ปิด เปิด-ปิด3 รอบ! ไม่เอาแล้วเบื่อ แล้วผมดูว่าตรงนั้นมันยังไม่ตรงจุด มันไม่โดนเท่าตรงนี้ ตรงมันโดนกว่า ของที่เราทำมันยังไม่ถูกจุด ถ้าตรงนี้มันจะโดน“เป็นกาแฟแห่งความรักชาติ ผมใช้คำว่า “เสิร์ฟนี้ไม่ธรรมดา” นะจริง ๆ เป็นคอนเซ็ปต์ ใช่ ๆ เสิร์ฟนี้ไม่ธรรมดาของร้านเรา” ส่วนประเด็นของ “ดราม่า” ที่เจอมาบ้างก็จะมีอย่างเช่นว่า ในเน็ต(ชาวโซเชียล) คือมีสารพัดเยอะมากนะทั้งชมเรา ทั้งด่าเราก็มี คนที่ด่าเขายังไม่เคยมาที่ร้านผมแต่เขาด่าผมนะ(หัวเราะ) ถ้ามาผมว่าไม่มีใครด่าผมนะ ผมไม่ได้ทำอะไรให้ลงต่ำเลยนะ เขาหาว่าผม เอาของสูงมาเล่นประมาณนั้น นี่คือการแสดงเขาไม่เข้าใจ เขาหาว่าผมไปทำของสูงให้ลงต่ำผมก็ไม่เข้าใจ ผมไปทำตรงไหน ถ้าคุณมานั่งเองคุณก็เห็นว่าผมไม่ได้ทำอะไรที่ลงต่ำเลยนะ ไม่เกี่ยวอะไรกับที่เขาพูดมาเลย
ร้านนี้เพิ่งเปิดมาได้ประมาณ 4 เดือน โดยคุณเจี๊ยบยังบอกด้วย ก็โอเคนะผมว่าเขาก็ชอบกันน่ะ ผมจะชอบดูฟีดแบ็กของลูกค้า เวลาโชว์เราออกมา ผมจะไม่ค่อยมองโชว์แต่ผมจะมองฟีดแบ็กว่าเขารู้สึกยังไง เขาว้าว เอออารมณ์ร่วมมั้ย โอ้โหหยิบโทรศัพท์ถ่ายกัน ยิ้ม มีความสุข ตื่นเต้น ก็โอเคนะเออเราก็ดีใจ ที่เขารู้สึกแบบนั้น
จากสัปดาห์แรกที่ลูกค้ายังไม่รู้จักแต่ว่าพอผ่านไปมีคนมารีวิวร้าน ก็เริ่มเกิดการบอกต่อจนกระทั่งยาวมาถึงในปัจจุบัน นับเนื่องกว่า4 เดือนแล้วสำหรับธุรกิจคาเฟ่ ร้าน “ฤาดี” คาเฟ่ อโยธยา ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลบ้านป้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา การตอบรับธุรกิจนี้ดีมากถึงขนาดไหนคุณเจี๊ยบบอกด้วย เคยโชว์สูงสุดต่อวันมากถึง70 โชว์มาแล้ว! และในจำนวนนั้นเกินกว่าครึ่งคือจะเป็นโชว์ชุด “สายโลหิต” ที่ได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ เรียกว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของการนำเสนอ “เมนูกาแฟ” และเครื่องดื่มในร้านที่สามารถสร้างจุดขายได้อย่างแตกต่างจริง ๆ ความอลังการและจัดเต็มในเรื่องของพร็อพที่ใช้ประดับตกแต่งเมนูพร้อมเสิร์ฟ ไม่เหมือนใครและเรียกเสียง “ว้าว!” จากลูกค้าที่มาสามารถปิดจ๊อบได้อย่างน่าประทับใจจริง ๆ ขอบคุณเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจดี ๆ ในเรื่องของการทำธุรกิจคาเฟ่จากร้าน “ฤาดี” คาเฟ่ อโยธยา ที่กรุณาให้เกียรติร่วมแชร์ประสบการณ์ดี ๆ ในครั้งนี้
สามารถแวะไปดื่มด่ำกับบรรยากาศความเป็นไทย ๆ และร่วมสัมผัสประสบการณ์แห่งความรักชาติจากโชว์สุดอลังการของที่ร้านได้ “ฤาดี” คาเฟ่ อโยธยา เปิด 09.30น. -18.00 น.(ปิดทุกวันจันทร์ยกเว้นวันจันทร์ที่เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์) สอบถามโทร.089-382-8289 FB : Ruedee Café Ayothaya
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด