ใครชอบยำวุ้นเส้นแซ่บๆ ต้องไม่พลาดร้านนี้ “เจ๊ณี สายแซ่บ” จากร้านรถเข็นข้างทาง ด้วยเอกลักษณ์ความแซ่บของแม่ค้าบวกกับ ความแซ่บของยำ ที่แตกต่างจากร้านยำวุ้นเส้นทั่วไป เพราะเจ๊ณี แก่จัดวุ้นเส้นมาแบบสีสัน แบบเห็นมาแต่ไกลมาเสิร์ฟลูกค้า พร้อมการันตรีความปลอดภัยเพราะเป็นสีจากธรรมชาติ
เส้นทางชีวิตติดลบ "เจ๊ณี" ร้านข้างทางขึ้นขายบนห้างหรู
วันนี้ พามารู้จัก กับร้านยำชื่อดังข้างทางแต่ด้วยความแซ่บ ทำให้ร้านเจ๊ณี สายแซ่บย่านบางแค ที่หลายคนรู้จักกันในนาม “ยำโสเภณี” โด่งดังจนได้ถูกเลือกขึ้นมาขายเป็นร้านดังบนห้างซีคอนสแควร์บางแค ที่รวบรวมร้านเด็ดๆ มาไว้ในงานนี้ ไม่ว่าจะเป็น ขนมครกเจ้แขกแหกปาก หรือ หมูทอดเจ๊แดงสามย่าน ก๋วยเตี๋ยวเรือเชฟอ้อย ขาหมูลุงยอดที่คิวยาวแบบแน่นทั้งวน ฯลฯ
“นางศรศรัญ สังข์ทอง” หรือ “เจ๊ณี” เจ้าของร้านยำโสเภณี ย่านตลาดบางแค เล่าให้ฟังว่า เส้นทางกว่าจะมาถึงวันที่หลายคนรู้จัก “เจ๊ณี สายแซ่บ”ในวันนี้ มันไม่ได้มาง่าย ทุกอย่างถูกพิสูจน์มาด้วยจำนวนคนกินที่มาต่อคิวเพื่อซื้อยำของเจ๊ณี และโลกโซเชียลก็นำไปแชร์ และมีรายการดังมาถ่ายเจ๊หลายรายการ หลายคนก็จะบอกว่า เจ๊ณีดังแล้วทำให้ไม่ต่อยอดในโลกโซเชียลฯ เจ๊ก็บอกไปว่าเจ๊เล่นไม่เป็น ใครอยากจะมากินยำของเจ๊ ก็ต้องมาที่ตลาดบางแค
สโลแกนเจ๊ณี ถ้าอยากขายกำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ไม่สน
“ส่วนการได้ขึ้นมาขายบนห้าง เนี่ยก็มาจากเค้าเชิญมา เค้าคงเห็นว่าเราดังเขาก็เลยเชิญมา ที่ผ่านมา เจ๊ณีก็ไม่รู้หรอกว่าเราดังแต่พอได้ถูกชวนให้มาขายในงานดังๆ บนห้างหลายๆ ครั้ง ก็ดีใจที่เค้าเห็นถึงความตั้งใจในการทำอาหารขายของเรา ที่ผ่านมา เจ๊คิดอย่างเดียวว่า ถ้าจะทำอะไรขาย ต้องทำให้อร่อย ต้องทำให้ดี จะขายได้กำไรเท่าไหร่ไม่สน ไม่ได้คิดตรงนั้น ซึ่งคนรวยทำไม่ได้อย่างเราหรอก เราเป็นคนจนเราทำได้ เพราะเราไม่ได้คิดว่าเราจะต้องร่ำรวย รวยแล้วยังไงละถ้าเราไม่มีความสุข”
“ด้วยความที่เจ๊ณีเป็นคนจน เวลาทำอะไรก็นึกถึงคนกินอยากให้เขากินให้อิ่ม กินให้อร่อย เป็นที่มาของการขายยำ ราคา 30 บาท หลายคนบอกว่า แล้วจะได้กำไรเหรอ เจ๊บอกเลยว่า กำไรเท่าไหร่ไม่สน ถ้าเจ๊อยากทำเจ๊ก็จะทำ”
ไม่ได้เรียนหนังสือช่วยแม่ทำงานตั้งแต่ 6 ขวบ
เจ๊ณี สายแซ่บ เล่าถึงที่มาของชื่อ ยำโสเภณี ว่า มาจากเจ๊เห็นภาพยนตร์อินเดียชื่อดัง อย่าง คังคุไบ ที่ถูกหลอกให้มาเป็นโสเภณี สั่งสมอิทธิพลจนกลายมาเป็นราชินีมาเฟียแห่งมุมไบ เจ๊ณีชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ก็เลยเอามาตั้งเป็นชื่อยำวุ้นเส้นของร้าน เจ๊ชอบการต่อสู้ของผู้หญิงคนนี้ เหมือนกับชีวิตของเรา กว่าจะมาถึงวันนี้ ต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก
“ที่ผ่านมาถึงวันนี้ได้ เจ๊ต้องผ่านการทำงานทุกอย่างมาตั้งแต่อายุแค่ 6 ขวบ เจ๊ก็ต้องออกไปช่วยแม่ขายขนมครก ครอบครัวเรายากจน เจ๊ไม่ได้ไปเรียนหนังสือ เคยไปเรียนแต่ก็ไปสายเพราะต้องทำงานช่วยแม่ขายของก่อน พอวันหนึ่ง แม่ย้ายเขามาขายของที่กรุงเทพฯ แม่ก็เลยบอกว่าไม่ต้องไปเรียนหรอกเป็นผู้หญิงต่อไปก็มีผัว ก็เลยไม่ได้เรียนตั้งแต่นั้น ทำงานมาตลอด ทำงานทุกอย่าง แต่สองอย่างที่ไม่ทำ คือ การเป็นโสเภณี ขายตัว หรือ ขายยาบ้า”
ส่วนจุดเริ่มต้นที่มาขายของที่ตลาดบางแค เนี่ยก็ขายมานานมากแล้ว นะแต่ก่อนไม่ได้ขายยำ แต่ขายอาหารอย่างอื่น ขายมาหลายอย่างมาก แต่ที่มารู้จักกันดี นั่นคือ “แหนม” ทำมากว่า 27 ปี เมื่อก่อนขายเยอะมาก แต่พอมีคนมาซื้อ และพอเห็นเจ๊ณีใจดีก็เชื่อบ้าง ไม่มาจ่ายบ้าง ตอนนี้ก็เลยให้แฟนทำขายอยู่กับบ้าน ส่วนการมาขายยำ เนี่ยขายมาไม่นาน ประมาณ 3 ปี พอมาขายยำเนี่ยทำให้คนรู้จักเจ๊ณี เยอะมาก มาจากคนกินและเค้าชอบ ก็เลยบอกต่อ
จุดขายเอกลักษณ์ ยำโสเภณี คือ สีสันของวุ้นเส้น
โดยยำที่ขายมีอย่างเดียว คือ ยำวุ้นเส้น แตกต่างจากยำวุ้นเส้นทั่วไป เพราะ เจ๊ณี เติมสีสันให้วุ้นเส้นมีสีสวย เพราะเจ๊ณี ชอบดูลิเก และลิเกมีสีสันดี พอมาขายยำวุ้นเส้น เราก็เลยใส่สีให้เหมือนลิเก และเราชื่อยำโสเภณี มันจะสีซีดๆ ไม่ได้ สีมันต้องสด โดยสีสันที่เห็น จะมีสีม่วงมาจากดอกอัญชัน สีเหลืองมาจากชาไทย ส่วนสีเขียวมาจากชาเขียว เป็นต้น เจ๊ก็สลับๆ กันไป และด้วยสีสันของวุ้นเส้น ทำให้หลายคนอยากจะลอง บางคนก็นึกว่าขายสลิ่มลุงคนหนึ่งถามว่าแล้วไม่มีน้ำกะทิเหรอ บอกลุงไปว่าเราขายยำลุงแก่ก็งงเห็นสีนึกว่าสลิ่ม
สำหรับยอดขายยำโสเภณี ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา เพราะถ้ายอดขายธรรมดา คงไม่ได้รับเชิญขึ้นมาขายบนห้างดัง อย่างวันที่ได้พบเจ๊ณี ในงานทีซีคอนสแควร์บางแค วันนั้น ต้องบอกว่ามีคนต่อคิวซื้อยำของเจ๊ณีเป็นจำนวนมาก เจ๊ณี บอกว่า ขายวันหนึ่งแค่ของหมดประมาณ 500-600 กล่อง พอของหมดก็เลย ซึ่งก็ขายหมดทุกวันก่อนห้างจะปิด
เจ๊ณี บอกว่า การขายอาหารของเจ๊ ไม่ได้มีแค่ยำ เจ๊อยากทำอะไรเจ๊ก็ทำ อย่างน้ำพริกเนี่ย คนบางแคก็รู้ดีเจ๊ทำน้ำพริกอร่อยมากมีให้เลือกเป็นสิบเมนู วันไหนอยากจะทำอะไรมาขายก็ขายได้ เพราะเราตั้งใจทำ พอตั้งใจทำมันก็จะอร่อยหมดแหละ การทำงานก็เหมือนกันขอให้ตั้งใจทำ ก็จะออกมาดีหมดแหละ อย่างขายของเจ๊ตั้งใจขายของดี สุดท้ายชีวิตมันก็ดีเอง วันนี้ เจ๊อายุเยอะแล้ว ไม่คิดว่าจะต้องทำอะไรอีก เพราะลูกๆ ก็โตแล้ว ทำแค่พอกินไม่อยากทำอะไรเยอะ ปกติ เจ๊ก็ทำขายคนเดียว แต่พอออกงาน มีหลานมาช่วย ปิดเทอมพอดีเราก็ฝึกให้เขาทำงาน เพราะตัวเราเคยลำบากมาก่อน ก็ไม่อยากลูกๆ หลานลำบากเหมือนกับเรา ก็เลยต้องฝึกให้เขารู้จักทำงานหาเงินด้วยตัวเอง ตั้งแต่เด็ก
การทำอาหารของเจ๊ไม่ต้องมีสูตร
อยากใส่อะไรก็ใส่แค่อร่อยจบ
ถ้าถามถึงสูตรการทำยำวุ้นเส้น เจ๊ณี บอกว่า เจ๊ทำอะไรไม่เคยมีสูตร ชั่ง ตวง วัด เหมือนชาวบ้านเค้าหรอก อยากใส่อะไรก็หยิบใส่มันลงไป และก็ชิมเอา แต่ละคนชอบรสชาติไม่เหมือนกัน การทำอาหารขายเราจะเอาเกณฑ์ความชอบของตัวเองมาวัดไม่ได้ ต้องดูด้วยว่าลูกค้าชอบอะไร ถ้าลูกค้าบอกว่าหวานไป เค็มไป เราก็ต้องปรับ ไม่มีมาตรฐานอะไร สุดท้ายก็ไม่ต้องมีสูตรอะไรแค่ลูกค้าบอกว่าอร่อยแค่นี้ก็จบ ส่วนราคาหลายคนมองว่า ขายได้อย่างไรราคาแบบนี้ ก็ต้องบอกว่า เราเป็นคนจนเราทำได้ คนรวยทำแบบเราไม่ได้หรอก
ติดต่อ Facebook : ยำโสเภณี ยำวุ้นเส้นโบราณ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *