xs
xsm
sm
md
lg

(คลิป) ตามรอยนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา” มารู้จักกับปลานิลสายน้ำไหลเบตง เคยทำราคาสูงถึง กิโลละ 900 บาท

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



การเดินทางลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” เมื่อเร็วๆนี้ ในส่วนของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายกรัฐมนตรีได้กินเมนูปลานิลสายน้ำไหล ของขึ้นชื่อของอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ครั้งนี้ พามารู้จักกับ ปลานิลสายน้ำไหลเบตง ว่า มีความโดดเด่นจากปลานิลที่เลี้ยงในพื้นที่อื่นๆ อย่างไร ทำไมถึงได้ขึ้นแท่นเป็นของดีของจังหวัดยะลา ที่ใครมาเยือน เบตงจะต้องมาชิม เมนู ปลานิลสายน้ำไหลเบตง





ตามรอยนายกฯ รู้จักปลานิลสายน้ำไหล

นายสามารถ จงเกียรติขจร เจ้าของฟาร์มปลานิลสายน้ำไหล และเจ้าของร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหลที่นายกรัฐมนตรี ได้แวะไปกินอาหาร และเยียมชมกิจการบ่อเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล  เล่าว่า ปลานิลที่นำมาเสิร์ฟในวันนั้น เป็นปลานิลที่เราเลี้ยงคัดพิเศษ เลี้ยงมานานกว่า 3 ปี เป็นปลาไซต์ใหญ่น้ำหนักประมาณ 4.8 กิโลกรัม แต่ปกติปลาที่เสิร์ฟในร้านจะเป็นปลาขนาดน้ำหนักประมาณ 1.2 กิโลกรัม ระยะเวลาการเลี้ยง 6-8 เดือน ส่วนราคาจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลา เช่นปลาหนัก 1 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 100 บาท น้ำหนัก 3 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 300 บาท ไปจนถึงน้ำหนักสูงสุดที่เราเคยจับมาขาย คือ น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ราคากิโลกรัมละ 900 บาท ส่งให้เมนูอาหารจานนั้นมีราคาสูงถึงกว่า 8,000 กว่าบาท โดยราคาอาหารของทางร้านจะขึ้นอยู่กับน้ำหนักของปลา  ในส่วนของการนำมาทำเป็นเมนูต่างๆ ตรงนี้ทางร้านไม่ได้คิดเพิ่ม ปรุงให้ฟรีทุกเมนู

อย่างไรก็ดี ทางร้านไม่นิยมนำปลาตัวใหญ่มาขายที่หน้าร้าน เพราะปลายิ่งตัวใหญ่ แม้ว่าเราจะขายในราคาสูง ก็ยังไม่คุ้มกับระยะเวลาการเลี้ยงที่ยาวนาน และราคาค่าอาหารปลาที่นำมาเลี้ยง ตอนนี้ราคาปรับเพิ่มขึ้น ไปถึงกระสอบละ กว่า 700 บาท อย่างปลา น้ำหนัก 9 กิโลกรัม ใช้ต้นทุนในการเลี้ยงเป็นหมื่นบาท แต่ขายได้แค่ 8,000 กว่าบาท เรียกว่าขาดทุน ทางร้านจึงไม่นิยมเสิร์ฟปลาตัวใหญ่มากๆในร้าน นอกจากลูกค้าต้องการ 


จุดเด่นของ ปลานิลสายน้ำไหลเบตง ทำไมราคาสูงกว่าปลานิลทั่วไป 

นายสามารถ เล่าถึงปลานิลสายน้ำไหลเบตง ว่า เนื่องด้วยปลานิลที่เบตง เลี้ยงในระบบน้ำหมุนเวียน หรือน้ำไหล ซึ่งการเลี้ยงปลาด้วยระบบสายน้ำไหล ทำให้ปลาได้ว่ายน้ำตลอดเวลา ทำให้มีการพัฒนากล้ามเนื้ออยู่เสมอ ปลาที่ได้จึงมีไขมันต่ำ เนื้อแน่น หวาน และที่สำคัญไม่เหม็นโคลน ไม่เหม็นคาว แม้จะกินสดๆ แบบซาซิมิ ก็ยังทำได้ และด้วยพื้นที่การเลี้ยงของเบตง จะเป็นหินและทราย น้ำที่ไหลผ่านหินและทรายน้ำสะอาดและเย็น ด้วยอุณหภูมิน้ำที่เย็น และไม่มีดินตกค้างในบ่อ ทำให้ปลามีออกซิเจนเพียงพอตามธรรมชาติ ส่งผลให้ปลาเติบโตได้เต็มที่ นอกจากนี้ คัดเลือกสายพันธุ์ปลาจาก มานิตฟาร์ม ซึ่งพันธุ์ปลาที่ได้จากฟาร์มแห่งนี้จะผ่านการเแปลงเพศแล้ว ข้อดีของปลาแปลงเพศมาแล้ว คือ ปลาจะโตเร็วให้เนื้อที่เยอะกว่าปลาที่ยังไม่แปลงเพศ


ปัจจุบันที่ฟาร์มปลานิลสายน้ำไหลของเรา จะมีการเพาะเลี้ยงปลานิลอยู่ทั้งหมด 11 บ่อ บนพื้นที่ 3-4 ไร่ มีการเลี้ยงปลาอยู่ทั้งหมด 40,000-50,000 ตัว ปลาทั้งหมดที่เลี้ยงได้จะนำมาใช้ในร้านอาหารทั้งหมด ซึ่งทุกวันนี้ ก็ยังไม่เพียงพอ เดือนหนึ่งร้านอาหารจะต้องใช้ปลาจำนวน 14,000 ตัว คิดเป็นรายได้ต่อเดือนประมาณ 60,000-70,000 บาท เมนูเด่นของทางร้าน จะเป็นปลานิลทอดน้ำปลา ปลานิลนึ่งซีอิ้ว ปลานิลสามรส ซาซิมิปลานิล แกงส้ม ฯลฯ

 กลุ่มลูกค้าหลักเป็นชาวมาเลเซีย ถึง 60% ส่วนที่เหลือจะเป็นนักท่องเที่ยวคนไทย ปกติคนมาเลเซียชื่นชอบการกินปลานิลตัวใหญ่ ขนาดน้ำหนัก 2 กิโลกรัม คนมาเลเซียจะชอบมากไม่ใหญ่เกินไป และที่ราคาขึ้นอยู่กับน้ำหนักตัว เพราะ การเลี้ยงให้ตัวใหญ่จะต้องใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง และยิ่งตัวใหญ่จะยิ่งกินเยอะ ต้นทุนค่าอาหารสูงมาก ยิ่งตัวใหญ่มากกำไรเราก็น้อยแทบจะไม่ได้เลย ทางร้านจึงนิยมเสิร์ฟปลาในไซต์ขนาดไม่เกิน 2 กิโลกรัม หรือ ไซต์ขนาด 1.2 กิโลกรัม ระยะเวลาการเลี้ยงไม่เกิน 6-8 เดือน


ที่มา ฟาร์มเพาะเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหล และร้านอาหาร

นายสามารถ พูดถึงจุดเริ่มต้นที่มาเลี้ยงปลานิล ว่า เริ่มมาจากคุณพ่อโกหงิ่ว "นายสันติชัย จงเกียรติขจร" เดิมเลี้ยงปลาเป็นอาชีพหลักอยู่แล้ว แต่ก่อนไม่ได้เลี้ยงปลานิล  แต่พอวันหนึ่งพ่อไปเรียนรู้เรื่องการปลูกทุเรียน ที่ระยอง ตราด พอกลับมาเพื่อนๆ พ่อแวะมาหาบ้าน ทางบ้านทำกับข้าวเลี้ยง มีเมนูปลานิลเลี้ยงไว้ที่บ่อของเราด้วย เพื่อนๆ พ่อ ชื่นชอบกันมาก เพราะไม่เคยกินปลานิลที่ไหนรสชาติดีแบบนี้ แนะนำให้เปิดร้าน พ่อก็เลยเปิดร้าน แรกเป็นร้านเล็ก มีแค่ 1-2 โต๊ะ ใครมากินต้องจองเข้ามาก่อน

ทั้งนี้ มีคนจองเข้ามาตลอดดีขึ้นเรื่อย พ่อก็หันมาเลี้ยงปลานิลอย่างเดียวเลย แรกเลี้ยงแค่ 800 ตัว ไม่พอขายค่อยๆ เพิ่มไปจนหลัก 2-3 หมื่นตัว ไม่ได้ไปขายที่ไหนเลย ปลาที่เลี้ยงได้ ก็นำมาขายหน้าร้าน ปัจจุบันร้านใหญ่ขึ้น มีโต๊ะมากขึ้น และมียูทูบเบอร์ด้านอาหารชื่อดัง ก็มารีวิว คนก็ตามมากินกันเยอะมาก จนร้านของเราเป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้


โดยวันนี้ ถ้าพูดถึงปลานิลก็ต้องนึกถึง ปลานิลสายน้ำไหล เบตง เคยมีคนนำปลานิลสายพันธุ์ที่เพาะที่เบตงไปเลี้ยงพื้นที่อื่นๆ ก็ไม่สามารถทำรสชาติได้อร่อยเท่ากับเรา แต่ก็มีบางพื้นที่เหมือนกัน ที่เขาทำได้น้อยมาก ในส่วนของราคา ปลานิลสายน้ำไหลของเราราคาสูงกว่าปลานิลทั่วๆไป เช่น ทั่วไปขายกิโลกรัมละ 60 บาท แต่ปลานิลสายน้ำไหลขายกิโลกรัมละ 100 บาท คนมาเลเซียชื่นชอบกันมาก วันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ร้านเต็มไปด้วยคนมาเลเซียที่เดินทางเข้ามากินปลานิลเบตง 

เจ้าของร้านอาหารปลานิลสายน้ำไหล พูดถึง สถานการณ์ชายแดนภาคใต้ ปัจจุบันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการทำร้านอาหาร เพราะคนมาเลเซียก็ไม่ได้กลัวอะไร ยังคงเดินทางเข้ามาเที่ยวเบตง มากินอาหารที่เบตง เป็นเรื่องปกติ ส่วนคนไทย ภาครัฐมีการโปรโมทส่งเสริมการท่องเที่ยวเบตง มีคนไทยมาเที่ยวกันเยอะขึ้น

ติดต่อ โทร.08-3658-8884
Facebook : ร้านอาหาร บ่อปลานิลสายน้ำไหล


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น