บาติกไม่ได้มีแค่ภาคใต้ วันนี้ พามารู้จักกับ บาติกผ้าไหมของภาคอีสาน “คญาบาติก” ผลงานไม่ธรรมดาเพราะได้รับเลือกให้วางขายใน KINGPOWER สุวรรณภูมิ
ชนันญา ดรเขื่อนสม เจ้าของผลิตภัณฑ์ผ้าไหมบาติก “ฅญาบาติก” เล่าว่า ครั้งแรกของการนำผ้าไหมของอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มาต่อยอดในลวดลายผ้าบาติก เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่สามารถสวมใส่ผ้าไหมได้ และทำให้การใส่ผ้าไหมไม่ได้จำกัดอยู่แค่ ชุดข้าราชการ แต่สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส ได้นำผ้าไหมชื่อดังของอำเภอปักธงชัย มาสร้างลวดลายแบบผ้าบาติก ซึ่งการทำผ้าบาติกของเราแตกต่างจากการทำผ้าบาติกของภาคใต้ เพราะเป็นการทำลายบาติกแบบล้อมกาว ไม่ได้ทำลายบาติกจากเทียนเหมือนภาคใต้ เพราะต้องการควบคุมลายให้อยู่ในกรอบที่เราต้องการจะให้เป็น
ส่วนที่มาของการมาทำผ้าบาติก เริ่มขึ้นเมื่อ 15 ปีที่ผ่านมา คุณชนันญา เจอวิกฤตปี 2540 ทำให้ต้องตัดสินใจกลับบ้าน ปิดร้านขายเสื้อผ้าที่ประตูน้ำ ส่วนตัวชื่นชอบการตัดเย็บเสื้อผ้า ก็เลยคิดว่าจะมาเปิดร้านตัดเย็บผ้าไหม เพราะที่อำเภอปักธงชัย มีผ้าไหมสวยเยอะ ลูกค้าตอนนั้นเป็นข้าราชการครู วันหนึ่งลูกค้าอยากได้ลวดลายใหม่ที่ไม่ใช่ลายผ้าทอแบบโบราณ ก็เลยนึกไปถึงการเขียนลายบาติกของภาคใต้ ก็เลยไปอบรมการเขียนลายบาติก และนำมาปรับใช้การผ้าไหม เพราะปกติการทำลายบาติกของภาคใต้ ทำกับผ้าบาง ๆ แต่พอนำกลับมาทำลายบาติกบนผ้าไหม มีความยาก เพราะจะต้องรักษาเอกลักษณ์ของผ้าไหม คือ ผ้าจะมีความมันวาว เอาไว้ให้ได้ ซึ่งต้องใช้เทคนิคการลองผิดลองถูก จนสามารถทำให้บาติกผ้าไหมยังมีความมันวาวคงเอกลักษณ์ความเป็นผ้าไหม
หลังจากที่สามารถทำลายบาติกบนผ้าไหมได้เป็นผลสำเร็จ ก็มีผู้ผลิตผ้าไหมก็มาว่าจ้างให้เราช่วยทำลายบาติกผ้าไหม และส่งผลงานเข้าประกวด และได้รับรางวัลต่างๆ มากมาย วันหนึ่งคิดว่า อยากได้รางวัลแบบนั้นบ้าง ก็เลยนำผ้าไหมลายบาติกของเราเข้าประกวด และได้รับรางวัลโอทอป 3 ดาว 5 ดาว ซ้อนๆ กันหลายปี และสินค้าของเราก็ได้เข้าไปขายในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญๆ ในหลายที่ ทั้งที่ KING POWER ร้านหัวหิน และที่สนามบินสุวรรณภูมิ กลุ่มลูกค้าหลัก คือ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ส่วนราคาบาติกผ้าไหม ราคาต่างจากผ้าไหมทั่วไป เช่น ผ้าไหมทั่วไปหลาละ 500 บาท ส่วนผ้าไหมบาติกอยู่ที่หลาละ 1,500-2,000 บาท
สำหรับผ้าไหมบาติก นอกจากจะนำมาตัดเย็บเป็นเสื้อผ้าแล้ว นำมาตัดเป็นกระเป๋า หมอนรองคอ เป็นของแต่งบ้าน อื่นๆ ส่วนลวดลายก็ยังคงเอกลักษณ์ ความเป็นอีสานเข้ามาด้วย เพราะบาติกภาคใต้ ทำเป็นลายน้ำทะเล แต่พอเป็นบาติกผ้าไหมอีสาน ก็นำ เอกลักษณ์ความเป็นอีสานมาใช้ เช่น อีสานสื่อความแห้งแล้ง แตก ก้อนหิน ต้นไม้ สายน้ำ ฯลฯ
สุดท้าย ความตั้งใจของเราในฐานะเป็นคนอีสานและมีผ้าไหมที่ขึ้นชื่อของภาคอีสาน แต่สามารถทำให้ผ้าไหมสามารถเพิ่มมูลค่า และเปลี่ยนความคิดของคนรุ่นใหม่ที่มองว่า ผ้าไหมเป็นผ้าที่ผู้ใหญ่ และข้าราชการเท่านั้นที่สวม แต่เราสามารถทำผ้าไหมบาติกเป็นเรื่องใกล้ตัว คนรุ่นใหม่มากขึ้น และที่สำคัญกว่านั้น ได้สืบทอดการทอผ้าไหมให้ยังคงอยู่คู่กับภาคอีสาน เราเป็นคนกลางน้ำ แต่สามารถช่วยเหลือต้นน้ำ ตั้งแต่ผู้ปลูกหมอน
ติดต่อ Id : Kayabatik โทร. 086-250-1920
