xs
xsm
sm
md
lg

SCENT AND SENSE นักออกแบบกลิ่นอาชีพมาแรง ยุคองค์กรหันมาสร้างกลิ่นเอกลักษณ์ให้ลูกค้าจดจำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“กลิ่น” กลายมาเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับ สถานประกอบการ จะเห็นว่า บริษัทองค์กรใหญ่มีการสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของตัวเองขึ้นมา เพื่อให้ลูกค้าที่มาติตต่องานรู้สึกประทับใจ  และสร้างบรรยากาศการทำงาน จุดเริ่มต้นตรงนี้ เริ่มจาก โรงแรม รีสอร์ สปา ที่มีกลิ่นออกแบบมาเฉพาะ ทำให้หลายๆคนประทับใจ และชื่นชอบ จนกลับไปใช้บริการซ้ำในหลายครั้ง ซึ่งสิ่งของเครื่องใช้ถูกออกแบบมาให้มีกลิ่นไปในทิศทางเดียวกัน เป็นที่มาของอาชีพ “นักออกแบบปรุงกลิ่น” ขึ้นในประเทศไทย และได้รับการตอบรับจากผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก


นักออกแบบกลิ่นบริษัทแรกในไทย

รุจิรา ตระกูลยิ่งเจริญ ( เจ) กรรมการผู้จัดการ SCENT AND SENSE LABORATORY CO.,LTD เล่าว่า SCENT AND SENSE เป็นบริษัทแรกในประเทศไทย ที่รับออกแบบปรุงกลิ่นหอม เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ด้วยกลิ่นให้กับ สถานประกอบการมาแล้วนับร้อยราย ไม่ว่าจะเป็น โรงแรมและสปาชื่อดังในเมืองไทย ได้ผ่านมือทีมนักปรุงที่มีความเชี่ยวชาญด้านออกแบบกลิ่นของเรา ซึ่งได้ออกแบบกลิ่นให้กับสถานประกอบการ โรงแรมและสปา รวมถึงการรับจ้างผลิตทำแบรนด์ ODM ให้ลูกค้ามากกว่า 500-600 แบรนด์ และ ออกแบบกลิ่นมามากกว่า 4,000 กลิ่น


ทั้งนี้ บริษัทได้เปิดดำเนินกิจการมากว่า 10 ปี โดยมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญผ่านการอบรม และเรียนรู้เทคนิคในการออกแบบและพัฒนากลิ่นที่มาร่วมทำงานกับ SCENT AND SENSE ซึ่งแต่ละปีทีมงานทั้งหมดจะทำการพัฒนากลิ่นน้ำหอมใหม่ ออกมามากกว่า 1,000 กลิ่น แต่ที่สามารถนำไปใช้ได้จริงอยู่ที่ประมาณ 200 กลิ่น ซึ่งการทำงานของทีมนักออกแบบและพัฒนากลิ่นของบริษัท ทุกๆ ปี บริษัทก็จะส่งไปศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมจากประเทศที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้โดยเฉพาะ อย่างที่ ประเทศอังกฤษและ ฝรั่งเศส หลักคือการไปศึกษาเรื่องของวัตถุดิบใหม่นำมาใช้กับการออกแบบกลิ่นใหม่ๆให้กับลูกค้า 


ทำไมองค์กร หันมาสนใจสร้างกลิ่นเฉพาะตนเอง

ปัจจุบันองค์กร สำนักงาน ที่หันมาให้ความสำคัญกับการออกแบบกลิ่นเฉพาะองค์กรและ สำนักงานของตัวเองมากขึ้น เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้ลูกค้าได้จดจำ และยังเป็นการยกระดับองค์กรให้มีความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนล และที่สำคัญ กลิ่นช่วยให้พนักงานได้ผ่อนคลายเวลามาทำงาน เหมือนกับกลิ่นในสปา หรือ โรงแรม ด้วย ซึ่งลูกค้าของบริษัทในปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนแรก เป็นการรับจ้างผลิตให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการนำไปทำแบรนด์สินค้าของตัวเอง ซึ่งไม่เฉพาะน้ำหอมทางบริษัทยังรับผลิต สบู่ แชมพู โลชั่น ถุงหอม ก้านหอมปรับอากาศ ฯลฯ ด้วย และส่วนที่สอง เป็นการออกแบบกลิ่นให้กับองค์ สำนักงาน โรงแรม สปา รีสอร์ต ฯลฯ

ทั้งนี้ เริ่มมาจากการทำให้โรงแรม สปา รีสอร์ต ก่อน เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ กลิ่นเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นสถานที่พักผ่อนจำเป็นจะมีกลิ่นที่ช่วยผ่อนคลาย และหลายครั้งลูกค้าประทับใจตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาติดต่อจากกลิ่นที่ได้สัมผัส ดั้งนั้น นักออกแบบกลิ่นจะต้องการทำกลิ่นที่โดนใจแล้ว จำเป็นจะต้องออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะสถานที่นั่นๆ เพื่อให้ลูกค้าจดจำด้วย ส่วนลูกค้าองค์กร สำนักงาน มาจากที่รู้สึกประทับใจในกลิ่นโรงแรม สปา ก็เลยต้องการให้องค์กรของตัวเอง มีกลิ่นที่สร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่มาติดต่อ เช่นเดียวกัน


ออกแบบกลิ่นจากสมุนไพรไทย
สร้างรายได้กลุ่มเกษตรกรหลายจังหวัด

สำหรับส่วนผสมที่นำมาใช้ในการออกแบบกลิ่น นั้น “คุณรุจิรา” เจ้าของ SCENT AND SENSE บอกว่า ตนเองได้เลือกใช้ส่วนผสมวัตถุดิบหลักทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งในส่วนของวัตถุดิบในประเทศ ได้ทำงานร่วมกับทางกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกสมุนไพรไทยในหลายจังหวัด ได้แก่ จังหวัดชลบุรี ปลูกตะไคร้ ข่า และขมิ้น ฯลฯ และเกษตรกรปลูกกุหลาบ ที่จังหวัดเชียงใหม่ และเกษตรกรผู้ปลูกทำสวนส้มโอ ที่จังกาญจนบุรี รวมถึงเกษตรกรที่ปลูกขิง ข่า ฯลฯ ที่จังหวัดอยุธยา

โดยทางบริษัทได้มีการเข้าไปติดต่อกับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกโดยตรง ไม่ได้ซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง และที่บริษัทต้องเข้าไปดิวกับเกษตรกรโดยตรง เพราะว่าวัตถุดิบที่นำมาใช้ในการออกแบบกลิ่นนั้น จะต้องเป็นวัตถุดิบที่ต้องมีอายุการเก็บเกี่ยวมากกว่าวัตถุดิบที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด เพราะต้องกลิ่นชัดเจน ดังนั้น วัตถุดิบยิ่งแก่ ยิ่งให้กลิ่นที่ชัดเจน 


พัฒนากลิ่นแบบครบวงจร

การออกแบบกลิ่นไม่ได้แค่กลิ่นที่ลูกค้าต้องการเท่านั้น แต่ของใช้ต่างๆ จะต้องมีกลิ่นไปในทิศทางเดียวกัน ทางบริษัทฯ จึงได้มีในส่วนของการผลิตอื่นๆ รองรับด้วย เช่น ของใช้ที่อยู่ในห้องพัก อย่าง สบู่เหลว แชมพู โลชั่น ถุงหอม ก้านหอมปรับอากาศ หรือแม้กิ๊ฟเซ็ตภายในโรงแรม หรือ องค์กรที่ต้องการกิ๊ฟเซ็ตไปให้ลูกค้าในวันสำคัญๆ ทางบริษัทรับผลิตให้หมด เพื่อที่ลูกค้าจะได้รับการบริการครบวงจร 


ที่มาของ SCENT AND SENSE

เริ่มขึ้นมาจาก คุณเจ “รุจิรา” และ คุณแบงค์ “รัชพล ตันติประภากุล” ร่วมก่อตั้ง โดยทั้งสองเรียนจบด้านวิทยาศาสตร์ และแยกย้ายกันไปทำงานประจำก่อน โดย คุณเจ ทำงานวิจัยโรคระบาดในพื้นที่ภาคเหนือ ชาวเขาเผาอาข่า จังหวัดเชียงราย ส่วนคุณแบงค์ ทำงานเป็นตัวแทนจำหน่ายยา ดูแลพื้นที่ภาคเหนือเหมือนกัน ได้มาเจอกันอีกครั้ง และชักชวนกันมาทำน้ำหอม เพราะคุณเจ หลังจากขึ้นไปทำงานบนดอย พบว่าส่วนใหญ่จะมีแต่คนแก่ที่อยู่บ้าน หนุ่มสาวต้องออกไปทำงานต่างถิ่นหมด อยากให้หนุ่มสาวกลับมาอยู่บ้าน ถ้าสามารถรับซื้อสินค้าเกษตรของชาวบ้านได้ ก็จะช่วยหนุ่มสาว กลับมาทำการเกษตรที่เข้มแข็งมีรายได้ยั่งยืนได้

หลังจากที่จริงจังการทำน้ำหอม ได้ออกแบบสินค้ามาตัวหนึ่ง สบู่ และผงสมุนไพร น้ำหอมเป็นตัวเสริม ซึ่งสิ่งที่ลูกค้าพูดถึงและจดจำได้กลับไม่ใช่สรรพคุณของสบู่ แต่เป็นกลิ่น จึงตัดสินใจทำงานด้านการออกแบบกลิ่น โดยคุณเจได้ไปเรียนเพิ่มเติมการเป็นนักปรุงกลิ่น จากประเทศอังกฤษ และฝรั่งเศส และได้ใบประกาศนียบัตรมาเป็น Perfumer หรือนักปรุงน้ำหอม


ความชอบที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ต้องมีหลายกลิ่น

“เวลาจะสร้างกลิ่นขึ้นมา เราเริ่มที่ตัวตนของแบรนด์ เน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง โฟกัสที่ผู้บริโภคของแต่ละรายว่าเป็นใคร ซึ่งความหอมเหม็นของแต่ละทาร์เก็ตเป็นเรื่องเฉพาะมาก ๆ อย่างเช่น เอากลิ่น Luxury ไปใช้ตลาดแมส หลายคนอาจจะมองว่าเป็นไอเดียที่ดี แต่หลาย ๆ ครั้งตลาดแมสไม่เข้าใจ เพราะมันไม่ได้หอมในมุมของเขา เราเลยต้องโฟกัสไปที่ผู้บริโภคของแบรนด์นั้น แล้วเอาอินไซต์จากผู้บริโภคมารวมกับตัวตนของแบรนด์ที่จะถ่ายทอด วิธีนี้จะช่วยให้การสื่อสารและการออกสินค้าแม่นยำขึ้น ลดความเสี่ยงของลูกค้าไปในตัวด้วย”

ท้ายสุดอาชีพนักออกแบบกลิ่น น่าจะเป็นหนึ่งอาชีพที่คิดว่าเป็นอาชีพใหม่ ที่น่าจะมาแรง เพราะกลิ่นมีส่วนช่วยในการบำบัดเรื่องความเครียดได้ และองค์กร สำนักงานใหญ่ หลายแห่งเริ่มหันมาสร้างกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองขึ้นมา เพื่อสร้างความประทับใจลูกค้าที่เข้ามาติดต่อ และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กร

ติดต่อ โทร.08-6600-3217


กำลังโหลดความคิดเห็น