แคบหมู ของกินเล่นที่อยู่คู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือแบบแยกกันไม่ออก และแคบหมูธรรมดาก็ไม่คงจะไม่แปลกอะไรทุกร้านมีเหมือนกัน แต่แคบหมูที่กล่าวถึงวันนี้ เป็นแคบหมูยักษ์ เชื่อว่า หลายคนคงไม่เคยเห็นแคบหมูอะไรใหญ่ขนาดนี้มาก่อน ซึ่งใหญ่ขนาดไหน ก็ต้องบอกว่าใหญ่มากแค่ความยาวเป็นเมตร…
มารู้จักก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น
ที่มาของแคบหมูยักษ์
ด้วยความใหญ่ของแคบหมูยักษ์ ทำให้ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือย่านอัมพวา จ.สมุทรสงคราม ชื่อว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น มีการกล่าวถึงกันในวงกว้างบนโลกออนไลน์ ส่วนที่มาของชื่อนี้ มาจากแคบหมูที่กรอบมาก เวลากินจะมีเสียงลั่น หลายคนจะเรียกร้านของ “นายสมบัติ และนางอุษา เนตรมงคล” ว่า ก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น ก่อนหน้าที่จะมาทำแคบหมูยักษ์ ตอนนั้นก็ยังไม่ได้ตั้งชื่อร้าน
นางอุษา เล่าว่า เปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่ที่ ต.บางแค อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม มาได้ประมาณ 9 ปี ก่อนหน้าจะเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ เคยเป็นแม่ค้าเปิดแผงขายกุ้งสดอยู่ทีตลาดมาก่อน แต่ส่วนตัวชอบการกินก๋วยเตี๋ยวเรือ ก็เลยชวนแฟน “คุณสมบัติ” (ก้าน) มาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ แรกๆ ไม่ได้ทำแคบหมูยักษ์ แบบนี้ แต่อยากสร้างจุดขายให้กับร้านก็เลยเป็นที่มาของแคบหมูยักษ์ดังกล่าว
แคบหมูยักษ์ไม่ได้แค่ใหญ่
เสริมให้ก๋วยเตี๋ยวรสชาติอร่อยขึ้น
ทั้งนี้ ทางร้านทำแคบหมูที่เสิร์ฟให้ลูกค้าอยู่แล้ว เพราะแคบหมูเป็นสิ่งที่ต้องมีคู่กับก๋วยเตี๋ยวเรือ และทางร้านให้ความสำคัญกับแคบหมูมาตลอด โดยการลงมือทำด้วยตัวเอง ไม่ได้สั่งมาจากที่อื่นๆ เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวเรือทั่วไป ตอนขายแรกทำชิ้นเล็กเหมือนแคบหมูทั่วไป และพอเราคิดว่าจะสร้างจุดขายให้กับร้านเพื่อให้คนที่อยู่นอกพื้นที่ได้มาชิมก๋วยเตี๋ยวเรือของเรา ก็เลยมาคิดทำแคบหมูที่ชิ้นใหญ่ ๆดู ซึ่งลองผิดลองถูกอยู่นานเกือบ 2 ปี กว่าจะมาลงตัวได้แคบหมูยักษ์ที่อร่อยๆเสิร์ฟมาบนชามก๋วยเตี๋ยวเหมือนอย่างทุกวันนี้
โดยขั้นตอนการทำแคบหมูยักษ์ของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงกว่าจะได้แคบหมูออกมาเหมือนอย่างที่เห็น การเสิร์ฟจะหั่นแคบหมูออกมาเป็นชิ้น และวางไว้บนชามก๋วยเตี๋ยว โดยไม่ได้มีการคิดเงินเพิ่มแต่อย่างใด หนึ่งชามจะได้แคบหมูแค่หนึ่งชิ้น
อย่างไรก็ดี ความยิ่งใหญ่ของแคบหมูยักษ์ ทำให้ก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น เป็นที่รู้จักภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว เพราะหลายคนที่ได้ไปชิมก็จะต้องรู้สึกอึ้ง และถ่ายรูปมาลงโซเชียล ฯ สุดท้ายคนเห็นก็ตามมากิน ทำให้ยอดขายก๋วยเตี๋ยวแคปลั่น เพิ่มอีกกว่าเท่าตัว รวมระยะเวลาที่ได้ทำแคบหมูยักษ์เสิร์ฟมาในชามก๋วยเตี๋ยวเป็นเวลากว่า 5 ปีแล้ว
ไม่เป็นความลับอีกต่อไป
เปิดทุกขั้นตอนการทำแคบหมูร้านดัง
ในส่วนของขั้นตอนการทำแคบหมูยักษ์ เริ่มจากนำหนังหมูที่เป็นส่วนของสันหมู มาล้างทำความสะอาดขูดขนออกให้หมด และเพื่อรีดน้ำมันออก จะนำไปต้ม 10-15 นาที หลังจากนั้น นำไปเจียวเพื่อให้น้ำมันที่ยังออกไม่หมดออกให้หมด เพื่อจะได้หนังหมูที่ไร้มันจริง และ นำไปตากแดดจนได้หนังหมูที่แห้ง ก่อนจะนำมาทอด โดยหนังหมูแห้งยาว 50 เซนติเมตร พอทอดจะได้เป็นแคบหมูที่มีความยาวมากกว่า 1 เมตร หลังจากทอดเสร็จร้อนๆก็จะโรยผงปรุงรส เพื่อเพิ่มรสชาติให้แคบหมูมีรสชาติกรอบอร่อย จนเป็นที่มาของ “กรอบกรามลั่น” ตามที่ลูกค้าตั้งฉายาให้กับ แคบหมูของร้านก๋วยเตี๋ยวเรือแห่งนี้
“อุษา” เจ้าของร้าน บอกว่า ทางร้านจะขายก๋วยเตี๋ยวแค่แคบหมูหมด เพราะลูกค้ามากินที่ร้านของเรา ส่วนหนึ่งคือ ตั้งใจจะมากินแคบหมู เราก็เลยขายแค่แคบหมูหมด และก็หมดทุกวัน ในส่วนของก๋วยเตี่ยวทางร้านจะปรุงรสให้เสร็จเลย โดยไม่ต้องปรุงเพิ่ม และที่เราเลือกที่จะปรุงมาให้เพราะเราคิดมาแล้วว่ารสชาติแบบนี้แหละที่มันอร่อย และเมื่อกินกับแคบหมูยิ่งอร่อยลงตัว ส่วนราคาก๋วยเตี๋ยวของทางร้านอยู่ที่ชามละ 30 บาท พิเศษ 35 บาทและซุปเปอร์พิเศษ 45 บาท ในส่วนของแคบหมูเสิร์ฟให้ฟรีแต่ขอเพิ่มไม่ได้ เพราะมีจำกัด
อยากกินแคบหมูทางร้านไม่มีขาย
จะกินต้องสั่งก๋วยเตี๋ยวเท่านั้น
ด้านคุณก้าน (สมบัติ) สามีคู่ใจคุณอุษา บอกว่า หลังจากที่มีลูกค้าถ่ายเซลฟี่ภาพแคบหมูของทางร้านไปลงในโซเชียลฯ มีคนตามมากินกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เยอะมากในวันหยุด เพราะร้านอยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯมากนัก หลังจากทำแคบหมูชิ้นยักษ์ ลูกค้าเราก็เพิ่มขึ้นกว่า เท่าตัว ส่วนลูกค้าที่ขอแคบหมูเพิ่มหรือขอซื้อกลับบ้านต่างหากก็เยอะ แต่เราไม่ได้ขายให้ เพราะด้วยข้อจำกัดที่เราทำไม่ทัน เพราะทุกอย่างเราทั้งสองคนทำด้วยตัวเอง และกว่าจะได้แคบหมูที่เห็นต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมงเราเลยเลือกที่จะทำบริการแถมลูกค้าที่มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านเท่านั้น ต้นทุนแคบหมูไม่ได้เยอะ แต่ต้นทุนของเวลาในการเตรียมแคบหมูค่อนข้างเยอะ
ในส่วนของการขยายสาขา มีคนมาขอซื้อแฟรนไชส์เยอะ แต่เราก็ไม่พร้อมเช่นกัน อยากจะทำตรงนี้ของเราให้ดีที่สุด และมีความสุขที่ได้บริการลูกค้าและลงมือทำทุกขั้นตอนด้วยตัวเอง มากกว่าที่จะหารายได้เยอะ แต่สุดท้ายไม่มีความสุข
“อย่างไรก็ดี ถ้าแคบหมูน่าสนใจและรสชาติดีอย่างดียวไม่ได้ เพราะเราเป็นร้านขายก๋วยเตี๋ยว ดังนั้น สิ่งสำคัญสุดคือรสชาติก๋วยเตี๋ยว สาเหตุที่ทางร้านปรุงมาให้เลย เพราะมั่นใจว่าเราปรุงได้อร่อยถูกใจลูกค้า และมันก็เป็นเช่นนั้นจริง เพราะลูกค้าส่วนใหญ่ก็ไม่ปรุงเพิ่มและโอเคชอบก๋วยเตี๋ยวที่เราปรุงมาให้ โดยไม่ได้ปรุงเพิ่ม ตัดปัญหาเรื่องของพวงเครื่องปรุงไปได้เลย ซึ่งตั้งแต่แรกเราไม่ได้มองว่าการตัดเครื่องปรุงออกไปและจะประหยัดต้นทุน แต่เป้าหมายการตัดเครื่องปรุงออกไปเพื่อช่วยลูกค้าได้กินก๋วยเตี๋ยวที่รสชาติที่ดีขึ้นมากกว่า เพราะทางร้านก็มีเครื่องปรุงเตรียมไว้ให้ สำหรับคนที่ต้องการปรุงเพิ่ม แต่ท้ายสุดจริงก็มีคนที่ปรุงเพิ่มน้อยมากผลที่ได้รับ คือ ช่วยประหยัดเรื่องต้นทุนเครื่องปรุงและยังช่วยประหยัดเวลาในการเตรียมเครื่องปรุงไปทำอย่างอื่นได้เลย”
แคบหมูนำพาให้มารู้จัก
แต่สุดท้ายรสชาติที่มัดใจคนกิน
พอได้ถามถึงยอดขาย ทางเจ้าของร้านก็ปฏิเสธที่จะพูดตรงนี้ แต่สิ่งที่เห็นได้คือ ภายในร้านมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตลอดตั้งแต่เปิดร้านจนปิดร้านในช่วงเวลาไม่เกิน บ่ายสอง และส่วนใหญ่พอใจในรสชาติของก๋วยเตี๋ยวของทางร้าน และทางเจ้าของร้านยังบอกอีกว่า ปัจจุบันยังมีลูกค้าหน้าใหม่และเดินทางมาจากนอกพื้นที่เพื่อกินก๋วยเตี๋ยวตามกระแสของโซเชียลฯ และสื่อต่างๆ นอกเหนือจากลูกค้าในพื้นที่เป็นลูกค้าประจำ
ท้ายสุด สรุปได้ถึงความสำเร็จของก๋วยเตี๋ยวแคปลั่นแห่งเมืองอัมพวา รายนี้ ไม่ได้มาจากแคบหมูอย่างเดียว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า แคบหมูที่คิดขึ้นมาเป็นส่วนสำคัญเรียกลูกค้าให้เข้ามารู้จัก และชิมก๋วยเตี๋ยวของทางร้าน แม้ว่าร้านแห่งนี้ถ้าถามถึงทำเลที่ตั้งต้องบอกว่า ถ้าไม่มีจุดขายจริง ก็คงไม่มีใครยอมเดินทางลัดเลาะเส้นทางที่ต้องเข้าซอยไปลึก เพื่อกินอย่างแน่นอน แต่พอสุดท้าย แม้แคบหมูพาให้หลายคนเดินทางมา แต่ท้ายสุดจริงๆ คือ รสชาติของก๋วยเตี๋ยวเท่านั้นที่ช่วยให้ลูกค้ายังคงเลือกอยู่กับร้านนี้อย่างเหนี่ยวแน่น
Facebook : ก๋วยเตี๋ยวเรือแคปลั่น หมูน้ำตก-น้ำแดง