เป็นที่ทราบกันดีว่า ประเทศที่มีการจัดการด้านต้นทุนโลจิสติกส์ทีดี จะช่วยลดต้นทุนเพิ่มรายได้ สร้างธุรกิจที่แข็งแรง มั่นคงและยั่งยืนให้กับผู้ประกอบการ และการจัดการโลจิสติกส์ที่ดี ก็ต้องมีผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ที่มีศักยภาพด้วย ครั้งนี้ พามาเปิดมุมมองด้านโลจิสติกส์ กับผู้ประกอบด้านโลจิสติกส์ ที่ดำเนินกิจการมากว่า 15 ปี
โดย นายชาญวิทย์ พรภัทรารัตน์ Managing Director บริษัท เมโทรโพลีแทนท์ โลจิสติกส์ จำกัด หรือ Met-Logs ผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศครบวงจร เป็นบริษัทที่เปิดดำเนินธุรกิจด้านนี้มา 15 ปี บวกกับที่ผ่านมาเคยทำงานด้านโลจิสติกส์ ก่อนจะมาเปิดทำธุรกิจของตัวเอง รวมแล้วอยู่ในวงการนี้ มานานกว่า 22 ปี ทำให้มีความเชี่ยวชาญทางด้านนี้ในระดับที่สามารถจะบอกเล่าให้คนที่สนใจได้รู้จัก ธุรกิจโลจิสติกส์ มากขึ้น
นายชาญวิทย์ เจ้าของ Met-Logs ผู้ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศครบวงจร เล่าว่า ปัจจุบันธุรกิจโลจิสติกส์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก เพราะเป็นโครงสร้างพื้นฐานของทุกบริษัทที่จำเป็นต้องใช้ ด้วยเหตุนี้ ทำให้มีคนสนใจในธุรกิจนี้อยู่ค่อนข้างมาก แต่เป็นธุรกิจที่เกิดง่ายและเลิกง่ายเช่นกัน ถ้าไม่แข็งแกร่งพอจะอยู่ยาก
ทั้งนี้ สาเหตุการไปต่อไม่ได้ของโลจิสติกส์หลายราย มาจากสาเหตุหลัก คือ สายป่านไม่ยาวพอ หรือไม่ก็เป็นการบริหารจัดการที่ไม่เป็นระบบ ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจครอบครัว และก็ไม่พยายามหากลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ขาดความรู้ใหม่ ๆ เพื่อนำมาใช้ในการจัดการเพื่อลดต้นทุน ซึ่งถ้าใครที่สามารถลดต้นทุนได้มาก ก็สามารถแข่งขันได้ เพราะถ้าเราลดต้นทุนให้กับลูกค้าได้ ลูกค้าเลือกใช้บริการกับเรา ดังนั้น การเปรียบเทียบราคาหรือ การแข่งขันด้านราคาส่วนสำคัญในตลาดนี้ อยู่มาก
ในส่วนของ บริษัท Met-Logs นอกจากจะมีความเชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์ เราก็ยังมีบุคลากรด้านภาษีศุลกากรผ่านการสอบหลักสูตรศุลกากรมาคอยให้คำปรึกษากับลูกค้าด้วย ขณะที่ราคาของเราไม่แตกต่างจากรายอื่น แต่เน้นงานด้านบริการมัดใจลูกค้า โดยเฉพาะความรู้ทางด้านภาษีข้อตกลงระหว่างประเทศ ว่าสินค้าตัวไหนได้รับการยกเว้นภาษี ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสามารถประหยัดภาษีนำเข้าสินค้าได้
นายชาญวิทย์ กล่าวว่า ในส่วนของลูกค้าที่มาใช้บริการกับทางบริษัท เป็นแบบ B To B เป็นหลัก ได้แก่ ลูกค้ากลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม, กลุ่มสินค้าทั่วไป , กลุ่มเทรดดิ้งทั่วไปที่มีการซื้อขายสินค้าระหว่างประเทศ รวมถึงขนส่งเกี่ยวกับเครื่องจักรใหญ่ๆ สินค้าที่เป็นสารเคมี อันตราย บริษัทก็มีความเชี่ยวชาญสามารถขนส่งสินค้าได้หมด ทุกประเภท กระทั่งสินค้าเกษตรพวกข้าว, แป้ง, น้ำตาล
โดยปีที่ผ่านมา บริษัทมีการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 20 % ส่วนแผนในปี 2567แผนจะขยายทีมงานทางด้านการตลาด เพื่อขยายกลุ่มลูกค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น โดยเฉพาะพื้นที่ ชลบุรี และ ระยอง ซึ่งมีนิคมอุตสาหกรรมอยู่เป็นจำนวนมาก โดยตั้งเป้าการเติบโตต่อปีไว้ไม่ต่ำกว่า 15%
นายชาญวิทย์ ฝากทิ้งท้ายไว้ ว่า การทำธุรกิจโลจิสติกส์ให้ประสบความสำเร็จต้องสื่อสารกับลูกค้าแบบตรงไปตรงมาและมีความจริงใจ ให้ความรู้ความเข้าใจกับผู้นำเข้าสินค้าและส่งออก ถึงขบวนการทางด้านภาษีศุลกากร การบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะปัจจุบันโลกเปิดมากขึ้น รัฐบาลมีการทำข้อตกลงต่างๆ เกี่ยวกับเรื่อง FTA เพิ่มโอกาสทางการแข่งขัน ทำให้ผู้ประกอบการไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าในสินค้าบางชนิด ซึ่งเจ้าของโลจิสติกส์ ควรจะมีความรู้ และบอกต่อกับลูกค้าของตัวเอง เป็นการเปลี่ยนจากบริษัทคู่ค้ามาเป็นที่ปรึกษา มัดใจลูกค้าในอนาคต และอยู่ใช้บริการกับเราอย่างยั่งยืนตลอดไป
ติดต่อ โทร.02-415-4323
www.met-logs.com