.
Google Trend มีการจัดอันดับคำค้นหามาแรง ซึ่งสะท้อนถึงพฤติกรรมคนไทย และสิ่งที่คนไทยให้ความสนใจ สำหรับในหมวดธุรกิจที่ถูกค้นหามากที่สุด คือ หมวดอาหาร และเครื่องดื่ม ทั้งธุรกิจแบบแฟรนไชส์ และไม่ขายแฟรนไชส์
.
ภาพรวมธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องในปี 66 จำนวนร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 13.6% หรือราว 1 แสนกว่าร้าน
ส่วนประเภทอาหารที่มาแรง ได้แก่ อาหารเช้า อาหารจีน สุกี้ชาบู และเครื่องดื่มประเภทชาไทย-ชาเย็น อัตราการเติบโตบนเดลิเวอรีสูงถึง เพิ่มขึ้น 28.9%
ธุรกิจที่มีคนไทยค้นหาบน Google มากสุดในปี 2566 ได้แก่ ค้นหาอันดับ 1. ️สุกี้ตี๋น้อย 2. ชาตรามือ 3. ️มี่เสวี่ย 4. ️สุกี้จินดา 5. ️Hop Chafe 6. Dairy Queen และ 7. ชิกกี้ชิก
ทั้งนี้ ธุรกิจที่มีการค้นหาติด อันดับหนึ่งและ อันดับ สอง ใน Google อย่าง “สุกี้ตี๋น้อย” และ “ชาตรามือ” ซึ่งทั้งสองธุรกิจไม่ได้ขายแฟรนไชส์ แต่กลับมีการค้นหาเยอะที่สุด ส่วนหนึ่งมาจากกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ และเป็นแบรนด์ที่โตไวรวมถึงการขยายสาขาได้อย่างรวดเร็ว ด้วย เป็นเหตุผลที่ทำให้เป็นที่จับตามองของหลายคนที่สนใจสร้างธุรกิจในอนาคต
สำหรับ ธุรกิจแฟรนไชส์ ในปี 2566 ที่ผ่านมา ยังคงเป็นธุรกิจได้รับความนิยมสูง เพราะหลายคนเชื่อว่า ถ้าได้ทำธุรกิจที่กำลังมีชื่อเสียง การทำตามโอกาสประสบความสำเร็จมีสูงกว่า การลุยสร้างธุรกิจเอง โดยในปี 2566 มี มูลค่าตลาดรวมกว่า 3 แสนล้านบาท และ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 15-20 % ต่อปี โดยธุรกิจแฟรนไชส์ที่สร้างมูลค่าสูงสุด ได้แก่ กลุ่มเครื่องดื่ม 25.15% และ อาหาร 24.09%
โดยในปี 2567 เทรนด์ “ธุรกิจแฟรนไชส์” คาดว่าน่าจะยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ส่วนธุรกิจที่มาแรงน่าจะไม่พ้น ธุรกิจแฟรนไชส์อาหารและเครื่องดื่ม และรูปแบบธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มาก ทำได้เร็วและง่าย จึงเหมาะกับคนที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง หรือกำลังมองหารายได้เสริม
อย่างไรก็ดี ธุรกิจเแฟรนไชส์ มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ทางคอลัมน์ K SME แนะนำนักลงทุนมือใหม่ ไว้ดังนี้
1. ชื่อเสียง หรือ แบรนด์ (Brand) แบรนด์ดี มีภาพพจน์ เป็นที่รู้จักกว้างขวาง และชื่อเสียงดี
2. ระบบ (System) ต้องเรียนรู้ง่าย อุปกรณ์ใช้งานได้ดี มีการสนับสนุน อบรม และช่วยเหลือดี
3. ผลกำไร (Profit) การลงทุนไม่มากเกินไป รายได้ดี มีกำไร และค่าใช้จ่ายไม่เยอะ
4. การคืนทุน (Return) ใช้เวลาไม่นานเรื่องคืนทุน ระยะเวลาไม่เกินครึ่งหนึ่งของสัญญา
ที่มา : Google trend, กรมพัฒนาธุรกิจการค้า