คาเฟ่บนต้นไม้ใหญ่ กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ ออกแบบตกแต่งทุกมุมทุกจุดให้น่าหลงใหล ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็สวยอย่างแน่นอน เพราะที่นี่ คือ “บ้านต้นไม้ คาเฟ่” เจ้าของเดียว กับ “บ้านทะเล คาเฟ่” จ.กระบี่ ธุรกิจที่มีแรงบันดาลใจจากความรักคุณแม่ พร้อมเติบโตต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์การตลาด
ความยากของการเป็นผู้ประกอบการ ตั้งแต่วันเริ่มต้น ผ่านช่วงของการแจ้งเกิด เติบโต จนสู่ยุคขยับขยาย ซึ่งทุกจังหวะของการเดินทาง มีธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank อยู่เคียงข้าง มอบผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ พร้อมองค์ความรู้ที่จำเป็น จนธุรกิจเติบโตมาเป็นแบรนด์ที่ใคร ๆ ก็หลงรักในวันนี้
“บ้านต้นไม้ คาเฟ่” คือหนึ่งในสถานที่เช็คอินต้องห้ามพลาดเมื่อมาเยือน จ.กระบี่ ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และสถานที่พักผ่อน มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม พร้อมบรรยากาศร่มรื่นริมลำธาร มีสัญลักษณ์ที่ทุกคนจดจำได้ดี ก็คือบ้านบนต้นไม้ซึ่งเป็นเหมือนแลนด์มาร์คของที่นี่ พร้อมมุมถ่ายรูปที่หลากหลาย เอาใจสายรักธรรมชาติ และสายคอนเทนต์โดยเฉพาะ
บ้านต้นไม้ เป็นธุรกิจภาคต่อของ “บ้านทะเล คาเฟ่” หรือที่รู้จักกันในชื่อเดิม คือ “สบาย บา บาร์” ร้านอาหารริมทะเลขวัญใจชาวต่างชาติ จ.กระบี่ ฝีมือการปลุกปั้นของ “นายพงษ์เพชร ไชยชมภู” เจ้าของร้าน บ้านต้นไม้ คาเฟ่ และบ้านทะเล คาเฟ่ ที่พึ่งพาตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นหลัก แต่เห็นปัญหาว่ารายได้ของร้านไม่มีความแน่นอน ไม่สามารถอยู่ได้ตลอดทั้งปี ขณะที่ยอดขายเริ่มตกลงเรื่อย ๆ หากยังหวังลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว ธุรกิจก็อาจไปไม่รอด
การตัดสินใจครั้งใหญ่ คุณพงษ์เพชร เกิดความคิดอยากขยายตลาด รองรับนักท่องเที่ยวคนไทย และนักท่องเที่ยวในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มขึ้น จึงผุดไอเดียสร้างบ้านต้นไม้ขึ้นมา โดยมีแรงบันดาลใจมาจากการอยากทำงานใกล้ชิดผู้เป็นแม่
“ผมรู้สึกว่า ถ้ามีธุรกิจที่ทำให้ผมได้อยู่กับคุณแม่ ก่อนที่ท่านจะจากไป ผมคงมีความสุขมาก เนื่องจากคุณแม่ (คุณแม่เลี้ยง พงษ์สามารถ) ตอนนี้ท่านอายุ 88 ย่าง 89 ปีแล้ว ผมอยากทำอะไรที่ได้อยู่ใกล้ ๆ ท่าน มีสถานที่ทำงานที่คุณแม่มาอยู่ข้างๆ ได้ และท่านเองชอบปลูกต้นไม้ด้วย จึงลงมือปลูกต้นไม้ด้วยกัน โดยคุณแม่ปลูกต้นไม้ ส่วนผมรับผิดชอบจัดสวน พร้อมเปิดร้านอาหารไปด้วยเลย” คุณพงษ์เพชร เล่าถึงแรงบันดาลใจของธุรกิจ
“พลังความรัก” สร้างบ้านต้นไม้ พร้อมความสามารถด้านการออกแบบ จากการเรียนโปรดักต์ดีไซน์ มาแปลงพื้นที่สวนมะพร้าวรกร้างของชาวบ้าน กลายเป็นคาเฟ่สุดชิค ที่มีทั้งโซน Indoor, Outdoor, ริมธาร, ริมสระ และบ้านบนต้นไม้ กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และยังอยู่ใกล้กับร้านเดิมเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการอีกด้วย
หลังจากบ้านต้นไม้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงเริ่มขยับขยายในปี 2563 ตัดสินใจมารีโนเวทร้านเดิม “สบาย บา บาร์” พร้อมสร้างแบรนด์ใหม่ “บ้านทะเล คาเฟ่” เพื่อให้ต่อเนื่องกับบ้านต้นไม้ โดยใช้กลยุทธ์การตลาดเชื่อมต่อถึงกันได้อย่างน่าสนใจ
“เราใช้การทำการตลาดที่ต่อเนื่องกัน จริง ๆ 2 ร้านนี้คนละฟีลกันเลย บ้านต้นไม้จะอยู่ริมลำธาร ส่วนบ้านทะเล จะอยู่ริมทะเล แต่กลยุทธ์ที่ใช้คือ ไม่ว่าคุณจะกินที่ร้านไหน ก็สามารถใช้ใบเสร็จจากร้านใดร้านหนึ่งไปเป็นส่วนลดในอีกร้านได้ หรือสามารถไปแลกเป็นผลไม้ได้ตามความเหมาะสม ผมมองว่าวิธีนี้ช่วยให้ดึงลูกค้าได้ ทั้งมื้อเที่ยงและมื้อเย็น และเพิ่มยอดขายให้กับทั้ง 2 ร้านได้อีกด้วย”
อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เป็นวิธีป้องกันความเสี่ยง จากกรณีลูกค้ามาร้านแต่ไม่ใช้จ่าย มาแค่ถ่ายรูปสวยๆ แล้วกลับไป โดยการเก็บค่าเข้าพื้นที่ แต่เงินจำนวนนี้ลูกค้าสามารถนำไปแลกเครื่องดื่มภายในร้านได้ด้วย
“ผมเป็นคาเฟ่ยุคแรก ๆ เลย ที่รู้สึกว่าคาเฟ่ต้องเก็บตั๋วค่าเข้า โดยที่ลูกค้าได้คืนเป็นเครื่องดื่มภายในร้าน เพื่อให้เขาใช้เงิน ดีกว่าไม่ได้อะไรเลย ตอนที่แรกที่ประกาศว่า จะเก็บค่าเข้าร้าน ก็ใช้วิธีชี้แจงอย่างเป็นขั้นตอน ช่วยกันอธิบายลูกค้าว่ามันเกิดอะไรขึ้น โดยเชื่อว่าวิธีนี้ วิน-วิน กับทั้งเราทั้งลูกค้า ซึ่งที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าเข้ามาใช้บริการต่อเนื่อง"
ลูกค้าของบ้านต้นไม้เฉลี่ยอยู่ที่กว่า 100 รายต่อวัน แต่ถ้าเป็นช่วงไฮซีซันหรือวันหยุด ศุกร์-เสาร์-อาทิตย์ ลูกค้าจะขยับเพิ่มเป็น 300-500 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นลูกค้าคนไทย วัยทำงาน กลุ่มที่มาอบรมสัมมนาในพื้นที่ กลุ่มทัวร์ กลุ่มองค์กร และต่างชาติที่มาท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ เป็นต้น
ช่วงที่เกิดโควิด-19 ธุรกิจสะดุดไปช่วงหนึ่ง คุณพงษ์เพชร บอกว่า การรับมือปัญหาในช่วงนั้นต้องใช้สติอย่างมาก เมื่อทำอะไรไม่ได้มาก ต้องใช้เวลาไปกับการจัดสวน ปรับปรุงร้าน วางระบบการบริหารจัดการ เมื่อทุกอย่างกลับมาเป็นปกติ เราก็มีความพร้อมรับมือได้ทันที ไม่ต้องเสียโอกาสดี ๆ ไป ใครจะคิดว่าเพราะการวางแผนที่ดีนี้เอง ทำให้หลังปลดล็อกการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเข้าร้านมากกว่า 1,000 คนต่อวัน
ตั้งแต่วันเริ่มต้นธุรกิจ พวกเขามีพี่เลี้ยงที่ชื่อ SME D Bank ซึ่งไม่ได้ทำหน้าที่แค่สนับสนุนด้านเงินทุน แต่ยังมอบองค์ความรู้ที่เหมาะสม เพื่อให้ทุกจังหวะของการก้าวเดิน เป็นไปอย่างราบรื่นและมั่นคง
“ตอนนั้น SME D Bank เข้ามา จ.กระบี่ ผมทำแผนธุรกิจและกู้เงินก้อนแรกออกมาทำธุรกิจเล็กๆ ของตัวเอง แล้วก็เติบโตมาเรื่อย ๆ ตอนที่รีโนเวทร้านเดิมก็กู้เงินจาก SME D Bank ตอนมาทำบ้านต้นไม้ก็ได้การสนับสนุนจากธนาคารอีก และผมยังเป็นลูกค้าที่ไปอบรมกับ SME D Bank ตั้งแต่รุ่นที่ 1 ประมาณปี 2544-2545 ได้ โดยธนาคารสอนการทำแผนธุรกิจ การวิเคราะห์ SWOT วิเคราะห์การเงิน รวมถึงทำภาพลักษณ์องค์กร ช่วงนั้นเข้าอบรมเยอะมาก เป็นเดือน ๆ เลย เพราะเราต้องเริ่มทำธุรกิจเอง ซึ่งการอบรมทำให้มั่นใจขึ้นมาก ถึงวันนี้ก็ยังเข้าร่วมอบรมกับ SME D Bank อยู่เรื่อย ๆ เหมือนการเติบโตมาด้วยกันจริงๆ ธนาคารก็เห็นว่าผมสู้ พร้อมให้การสนับสนุนมาจนถึงวันนี้”
อย่างไรก็ตาม จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจ คือ อยากอยู่ใกล้ชิดกับคนที่รัก ซึ่งความสุขที่ได้รับในทุก ๆ วัน นับว่าเป็น “กำไร” ที่สุดแล้ว ของคุณพงษ์เพชร เจ้าของ “บ้านต้นไม้ คาเฟ่” และ “บ้านทะเล คาเฟ่” จ.กระบี่
ติดต่อเพิ่มเติม
FB : บ้านต้นไม้ คาเฟ่ กระบี่ Baan Ton Mai Cafe' Krabi
FB : บ้านทะเล คาเฟ่ กระบี่ Baan Tha Ley Cafe' Krabi
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *