xs
xsm
sm
md
lg

“ลัคกี้ ภัตตาคาร” ย่าวัย 85 ปี เริ่มต้นจากศูนย์..ลูกจ้างร้านอาหาร สู่ เจ้าของภัตตาคาร การันตรีมิชลินไกด์ ปี 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้ ชื่อ “ลัคกี้ภัตตาคาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี” โด่งดังเป็นที่รู้จักทั่วประเทศ ภายในระยะเวลาข้ามคืน หลังจากเกิดคดีการปะทะคารมกัน ระหว่าง “เชฟอ้อย ยุวดี” เจ้าของแฟรนไชส์ลูกชิ้นชื่อดัง และ เจ๊แมน ผู้ซื้อแฟรนไชส์ จากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เกิดปะทะคารมกันอย่างดุเดือดในรายการดังตามที่เป็นข่าวไปแล้ว และทาง “เจ๊แมน” ได้มีการพูดถึง ภัตตาคารชื่อดัง “ลัคกี้” วันนี้ พามารู้จักกับ “ลัคกี้ ภัตตาคาร” แห่งนี้ ว่าโด่งดังจากอะไร ทำไมคนที่มา จ.สุราษฎร์ฯ ต้องแวะภัตตาคารแห่งนี้

“นางยวงทอง ชุมถวาร” เจ้าของภัตตาคารในวัย 85 ปี
ต่อสู้ย่าวัย 85 ปีจากลูกจ้างในร้านอาหาร สู่เจ้าของภัตตาคาร

ผ่านการบอกเล่าของทายาท เจ้าของภัตตาคาร “นายปวริศ ไชยชำนิ” (คุณภูมิ) เล่าว่า ลัคกี้ ภัตตาคาร เป็นภัตตาคารที่โด่งดังจากอาหารใต้ โดนใจคนในพื้นที่ และนักเดินทาง ถ้าอยากกินอาหารใต้แท้ๆรสจัดจ้านต้องแวะ มาภัตตาคารแห่งนี้ โดยการปรุงรสของ คุณย่า “นางยวงทอง ชุมถวาร” เจ้าของภัตตาคารในวัย 85 ปี


สำหรับ “ลัคกี้ ภัตตาคาร” เปิดให้บริการเมื่อ ปี 2525 เปิดมานานกว่า 40 ปี โดยคุณย่า “ยวงทอง”เริ่มต้นสร้างภัตตาคาร แห่งนี้ เริ่มจากศูนย์ก็ว่าได้ เพราะก่อนจะมาเป็นลักกี้ ภัตตาคาร คุณย่า ต้องออกไปทำงานเป็นลูกจ้างร้านอาหาร และด้วยรสมือของคุณย่าในการทำอาหาร ทำให้คุณย่าได้เป็นมือหนึ่งในครัวร้านอาหารชื่อดังแห่งนั้น ก่อนที่ ย่ายวงทอง เก็บเงินได้ก้อนหนึ่งในตอนนั้น ย่าอายุไม่ถึง 40 ปี ตัดสินใจมาเปิดร้านขายข้าวแกงเล็กๆ และด้วยความตั้งใจ บวกกับรสมือที่ผ่านประสบการณ์การทำอาหารในร้านชื่อดังมา ทำให้ร้านข้าวแกงเล็กของย่ายวงทอง ได้รับการตอบรับดีมาก จนสามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นภัตตาคาร เหมือนอย่างทุกวันนี้


อายุไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการทำงานของคุณย่า

“แม้ว่าย่า “ยวงทอง” ในวัย 85 ปี แต่คุณย่า ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลภัตตาคารด้วยตัวเอง หลายๆ ครั้งคุณย่าลงมือทำอาหารเอง ซึ่งทุกๆ เมนูของลัคกี้ภัตตาคาร เป็นสูตรที่คุณย่ายวงทอง เป็นผู้ที่ออกแบบและลงมือทำด้วยตัวเองมาก่อน และทุกวันนี้ ก็ยังเป็นธุรกิจครอบครัว ที่เจ้าของก็ยังเป็นคุณย่าแม้ว่าจะมีลูกๆหลานมาช่วยดูแล และมีพนักงานมาช่วยในครัว แต่สูตรต่างๆ ก็ต้องทำตามแบบอย่างที่ย่า เคยทำเหมือนตอนเปิดร้านใหม่ ความใส่ใจ และรายละเอียดในการทำอาหารทุกเมนู ก็ต้องทำเหมือนเดิม รวมการไปจ่ายตลาด ทุกวันนี้ คุณย่าก็ยังคงไปจ่ายตลาดด้วยตัวเอง เพื่อจะได้วัตถุดิบที่สดใหม่ทุกๆ วัน เป็นต้น”


รสจัดจ้านตามแบบฉบับอาหารใต้
โดนใจนักเดินทางคนในพื้นที่..ที่มา “มิชลินไกด์ ปี 67”

ปวริศ (ภูมิ)เล่าถึง ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่ภัตตาคารลัคกี้ ว่า ที่ผ่านมาได้ต้อนรับแขกผู้ใหญ่หลายท่านที่มาจังหวัดสุราษฎร์ธานี รวมถึงนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวสุราษฎร์ฯ และต้องการกินอาหารใต้พื้นถิ่น ก็จะเลือกมากินที่ลักกี้ ภัตตาคาร ในช่วงที่ไม่มีนักเดินทาง หรือ นักท่องเที่ยว เราก็ยังมีลูกค้าคนในพื้นที่เข้ามาใช้บริการเช่นกัน


นอกจากนี้ ล่าสุด ในปี 2024 ทางภัตตาคารลัคกี้ ยังได้รับเลือกให้ได้รับรางวัล มิชลินไกด์ ปี 2024 บิบ กูร์มองด์ เป็นครั้งแรกของทางร้าน ด้วย “คุณปวริศ” ทายาทเจ้าของร้าน บอกว่า หลังจากที่ได้รับมิชลินไกด์ 2024 ทำให้มีลูกค้าให้ความสนใจ และเข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ ๆเพิ่มขึ้นมาก วัดได้จากในอดีตถ้าเป็นวันธรรมดา อังคาร ถึงพฤหัส พื้นที่ขั้นสองลูกค้าน้อยมาก หรือแทบจะไม่มีเลย แม้แต่ชั้นล่างยังไม่เต็ม แต่หลังจากได้มิชลินไกด์ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นพื้นที่ทั้งสองชั้นเกือบเต็มทุกวัน

ทั้งนี้ มิชลินไกด์ เป็นรางวัลที่เราภาคภูมิใจอย่างมาก นอกจากจะเป็นรางวัลที่คนทั่วโลกให้การยอมรับแล้ว สิ่งที่เราภาคภูมิใจเพราะเป็นรางวัลที่เราไม่ได้ไปขอ แต่เป็นรางวัลที่มอบให้จากการที่แอบมาชิม โดยที่เราเองก็ไม่ทราบว่า เขาพิจารณาจากอะไร หรือเมนูไหนที่ได้รางวัล สิ่งที่เราภูมิใจมากเพราะถ้าไม่ดีจริง ก็คงจะไม่ได้รางวัลนี้อย่างแน่นอน

“นางยวงทอง ชุมถวาร” เจ้าของภัตตาคารในวัย 85 ปี
เปิดบริการจัดส่งทั่วประเทศ ตามคำเรียกร้องลูกค้า

สำหรับ ลัคกี้ ภัตตาคาร โดดเด่นที่มีเมนูอาหารใต้ อาหารพื้นถิ่นจังหวัดสุราษฎร์ และ เมนูอาหารจีน เชื่อว่าคนที่เดินทางมาสุราษฎร์ฯ อาหารที่เขาอยากจะกินก็ต้องเป็นอาหารพื้บถิ่น กลุ่มลูกค้าหลัก คือ นักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ เป็นหนึ่งร้านที่มีชื่อเสียงอันดับต้นในจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยคุณย่า ยวงทอง ตั้งใจและรัก ภัตตาคารแห่งนี้มาก แม้จะอยู่ในวัย 85 ปีที่ต้องพักผ่อนให้ลูกหลานทำแทนก็ได้ แต่คุณย่า เองก็ยังไม่ยอมทิ้ง หรือ ยกร้านให้กับใครไปดูแล ยังเลือกที่จะทำด้วยตัวเอง และให้ลูกๆ หลานมาเป็นผู้ช่วยไปก่อน ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้รสชาติของอาหาร ลัคกี้ภัตตาคาร ยังคงเหมือนกับอาหารที่ คุณย่า ทำเสิร์ฟ ตั้งแต่เปิดภัตตาคารใหม่ ความคงเส้นคงวาของรสชาติอาหารทำให้ ร้านลักกี้ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก


ปัจจุบันมีลูกค้าที่เคยกินอาหารที่ภัตตาคาร มาจากพื้นที่ในจังหวัดอื่นๆ หลายคนติดใจ และได้สั่งอาหารให้ทางเราได้ส่งไปให้กิน บางรายอยู่ที่เชียงใหม่ ก็มี กรุงเทพฯ ก็มี หรือ ถ้าผมได้ขึ้นไปกรุงเทพฯ ก็จะต้องหิ้วอาหารของที่ร้านให้ไปลูกค้าที่นั้นด้วย เพราะมีเพื่อนสั่งเข้ามาตลอด ส่วนที่อยู่ไกลๆ ก็มีการส่งรถขนส่ง รถห้องเย็น ประมาณ 2-3 วันก็ได้รับ แต่จะส่งไปในรูปแบบของอาหารแช่เข็ง เพื่อป้องกันอาหารเสียระหว่างขนส่งด้วย ในส่วนของการขยายสาขา ตอนนี้ ครอบครัวไม่ได้มองตรงนี้ เป็นเรื่องของอนาคต ส่วนราคาอาหารเริ่มต้น 100 บาท ไปจนถึง 300 กว่าบาท ในส่วนของเมนูยอดนิยม มีหลายเมนู เช่น แกงเหลืองปลากะพงยอดมะพร้าว แกงไตปลา ปลาดุกทอดกรอบผัดเผ็ด ปลากระบอกทอดขมิ้น ใบเหลียงผัดไข่ ต้มส้มปลากระบอก อาหารจีน เช่า ปลาจาระเม็ดหม้อไฟ หัวปลาต้มเผือก ฯลฯ


เจ๊แมน เป็นใคร เกี่ยวข้องกับลัคกี้ ภัตตาคารอย่างไร

ส่วนของเจ๊แมน ที่มีประเด็นเรื่องแฟรนไชส์ลูกชิ้นชื่อดังกับเชฟอ้อยนั่น ที่ผ่านมา เจ๊แมนอยู่ที่ภัตตาคารลัคกี้ มานานโดยเป็นบาริสต้าทำน้ำปั่น ด้วยความที่อยู่มานาน จนลูกค้า เรียกเค้าว่า “แมนลัคกี้”เป็นฉายาที่คนสุราษฏร์ฯ รู้จักแมนในชื่อ ของแมนลัคกี้ และ ด้วยความน่ารัก “แมน” ทำให้คุณย่า และครอบครัวเราก็รักและเอ็นดูเหมือนเค้าเป็นหนึ่งในครอบครัวของเรา และวันหนึ่งเค้าได้ออกไปช่วยแม่ทำร้านอาหารจานเดียว แม่เองก็รักและเอ็นดูเค้าเหมือนลูกคนหนึ่ง ตอนหลังอยากจะออกไปหาประสบการณ์ เปิดร้านค้าขายของเค้าเอง เป็นที่มาของการทำแฟรนไชส์ลูกชิ้น และ อื่นๆ ที่เค้าทำอยู่ในขณะนี้

ติดต่อ โทร. 09-5268-1124
Facebook : Lucky Restaurant (Suratthani)



คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น