เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2566 ที่วัดเขาไม้แดง หมู่ 5 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ได้มีประชาชนจำนวนหลายพันคนเดินทางมาเข้าร่วมพิธีเจิมโฉนดที่ดิน ซึ่งทางวัดเปิดรับสำเนาโฉนดตั้งแต่เวลา 09.00 – 14.00 น. และมีพิธีสวดมนต์โดยพร้อมเพรียงกันเวลา 16.00 น. โดยพิธีการได้ทำต่อหน้ารูปหล่อหลวงพ่อยงยุทธ (อดีตเจ้าอาวาส) โดยมี พระครูวิสิฐธรรมโสภณ (หลวงพ่อสง่า ติกฺขวีโร) เจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง เป็นประธานในพิธี
พระครูวิสิฐธรรมโสภณ (หลวงพ่อสง่า ติกฺขวีโร) เจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง เจ้าคณะตำบลบางพระ เขต 2 อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “วัดเขาไม้แดงเริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2502 โดยอดีตเจ้าอาวาส หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล ปัจจุบันกาลเวลาได้ผ่านมานานพอสมควรน่าจะ 60 กว่าปีแล้ว วันนี้เราเห็นอาสนะต่างๆ มีอุโบสถ มีศาลาการเปรียญ มีกุฏิสงฆ์ แล้วก็ฌาปนสถาน เป็นความวิริยะอุตสาหะของครูบาอาจารย์หลวงพ่อยงยุทธ อดีตเจ้าอาวาส และความอนุเคราะห์จากญาติโยมทั้งหลาย ปัจจุบันโครงการหลักของเราคือ การสร้างเขาที่เรียกว่า “มณฑป” ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของบูรพาจารย์ โดยจะนำเอารูปภาพและอัฐิมาประดิษฐานไว้บนยอดเขา
สำหรับเรื่องการเจิมโฉนดที่ดินมีความเกี่ยวเนื่องมาตั้งแต่สมัยอดีตเจ้าอาวาส สมัยก่อนทั้งลูกศิษย์ลูกหาหรือญาติโยมคนไหนมาเล่าให้ท่านฟังว่า สถานที่ที่อยู่ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน อาคาร หรือที่พักอาศัย ซึ่งอยู่แล้วเกิดความไม่สบายกาย สบายใจ คนในบ้านทะเลาะเบาะแว้งกันบ้างหรืออยู่แล้วเจ็บป่วยบ่อยสุขภาพไม่ดีบ้าง หลวงพ่อท่านก็จะมีวิธีการอย่างหนึ่งคือ ให้พระไปนั่งแผ่เมตตาในสถานที่นั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นบ้าน เป็นอาคาร เป็นตึกแถว หรือแม้แต่ที่ดินเปล่าก็ตาม ให้พระไปเจริญเมตตา
โดยอยากสื่อสารออกไปว่า สิ่งที่เรากำลังทำมันเป็นการเสริมสร้างกำลังใจให้คนมีพลังในการเอาไปประกอบ “สัมมาอาชีพ” อาชีพที่เป็นสัมมาคืออาชีพที่ไม่เบียดเบียนหรือก่อความเดือดร้อนทำลายใคร โดยตัวเขาจะต้องมีความคิดดี พูดดี ปฏิบัติดี เพราะวัดเป็นเพียงแค่ตัวเสริม ตัวเริ่มต้นจริงๆ คือตัวของบุคคลที่มาทำพิธี ตัวเขาคือผู้ประกอบเหตุเอง ในทางพุทธศาสนาท่านบอกว่า การประกอบเหตุแล้วผลที่ได้รับ มันเกิดขึ้นจากบุคคลนั้นๆ ไม่ว่าจะอยู่ในสถานภาพพระภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา ทั้งหลาย
และมีโอกาสก็มักพูดเสมอว่า ในการที่วัดทำพิธี เพื่อเป็นการเสริมนะโยม มีพละกำลัง มีกำลังใจในการประพฤติปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้า คือ ละชั่วประพฤติดีแล้วทำจิตใจให้ผ่องใส ถ้าทำตามได้มาก อานิสงส์ก็มาก สุดท้ายผลลัพธ์นั้นก็จะย้อนกลับมาที่ตัวของผู้ประพฤติปฏิบัติเอง เป็นหลักในทางพระพุทธศาสนาซึ่งประกอบเหตุเช่นไรก็ได้ผลเช่นนั้น”
คุณนุ่น หนึ่งในผู้ที่เดินงานมาร่วมงานจากจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า “ดิฉันเพิ่งเคยเดินทางมาที่วัดแห่งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งได้รู้ว่าทางวัดจะมีการจัดพิธีเจิมโฉนดขึ้น โดยเห็นข้อมูลจากทางเพจในอินเตอร์เน็ต ส่วนตัวมีความสนใจอยู่แล้วเพราะตอนนี้ได้ประกาศขายที่ดินของตนเองมาเป็นเวลา 2 ปี แต่ยังเงียบอยู่ เลยตัดสินใจลองมาทำพิธีดู ซึ่งคาดว่าจะสำเร็จในเร็ววันนี้ นอกจากนี้ยังได้ร่วมในพิธีลงพระพุทธพักตร์หน้าทอง (เจิมหน้าผาก) กับพระครูปลัดนพภัณฑ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดเขาไม้แดง ศิษย์เอกหลวงพ่อสง่า และบูชาสีผึ้งเพื่อความเป็นสิริมงคลอีกด้วย”
ทางด้านคุณสุชาติ เดินทางมาจากบ้านสวน ซอย 11 ตำบลหนองไม้แดง จังหวัดชลบุรี กล่าวว่า “วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาที่วัดเขาไม้แดงอีกครั้ง ผมรู้จักมักคุ้นกับวัดแห่งนี้ตั้งแต่ยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เพราะเป็นวัดที่อยู่ไม่ไกลจากบ้าน แต่ทุกวันนี้วัดเขาไม้แดงกลายเป็นที่รู้จักของคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการบวงสรวงโฉนดที่ดิน หากใครที่ติดตามในโลกโซเชียลมีเดียจะเห็นว่าหลายคนที่มาที่นี่ประสบความสำเร็จในเรื่องการขายที่ดินและสิ่งปลูกสร้างกัน วันนี้ผมพาครอบครัวมาร่วมในพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งมีผู้เข้ามาร่วมงานเป็นจำนวนมาก อยากเรียนเชิญทุกท่านลองมาเยี่ยมชมกราบไหว้สักการะหลวงพ่อดู ที่นี่บรรยากาศร่มรื่นเย็นสบาย แนะนำให้มาเที่ยวกันเยอะๆ ครับ”
ปิดท้ายที่คุณเกษม จากจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า “วันนี้ผมมาขอเรื่องที่ดินครับ ขอให้ขายได้ ผมหาข้อมูลจากใน Youtube ตั้งแต่ช่วง 2 เดือนที่แล้ว และได้มีการสอบถามเข้ามาทางวัด ซึ่งได้รับคำตอบว่าจะมีพิธีการเจิมโฉนดที่ดินในวันที่ 9 ธันวาคม 2566 โดยส่วนตัวผมมีความศรัทธาและตั้งใจที่จะมา สุดท้ายมีความเชื่อมั่นว่าที่ดินจะต้องขายได้ครับ”
นอกจากนี้ วัดเขาไม้แดงยังเปิดให้ประชาชนเดินทางมาจองคิว “เจิมมือ” ได้ทุกวัน ยกเว้นวันพระ เนื่องจากหลวงพ่อจะหยุดเจิมทุกวันพระ และวันที่หลวงพ่อติดกิจนิมนต์สำคัญ โดยเป็นความเชื่อของชาวบ้านผู้มีความศรัทธาว่า เมื่อเจิมมือจากหลวงพ่อสง่าไปแล้วจะไม่มีวันอดอยาก ไม่ยากจน และยังป้องกันคุณผี คุณไสย และเสนียดจัญไรต่างๆ ที่มาแผ้วผลาญทำลาย โดยสามารถติดตามรายละเอียดต่างๆ ได้ที่เพจ “หลวงพ่อสง่า วัดเขาไม้แดง เจิมมือนะพระแม่โพสพมีกินไม่รู้สิ้น”