xs
xsm
sm
md
lg

ไปรษณีย์ฯ ปั้น “ข้าวฮางทิพย์” ป้อนตลาดข้าวพรีเมี่ยม ยอดสั่งซื้อโต 70% พร้อมผุด “ข้าว-น้ำเปล่า” ตรา ปณ. ขายไม่ถึงเดือนรายได้ 3 ล้าน!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ไปรษณีย์ไทยปั้นวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ชูแบรนด์ “ข้าวฮางทิพย์” ข้าวฮางสามสีที่มีมากว่า 200 ปี เข้าสู่ตลาดข้าวพรีเมี่ยมตลอดการส่งเสริมและพัฒนามากว่า 9 ปี ภายใต้โครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” เผยชาวบ้านและชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้นจากยอดการสั่งซื้อ 70% พร้อมผุดสินค้า “ข้าวหอมมะลิสุรินทร์และน้ำเปล่า” ตราไปรษณีย์วางขายที่ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เผยวางขายไม่ถึงเดือนสร้างยอดขาย 3 ล้านบาท


ดร. ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยเดินหน้าสนับสนุนและพัฒนาศักยภาพวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนครมาตลอด 9 ปี ซึ่งไปรษณีย์เองมีนโยบายที่สำคัญผ่านการเป็นผู้พัฒนาสินค้า ช่องทางการขนส่ง ช่องทางการตลาดและการจัดจำหน่าย รวมถึงการปั้นแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ซึ่งแบรนด์ “ข้าวฮางทิพย์” เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สินค้าชุมชนที่สำคัญ เนื่องจากทางไปรษณีย์ไทยได้เล็งเห็นถึงความโดดเด่นของข้าวฮางทิพย์ที่มีมาอย่างยาวนานกว่า 200 ปี ของชาวสกลนคร จึงได้ส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ให้สามารถยกระดับข้าวฮางสามสีออกสู่ท้องตลาดได้ภายใต้โครงการ “ไปรษณีย์เพิ่มสุข” ทำให้ตลอดระยะเวลา 9 ปีสามารถทำให้ชุมชนและชาวบ้านกุดจิก จังหวัดสกลนครมีรายได้เพิ่มจากการยกระดับข้าวฮางทิพย์และยังได้การยอมรับในฐานะ OTOP ระดับสามดาวอีกด้วย


ทั้งนี้ข้าวฮางทิพย์มีคุณสมบัติที่โดดเด่นในเรื่องของข้าวที่มีคุณค่าสูง โดยเฉพาะสาร GABA ที่สามารถช่วยลดความดันโลหิต คอเรสเตอรอล ความเสี่ยงโรคอัลไซเมอร์ โรคเบาหวาน และสามารถเพิ่มมูลค่าผ่านการจำหน่ายสินค้าหลัก เช่น ข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางหอมมะลิ และข้าวฮางหอมนิล ที่สามารถต่อยอดและแปรรูปไปเป็นสินค้าอื่นได้อีก เช่น คุกกี้ข้าวฮางสามสี

นอกจากนี้ภาพรวมของไปรษณีย์ในภาคอีสานนั้นมีความเติบโตอย่างต่อเนื่อง สินค้าชุมชนที่นำไปขายทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ได้รับความนิยม ซึ่งทางไปรษณีย์เองได้มีส่วนช่วยขยายตลาดให้กับผู้ประกอบการและสินค้าชุมชนให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งขยายและกระจายสินค้าชุมชนส่งออกไปยังต่างประเทศและสนับสนุนร้านค้าชุมชนกว่า 500 ร้านค้า ซึ่งไม่เพียงแค่สนับสนุนเรื่องการป้อนสินค้าสู่ท้องตลาด ไปรษณีย์ยังได้มีการสนับสนุนสินค้าบางรายตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ ทั้งเรื่องพัฒนาแพคเกจจิ้ง การทำการตลาด ช่องทางการตลาดต่างๆ ไปจนถึงช่องทางการจัดจำหน่าย ทำให้สินค้าของชุมชนเติบโตจากปีที่แล้วเฉลี่ยอยู่ที่ 20% มีพ่อค้าและแม่ค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ สำหรับความพร้อมในการขนส่งของไปรษณีย์ในภาคอีสานนั้นมีความพร้อมเป็นอย่างมาก และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอดและสามารถเติบโตได้กว่า 90%


ในส่วนของ “ข้าวฮางทิพย์” และวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์นั้น จากจุดเริ่มต้นจนถึงปัจจุบัน วิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์มีสมาชิกรวม 28 ราย จัดอยู่ในหมวดหมู่วิสาหกิจชุมชนเงินล้าน มีผลผลิตข้าวเปลือกที่นำมาแปรรูปทำข้าวฮาง ประมาณ 15,000 กิโลกรัม และวิสาหกิจชุมชนฯ มีการรับซื้อข้าวเปลือกจากเครือข่ายเกษตรกรในพื้นที่ 25,000 กิโลกรัม มีตลาดรองรับที่สำคัญ ได้แก่ รพ.วานรนิวาส เพื่อทำเป็นอาหารสุขภาพสำหรับผู้ป่วย และแปรรูปให้เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตามออเดอร์ เช่น แป้งข้าวฮางสำหรับทำขนม คุกกี้ข้าวฮาง เค้กกล้วยหอม บราวนี่ ขนมปังกรอบ ชิฟฟ่อนข้าวฮาง การขายปลีกบนช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เช่น ที่ทำการไปรษณีย์ฯ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือกว่า 90 แห่ง มีการผลิตและมีบรรจุภัณฑ์ที่รองรับกับการจัดส่งในพื้นที่ต่างๆ ทั้งการแพ็คแบบสุญญากาศในกล่อง และการบรรจุแบบขวด สามารถส่งข้าวฮางออกจำหน่ายได้ทั่วประเทศ

นอกจากนี้ สินค้าดังกล่าวยังมีความโดดเด่นด้วยการจัดส่งที่รวดเร็วตามมาตรฐานส่งด่วน EMS เลือกซื้อได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์ที่มีความสะดวกอย่าง www.thilandpostmart.com ปลอดภัย ให้บริการในราคาพิเศษ และจัดส่งต่อเนื่องตลอด 365 วัน


การพัฒนาข้าวฮางภายใต้โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขในระยะถัดไป ไปรษณีย์ได้ตั้งเป้าหมายและกำหนดอัตลักษณ์ที่สำคัญของสินค้าไว้ดังนี้

1.High Profile ซึ่งจะพัฒนาให้เป็นสินค้าตัวท็อปในหมวดหมู่สินค้าทางการเกษตร และกลุ่มสินค้าประเภทข้าวที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจและเลือกซื้อ สามารถป้อนตลาดคนรักสุขภาพ กลุ่มคนมีกำลังซื้อ กลุ่มผู้ป่วยหรือต้องคุมอาหารได้ทั้งช่องทางออนไลน์ www.thailandpostmart.com ที่ทำการไปรษณีย์ หรือช่องทางร้านค้าที่ให้การสนับสนุนจัดจำหน่าย อีกทั้งยังมุ่งนำเสนอสตอรี่ที่สำคัญทั้งกระบวนการในผลิตที่ปลอดภัย มาตรฐานของสินค้า ผลลัพธ์ที่ได้จากการบริโภค เป็นต้น

2.High Benefit จากการผลิตด้วยกระบวนการ “แช่-นึ่ง-ผึ่ง-สี” ที่กระตุ้นให้ข้าวงอก และทำให้ข้าว มีสารอาหารต่างๆ สูง โดยเฉพาะสาร GABA ซึ่งช่วยลดความดันโลหิตและปริมาณคอเรสเตอรอล มีส่วนช่วยในการควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคอัลไซเมอร์ อีกทั้งมีธาตุแมงกานีส ในปริมาณสูง ซึ่งจะช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระอันเป็นสาเหตุของโรคมะเร็ง นอกจากนั้นข้าวฮางมีค่าการเปลี่ยนเป็นน้ำตาลในกระแสเลือดต่ำ จึงเหมาะสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน และเป็นสารสื่อประสาทที่สำคัญที่มนุษย์จำเป็นต้องใช้ในการควบคุมระบบประสาทรวมทั้งกล้ามเนื้อ


3.High Value ยกระดับข้าวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนให้มีรายได้ที่มากขึ้นจากสินค้าประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์หลักอย่างข้าวฮางเหนียว ข้าวฮางหอมมะลิ ข้าวฮางหอมนิล ข้าวฮางมันปู ข้าวฮางไรซ์เบอร์รี่ ผ่านการผลิตขึ้นใหม่ การรับผลิตตามรายการสั่งซื้อและงานแสดงสินค้าทางการเกษตร รวมทั้งการต่อยอดเป็นสินค้าที่มีความสร้างสรรค์มากขึ้นและรองรับกับไลฟ์สไตล์การบริโภคใหม่ๆ ของคนเมืองอย่างเค้กกล้วยหอมข้าวฮาง ข้าวฮางกรอบ คุกกี้ข้าวฮางสามสีที่เป็นการใช้ข้าวฮางแทนแป้งสาลี มาเป็นส่วนประกอบหลักในการทำคุกกี้จากข้าวฮางที่มีคุณประโยชน์


นอกจากนี้ในปี 2566 โครงการไปรษณีย์เพิ่มสุขมีสินค้าที่เป็นไฮไลท์จาก 4 ชุมชนที่ไปรษณีย์ไทยได้พัฒนาให้เกิดรายได้ และกระจายสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศด้วยแพลตฟอร์ม Thailandpostmart.com เครือข่ายที่ทำการและมาตรฐานการขนส่งที่มีความปลอดภัยและรวดเร็ว ได้แก่ ไข่เค็ม อสม. ไชยา สินค้าเด็ดประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลาส้ม “สุขหล่ำ” จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านห้วยหมากหล่ำ อำเภอโนนสะอาด จังหวัดอุดรธานี ข้าวฮางทิพย์ จากวิสาหกิจชุมชนข้าวฮางทิพย์ อำเภอวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ลำไยอบกึ่งแห้ง แบรนด์ “ชนะ” จากจังหวัดลำพูน ตลอดระยะเวลาดำเนินโครงการไปรษณีย์เพิ่มสุข สามารถช่วยสร้างรายได้ที่ยั่งยืนขึ้นให้กับชุมชนที่ร่วมโครงการไม่ต่ำกว่าหลักล้านบาท ช่วยนำพาให้สินค้าต่าง ๆ เข้าสู่ตลาดที่ใหญ่ขึ้น และตอกย้ำเครือข่ายขนส่งที่ใหญ่ที่สุดของประเทศให้เกิดประโยชน์ในมิติเศรษฐกิจและคุณภาพ


ทั้งนี้ไปรษณีย์ไทยยังได้มีการเปิดตัว “ข้าวหอมมะลิสุรินทร์และน้ำเปล่า” ตรา ไปรษณีย์ ซึ่งได้มีการคัดเลือกข้าวที่ดีที่สุดและคาดว่าจะเป็นสินค้าที่โดดเด่นที่สุดของไปรษณีย์ไทย ไปรษณีย์วางขายที่ที่ทำการไปรษณีย์ทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งเป็นการสนับสนุนเกษตรกรที่ทำนาข้าวให้มีรายได้ในส่วนนี้เพิ่มมากยิ่งขึ้น โดยข้าวหอมมะลิสุรินทร์มีขนาดถุงละ 5 กิโลกรัมในราคา 200 บาท และน้ำเปล่าแพ็คละ 60 บาท นอกจากนี้ในส่วนการวางขายไปรษณีย์ไทยเผยว่ามีการนำไปวางขายได้ไม่ถึงเดือน สามารถสร้างยอดขายรวมกว่า 3 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าเพิ่มสินค้าให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นในอนาคต


อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นไปรษณีย์ไทยให้ข้อมูลว่า ตั้งเป้าพัฒนาเว็บไซต์ thailandpostmart ให้สามารถรองรับสินค้าชุมชนได้มากที่สุด พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนสินค้าชุมชนมาวางขายผ่านแพลตฟอร์ม โดยมีเกณฑ์การคัดเลือกสินค้าได้แก่ มีความโดดเด่น เป็นของดีในชุมชน เป็นสินค้าที่มีชื่อเสียง มีคุณภาพ เป็นต้น เพื่อเป็นการนำเอาสินค้าชุมชนมาพัฒนาและต่อยอดพร้อมทั้งเปิดช่องทางการจำหน่ายให้ครบวงจร ซึ่งในอนาคตทางไปรษณีย์ไทยกำลังพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับการซื้อขายสินค้าชุมชนนี้อีกด้วย

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook :
บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
Website : www.thailandpostmart.com




* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น