ต่อยอดจากโคก หนอง นาโมเดล สู่ผลิตภัณฑ์แปรรูปผลไม้ท้องถิ่น แบรนด์คำลับแล

เกษตรกรยุคใหม่ หันมาทำเกษตร ในรูปแบบผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริ โคก หนองนาโมเดล โดยการเป็นยังสมาร์ทฟาร์เมอร์ ไม่ได้แค่ทำเกษตรเป็นเท่านั้น แต่ผลผลิตที่ได้ ต้องนำมาสร้างมูลค่าเพิ่มด้วย เป็นที่มาของ กล้วยอบพลังงานแสงอาทิตย์ คำลับแล และไอติมฟรีซช็อต จากผลไม้สดในท้องถิ่น ได้รับการตอบรับจากเด็กชื่นชอบกันมาก จนได้ไปคว้ารางวัล สุดยอดนักประดิษฐ์ มาแล้ว

คุณรุจิเรศ กล่ำเหม็ง เจ้าของผลิตภัณฑ์สินค้าเกษตร "คำลับแล" บริษัท โชริฮาบุ จำกัด เล่าว่า เมื่อ 10กว่าปีก่อน หลังเรียนจบด้าน อุตสาหกรรมเกษตร สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร มาจาก มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็มีแนวคิดนำความรู้ที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนาสวนเกษตรของครอบครัวในจังหวัดอุตรดิตถ์ จำนวน 30 ไร่ ให้ผลผลิตมีมาตรฐาน มีนวัตกรรม สามารถส่งไปจำหน่ายได้ยังทุกพื้นที่ในประเทศไทย

เริ่มจากการแปรรูปผลไม้ท้องถิ่นในอุตรดิตถ์ มาเป็นนวัตกรรม ไอติมหวานเย็นในหลอดใส แบรนด์"ฟรีชช็อต " เป็นนวัตกรรมสมูทตี้ที่ไม่ต้องปั่น เป็นที่ถูกใจของเด็กๆ จนประสบความสำเร็จในตลาดได้รับรางวัลสุดยอดนักประดิษฐ์ ประเภทรางวัลนวัตกรรมที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม รางวัล Inventor awards จากเวทีประกวด 7 innovationawards 2020

โดยไอติมฟรีชช็อต มีเนื้อสัมผัสเหมือน สมูทตี้ เป็นเกล็ดน้ำแข็งละเอียด ละลายช้า มีเนื้อผลไม้เหมือนผลไม้สด ๆ วัตถุดิบ ผลไม้ที่ทำฟรีชช็อต อาทิ สัปปะรดได้มาจากสวนเกษตรผสมผสานของเราตามแนวคิด โคก หนอง นา โมเดล ปัจจุบันเรายังได้นำผลไม้ท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นสินค้าออกจำหน่ายในตลาดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี อย่างกล้วยอบพลังงานแสงอาทิตย์ แบรนด์ "คำลับแล " สินค้า OTOP จ.อุตรดิตถ์

ซึ่งเป็นกล้วยน้ำว้าพันธุ์มะลิอ่องที่ปลูกในสวนเนื้อที่ 6ไร่ มาตรฐาน GAP เกษตรปลอดภัย รวมไปถึง รับซื้อกล้วยของชาวบ้าน และการจ้างงานในชุมชน หมู่บ้าน และรับซื้อกล้วยจากเครือข่ายเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยน้ำว้าใน จ.อุตรดิตถ์ และยังมีผลิตภัณฑ์ กล้วยสติ๊ก ทานเล่น ขายตลอดทั้งปีเช่นกัน

สำหรับผลไม้ตามฤดุกาล เรามีทุเรียนหลงลับแล ส่งขายในช่วงเดือนเมษายน ถึงสิงหาคม ลองกองขายในเดือนกันยายนถึงตุลาคม และมะยงชิดปลายเดือนมกราคม ถึงเดือนมีนาคม การที่เรามีผลิตผลทางการเกษตรป้อนตลาดได้ตลอดทั้งปี ช่วยสร้าง รายได้ ให้ถึงปีละ2-3ล้านต่อปี โดยสินค้า ที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ ทุเรียน หลงลับแล ผลไม้ที่มีชื่อเสียงของ จ อุตรดิตถ์

รุจิเรศ กล่าวอีกว่า ช่องทางจำหน่าย สินค้า ของเรา จะเน้นการขายออนไลน์เป็นหลักในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง เฟสบุค tiktok ช้อปปี้ ลาซาด้า " เรามองว่าตลาดออนไลน์นั้น ยังมีโอกาสติบโต ขยายตัวได้อีก200-300 % ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เน้นความสะดวกสบาย และชื่นชอบสินค้าที่ทันสมัย มีคุณภาพ เป็นวัตกรรมใหม่ๆที่น่าสนใจ ซึ่งเรามีความพร้อมที่จะตอบโจทย์ตลาดตรงนี้ " รุจิเรศ กล่าวในที่สุด