“ภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์” (คุณหมี) ประธานเอ็มกรุ๊ปโฮลดิ้ง วันนี้ เป็นที่รู้จักในฐานะนักลงทุน ที่ปัจจุบันได้เข้าไปถือหุ้นในธุรกิจหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น M Smart Solutions, M Unified, M Global Talents, M Health, Arabica M เป็นต้น สานฝันในวัยเด็กที่ชื่นชอบการทำธุรกิจ แต่การทำธุรกิจมีความเสี่ยง พอวันหนึ่งได้เข้ามาอยู่ในแวดวงการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ คุณหมีสนใจ เปิดบริษัทแบบโฮลดิ้ง
เริ่มจากนักเทรดหุ้น สู่ ธุรกิจโฮลดิ้ง
“คุณหมี” เกิดที่ประจวบคีรีขันธ์ ใช้ชีวิตวัยเยาว์ที่ชุมพร เรียนระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ กลับไปอยู่ใต้อีกหลายปี เมื่อเข้ากรุงเทพฯ อีกครั้งเพื่อทำธุรกิจ คราวนี้ได้เดินทางไกลไปยังหลายประเทศ ตั้งแต่กัมพูชายันรัสเซีย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการกลับมาเป็นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จ
ภิญญ์ชยุตม์ อัครกุลศานต์ หรือ “คุณหมี” เริ่มต้นเส้นทางธุรกิจจากการเข้าไปคลุกคลีในแวดวงตลาดหลักทรัพย์ เข้าอบรมและสัมมนาเกี่ยวกับการมองหุ้นทุกรายการเท่าที่จะทำได้ จนได้รู้จักผู้คนในวงการหุ้นมากหน้าหลายตา ไม่นานก็ได้ตัดสินใจเปิดบริษัทชื่อ Wealthy Stock เพื่อจัดประชุมสัมมนาให้ความรู้เรื่องการเทรดหุ้น โดยเชิญวิทยากรดังๆ มาบรรยาย และจัดพิมพ์หนังสือประเภทพ็อกเก็ตบุ๊ก เขียนโดยกูรูหุ้นหัวแถวของเมืองไทย
ธุรกิจสอนเทรดหุ้นดำเนินไปได้ด้วยดี มีนักธุรกิจ เศรษฐี คนมีชื่อเสียงเข้าร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนเป็นจำนวนมาก ตัวเองก็มีความรู้เกี่ยวกับหุ้นเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ และมองโครงสร้างของบริษัทในตลาดหุ้นทะลุปรุโปร่ง อีกทั้งได้พบว่าการเทรดหุ้นเก่งไม่ใช่คำตอบ เพราะคำตอบคือการเป็นเจ้าของบริษัทแบบโฮลดิ้ง จึงตั้งบริษัท เอ็มกรุ๊ป โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัดขึ้น ใช้โมเดลเดียวกับโฮลดิ้งในตลาดหุ้น
บริษัทโฮลดิ้งในตลาดหุ้นป้องกันความเสี่ยงในการลงทุนโดยการเทรดหุ้นหลายๆ ตัวที่ไม่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน เอ็มกรุ๊ป โฮลดิ้ง จึงมีบริษัทที่หลากหลาย ทั้งบัญชี กฎหมาย จนถึงการบิน
“แรกเริ่มตั้งเป็นโครงสร้างบริษัทไว้ก่อน เมื่อบริษัทไหนพร้อมแล้วค่อยใส่รายละเอียด ซึ่งสวนทางกับการทำธุรกิจของคนทั่วไปที่มักจะเริ่มจากการเพาะเมล็ดจนเติบโตไปสู่ยอด แต่เราเริ่มจากยอดไปสู่เมล็ด คือเราทำโครงสร้างไว้ พอได้หัวกับท้าย แล้วค่อยใส่รายละเอียดให้สมบูรณ์แบบ”
จุดเริ่มบ.โฮลดิ้ง จากกาแฟช่วยหญิงสาว สปป.ลาว
หาเงินรักษาอาการป่วยสามี
หลังจากเปิด บริษัทเอ็ม โฮลดิ้ง กรุ๊ป จำกัด ได้เริ่มเข้าไปจับธุรกิจกาแฟ ซึ่งมาจากความไม่ได้ตั้งใจ เพราะมีเรื่องน่าสนใจเพราะในช่วงที่ยังเปิดโรงเรียนสอนหุ้นอยู่ว่า มีคนที่ สปป.ลาว ต้องการให้ไปเปิดสอนเทรดหุ้น ระหว่างที่อยู่ที่ลาวก็ได้เจอกับผู้หญิงลาวคนหนึ่งเธอมีกาแฟอยู่ 80 กิโลกรัม ต้องการหาเงินไปรักษาสามีที่กำลังป่วยหนัก
“พี่ช่วยซื้อทันทีในราคา 20,000 บาท ตอนแรกก็ยังไม่รู้ว่าจะเอากาแฟ 80 กิโลไปทำอะไร พอกลับเมืองไทยก็เกิดไอเดียว่าน่าจะคั่วชงขายหน้างานสัมมานาหุ้นที่เราจัด ปรากฏว่าเป็นกาแฟที่ดี มีแต่คนชอบ ก็เลยตัดสินใจเปิดบริษัทซื้อขายกาแฟมันซะเลย ชื่อ Arabica M”
ต่อยอดธุรกิจกาแฟกับบริษัทยักษ์ใหญ่
คุณหมีได้เปิดร้านกาแฟชื่อ Arabica M ควบคู่ไปกับการซื้อขายกาแฟ ครั้งหนึ่งได้ทำสัญญากับบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง หากาแฟส่งอยู่ได้สักพัก เกิดจับได้ว่าบริษัทใหญ่ไปดีลตรงกับซัพพลายเออร์เพื่อจ่ายเงินน้อยลง คุณหมีจึงยกเลิกสัญญา คงหาได้น้อยครั้งที่จะมีใครยกเลิกสัญญากับยักษ์ใหญ่ง่ายๆ แบบนี้
“เราเริ่มมีชื่อทางด้านกาแฟ มีคนติดต่อมาว่าชาวเขาดอยแม่สลองมีกาแฟที่ดีมาก ประกวดได้อันดับ 1 ของประเทศแต่ขายไม่ได้ เลยถามเขาว่ามีกาแฟทั้งหมดเท่าไหร่ เขาตอบว่ามี 500 ตัน พี่บอกว่าจะช่วย เดี๋ยวจะประมูลยักษ์ใหญ่กว่าอีกเจ้าให้ เพราะพี่มีทักษะเรื่องตัวเลข และรู้ระบบความคิดของบริษัทคู่แข่ง ซึ่งพี่ก็ชนะประมูล
“แต่หลังจากชนะการประมูลแล้วปรากฏว่าคนที่ติดต่อมานั้นกลับบอกว่าไม่มีกาแฟจากดอยแม่สลอง 500 ตันอยู่จริง สุดท้ายพี่ก็ต้องหาทางออกโดยการไปรับซื้อกาแฟจากบริษัทที่แพ้ประมูล คือเขามีกาแฟแต่ไม่มีออร์เดอร์ พี่มีออร์เดอร์ แต่ไม่มีกาแฟ ความจริงพี่ถือไพ่เหนือกว่านะ พวกที่มีกาแฟเขาไม่กล้าถือกาแฟไว้ในมือเพื่อรอการประมูลรอบใหม่หรอก นั่นเท่ากับธุรกิจกาแฟของพี่เดินต่อได้ และทำอยู่หลายปีจนกระทั่งปีล่าสุด กาแฟในตลาดโลกแพงขึ้นกว่าเดิมมาก จึงเว้นวรรคไว้ก่อน ปีหน้าค่อยว่ากันใหม่”
จากธุรกิจกาแฟ ทำให้คุณหมีต้องเดินทางไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่เพาะปลูกกาแฟ อย่าง ลาว พม่า เวียดนาม จีน (ยูนนาน) หรือแม้แต่อินเดียทางตอนใต้ เพราะกาแฟในประเทศไทยนั้นให้ผลผลิตเพียงปีละ 2 หมื่นกว่าตันเท่านั้น ไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศที่สูงเกือบ 9 หมื่นตัน
การเดินทางไปในต่างแดนได้เปิดมุมมองเปิดโลกให้กว้างขึ้น กอปรกับมีมิตรสหายอยู่มาก คอนเน็กชั่นทางธุรกิจก็เยอะ ในช่วงที่บริษัทเริ่มเติบโต คุณหมีมีที่ปรึกษาประสบการณ์สูงนับสิบคนซึ่งแต่ละคนก็ล้วนมีคอนเน็กชั่นอีกมากมาย ใครแนะนำให้เดินทางไปที่ไหน หากเห็นว่ามีโอกาสอยู่นั่น คุณหมีก็จะไม่ลังเล
ที่มา ธุรกิจ M Group Holding (Thailand)
สำหรับที่มาของชื่อ M มาจาก Mee (หมี) บริษัทในเครือของ M Group จึงมักมีอักษร M ขึ้นต้นหรือห้อยท้าย เช่น M Smart Solutions, M Unified, M Global Talents, M Health, Arabica M เป็นต้น
คุณหมีตั้ง M Group Holding (Thailand) Co., Ltd. ขึ้นมาโดยนำโมเดลของโฮลดิ้งในตลาดหลักทรัพย์มาใช้ดังที่ได้กล่าวไปแล้ว โดย M Group ก่อตั้งบริษัทขึ้นมาจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังเข้าถือหุ้นและบริหารในบริษัทต่างๆ อีกหลายบริษัท คุณหมีออกตัวว่าแม้ M Group จะเป็นโฮลดิ้งเล็กๆ ระดับไมโคร แต่ธุรกิจที่ M Group เข้าไปลงทุนนั้นมีศักยภาพในการเติบโตทางการตลาดระดับแมคโครแทบทั้งสิ้น
ลงทุนธุรกิจหลากหลายลดความเสี่ยง
ประเภทของธุรกิจใน M Group นั้น คุณหมีบอกว่ามีความหลากหลายอย่างมาก ดูแล้วไม่ค่อยจะเชื่อมโยงเกี่ยวเนื่องกัน นั่นเป็นเพราะต้องการกระจายความเสี่ยง ในขณะเดียวกันก็ยังสามารถสร้างรายได้ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป และเพราะเหตุนี้ ในช่วงการระบาดของโควิด-19 บางบริษัทของ M Group สามารถประคองตัวได้ และบางบริษัทก็สามารถทำกำไรได้อย่างเหลือเชื่อ
ตัวอย่างบริษัทและประเภทธุรกิจของ M Group ได้แก่ Arabica M ร้านกาแฟ เทรด และประมูลกาแฟ, Bigbear Logistics Solutions ทำเรื่องชิปปิ้งและขนส่ง, Akkhara Accounting เป็นบริษัทบัญชี, Asia Legal Frontier สำนักงานทนายความ, M Unified นำเข้า-ส่งออก เทรดสินค้าทั้งในและต่างประเทศ, AMEE ธุรกิจเกี่ยวกับอากาศยาน, M Global Talents ฝึกอบรมและป้อนแรงงานเข้าสู่ภาคธุรกิจบริการ, World Green Plus โรงงานกำจัดขยะและของเสีย ฯลฯ
ผลักดันงานวิจัยสถาบันการศึกษาไทยต่อยอดเชิงพาณิชย์
นอกจากนี้ธุรกิจที่คุณหมีมุ่งเน้นเป็นพิเศษก็คืองานนวัตกรรม และได้ผลักดันให้อาจารย์และนักวิจัยที่เก่งกาจระดับประเทศ นำผลงานนวัตกรรมของตนออกมาจากมหาวิทยาลัย เพราะมองเห็นคุณค่าและมูลค่าของงานวิจัย ไม่อยากให้งานวิจัยที่มีศักยภาพทางธุรกิจหยุดเส้นทางไว้แค่การตีพิมพ์ผลงานในวารสารทางวิชาการ
คุณหมีได้ร่วมกับอาจารย์จากคณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อตั้งบริษัทไบโอม (BIOM) ขึ้น เป็นการนำผลงานนวัตกรรมที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพจากห้องทดลองสู่เชิงพาณิชย์ อาทิ จุลินทรีย์การย่อยสลายสารพิษในดินและช่วยเพิ่มผลผลิตทางเกษตร เอนไซม์ล้างสารเคมีตกค้างในพืชผัก เป็นต้น บริษัทนี้เพียงก่อตั้งไม่นานก็ได้รับการประเมินมูลค่าทางการตลาดมากกว่า 400 ล้านบาท จนบริษัทใหญ่อย่าง BBGI เข้าเจรจาร่วมลงทุนด้วย
และเมื่อไม่นานมานี้คุณหมีก็ยังได้ร่วมกับคณะอาจารย์จากภาควิชาเคมี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันนวัตกรรมเทคโนโลยีไทย-ฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ก่อตั้งบริษัทชื่อ M Chemi ขึ้น โดยเป็นการสปินออฟนำนวัตกรรมสารแขวนลอยอนุภาคนาโนสำหรับฆ่าเชื้อโรคซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากผลงานวิจัยของคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล บริษัท M Chemi เตรียมขยายสเกลการผลิตเพื่อออกสู่ตลาดเร็วๆ นี้ และจากการที่ได้ไปร่วมงาน Tech Innovation 2023 ที่สิงคโปร์ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นงานลักษณะบิสสิเนสแมตชิ่ง มีบรรษัทข้ามชาติเกี่ยวกับ Home Care ให้ความสนใจหลายราย
ร่วมลงทุนนักธุรกิจในหลายประเทศ
คุณหมี บอกว่า M Group มีจุดแข็งอีกอย่าง นั่นคือเครือข่ายและพันธมิตรทางธุรกิจในต่างประเทศ ทำให้ M Group มีสินค้าและบริการจากไทยออกสู่ต่างประเทศ เช่นเดียวกับสินค้าและบริการจากต่างประเทศที่นำเข้ามาในไทย M Group ได้เปิดบริษัทในต่างประเทศโดยร่วมลงทุนกับนักธุรกิจในประเทศนั้นๆ ในสัดส่วนประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ หรือใกล้เคียงที่สุด เช่น บริษัท M Jira ในกัมพูชา, Memax ในจีน, MI ในรัสเซีย CMEE ในมาเลเซีย เป็นต้น
สำหรับตลาดในอนาคต คุณหมีกำลังมองดูกลุ่มประเทศยุโรปกลาง (Visegrad Four หรือ V4) ได้แก่ สาธารณรัฐเช็ค ฮังการี โปแลนด์ และสโลวาเกีย ซึ่งประเทศเหล่านี้มีศักยภาพในการผลิตเครื่องจักรกลที่คนไทยยังไม่ค่อยมองและไม่กล้าไปลงทุน นอกจากนี้ยังมีประเทศญี่ปุ่นที่ M Group จะทำเรื่องแรงงาน เนื่องจากญี่ปุ่นขาดแคลนแรงงานค่อนข้างมาก
ในส่วนของประเทศรัสเซียที่ได้เดินทางไปดูงานมาแล้วหลายรอบ M Group กำลังมีแผนที่จะเปิดการท่องเที่ยวตามรอยเสด็จประพาสของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เมื่อครั้งทรงเสด็จเยี่ยมพระสหายรัก พระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ของรัสเซีย เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2440 ซึ่งครั้งนั้นพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่ 2 ให้การต้อนรับอย่างสมพระเกียรติ และจากการเสด็จประพาสในครั้งนั้นได้ส่งผลให้ สยามรอดพ้นจากการเป็นอาณานิคมของตะวันตก และไทยกับรัสเซียกลายเป็นพันธมิตรยาวนานมาถึง 126 ปี นอกจากนี้คุณหมีได้พบว่าชาวรัสเซียเองรักชอบคนไทยและนิยมสินค้าหลายชนิดจากประเทศไทย รัสเซียจึงถือเป็นอีกหนึ่งประเทศแห่งโอกาสในการทำตลาดสินค้าและบริการได้อย่างหลากหลาย
ปรัชญาที่มาของความสำเร็จ การแบ่งปัน
คุณหมี กล่าวทิ้งท้ายว่ามีปรัชญาการทำธุรกิจอยู่บนความไม่โลภและการแบ่งปัน บางคนอาจมองว่าเป็นการขัดแย้งกันหรือไม่ เนื่องจากตั้งบริษัทและเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจต่างๆ มากมาย คุณหมีอธิบายว่าบริษัทและธุรกิจเหล่านี้ในวันหนึ่งเธอก็จะถ่ายโอนให้กับผู้ร่วมงานในบริษัท และมองผู้ร่วมงานในบริษัททุกคนเป็นเหมือนพาร์ทเนอร์ ไม่ใช่พนักงานทั่วๆ ไป
“เอ็มกรุ๊ป โฮลดิ้ง ตีมูลค่าความเชี่ยวชาญของผู้ร่วมงานแต่ละบุคคลเป็นทุน เป็นทรัพย์สิน เราให้ความสำคัญกับทุนมนุษย์ เราให้โอกาสคนอายุตั้งแต่ 19 – 80 ปีเข้าร่วมงาน เราวางผู้ร่วมงานเป็นพาร์ทเนอร์ ไม่ได้เป็นลูกจ้าง เราไม่จำเป็นต้องมีอาคารมูลค่าหลายร้อยล้าน บุคลากรหรือผู้ร่วมงานของเรานั่นแหละคือสำนักงานอันใหญ่โต”
นอกจากไม่โลภและแบ่งปันแล้ว คุณหมีก็ย้ำว่าในการดำเนินธุรกิจเธอยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม และการมีธรรมาภิบาลอย่างแข็งขัน หนทางข้างหน้า คุณหมีจะประสบความสำเร็จระดับไหน และจะยึดหลักการบริหารในแบบอุดมคติไว้อย่างยืนยงหรือไม่ เวลาจะให้คำตอบ.
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด