xs
xsm
sm
md
lg

20 บาททุกเมนูฟรีไข่มุก! “แก้วชา” ร้านน้ำชงจักรยานสามล้อปั่นขายเวลาว่าง ยอดสุดปังวันละ 400 แก้ว!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อต้องการออกกำลังกายและใช้เวลาว่างช่วงที่ลูกไปโรงเรียนจึงเกิดไอเดียเมนูน้ำชงที่ขายบนรถจักรยานสามล้อที่ถูกดัดแปลงเพิ่มเติมเป็นร้านขนาดเล็กเคลื่อนที่ “แก้วชา” ร้านน้ำชงราคาสุดน่ารักในแก้วละ 20 บาททุกเมนู ฟรีไข่มุก เปิดขาย 2 เดือนลูกค้าแห่อุดหนุนพร้อมต่อยอดเปิดร้านคาเฟ่ขนมทุกอย่าง 20 บาทในอนาคต


นางสาวเกศรินทร์ ทาคำฟู เจ้าของร้านแก้วชา น้ำชงบนรถจักรยาน จ.เชียงใหม่ เล่าว่า เดิมทีนั้นเธอเปิดร้านขายหม่าล่ามาก่อนแล้ว ในช่วงที่มีเวลาว่างหลังจากลูกไปโรงเรียนและเธอเองเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำหวานหรือน้ำชงต่างๆ อยู่เป็นประจำจนทำให้น้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มขึ้น เธอจึงหาวิธีที่จะลดน้ำหนักโดยที่ไม่ต้องออกกำลังกายแบบรูทีน สามารถทำแล้วลดน้ำหนักไปในตัว และสามารถเอาเวลาว่างในส่วนนี้หารายได้เสริม ทำให้เธอคิดหาวิธีต่างๆ จนได้ข้อสรุปคือการขายน้ำชงโดยยกอุปกรณ์ทั้งหมดไปไว้บนรถจักรยานสามล้อ ซึ่งเธอเล่าว่าแฟนของเธอมีความรู้และเชี่ยวชาญในการประกอบดัดแปลงเฟอร์นิเจอร์ จึงประจวบเหมาะกับการดัดแปลงรถจักรยานสามล้อพ่วงให้สามารถติดตั้งอุปกรณ์ขายน้ำชงได้ ทำให้ปัจจุบันเธอเปิดร้านขายน้ำชงบนรถจักรยานสามล้อมาได้ประมาณ 2 เดือน โดยขายในราคา 20 บาททุกแก้วทุกเมนู


ไอเดียในการขายน้ำชงบนรถจักรยานเจ้าของร้านเธอเผยว่า นอกจากความคิดที่จะเอาเวลาว่างช่วงที่ลูกไปโรงเรียนเพื่อไปขายของแล้ว ยังมีไอเดียเป็นการขายน้ำชงให้กับคนงานในพื้นที่บริเวณก่อสร้างใกล้บ้านเธอในราคาที่ย่อมเยาอีกด้วย ประจวบกับน้องสาวที่รู้จักกันได้ถ่ายคลิปวิดีโอที่เธอปั่นจักรยานไปขายน้ำชงไปลงใน TikTok ทำให้มีผู้ติดตามและยอดวิวจำนวนมากทำให้มีคนเข้ามาสนใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งเธอจะไปขายในช่วงเวลาเช้าถึงบ่ายสอง


จุดเด่นและความพิเศษของน้ำชงของทางร้านที่นอกจากการนำเสนอขายในรูปแบบของรถจักรยานแล้ว ทางร้านยังใช้วัตถุดิบที่ดีมีคุณภาพ เนื่องจากเธอเองก็ได้มีการชงดื่มกันเองในครอบครัวด้วย เพราะฉะนั้นเมื่อทำขายก็เป็นเกรดเดียวกันกับที่ชงดื่ม อีกทั้งท็อปปิ้งอย่างไข่มุกก็รวมอยู่ในราคา 20 บาท


จากรถจักรยานสามล้อธรรมดาถูกดัดแปลงให้เป็นเหมือนร้านขายของขนาดย่อมเคลื่อนที่ได้ สามารถรองรับน้ำหนักได้เป็นอย่างดี ซึ่งถือว่าเป็นเจ้าแรกๆ ของจังหวัดที่ทำร้านน้ำชงขายบนรถจักรยาน นอกจากนี้เมนูน้ำชงของทางร้านจะมีทั้งหมด 8-9 เมนู ได้แก่ ชาเย็น ชาเขียว โกโก้ น้ำผึ้งมะนาว ชามะนาว โอเลี้ยง กาแฟ นมสด ซึ่งเมนูน้ำผึ้งมะนาวและชามะนาวทางร้านจะใช้มะนาวสดแท้ เนื่องจากที่บ้านปลูกต้นมะนาวและต้องการให้รสชาติเมนูเครื่องดื่มมีความสดชื่นจากผลมะนาวสดอีกด้วย


ในการชงน้ำต่างๆ เมนูชาเย็นเป็นเมนูที่ขายดีมากกว่าน้ำอื่นๆ รองลงมาคือชาเขียว แต่เฉลี่ยแล้วขายดีทุกเมนู ซึ่งใน 1 วันทางร้านจะชงน้ำต่างๆ รวมกันได้ประมาณ 50-60 ลิตร เฉลี่ยต่อแก้วได้วันละประมาณ 300-400 แก้ว ขนาด 18 ออนซ์ ซึ่งในปัจจุบันทางร้านได้ทำแบบบรรจุขวดขายและสามารถขายได้วันละประมาณ 30-40 ขวด


ขายบนรถจักรยานสามล้อที่ดัดแปลงขึ้นมาเองมีข้อดีคือสะดวก กะทัดรัด ง่ายต่อการเคลื่อนที่ ส่วนข้อเสียทางร้านพบว่าด้วยขนาดที่เล็กทำให้พื้นที่เริ่มไม่เพียงพอเพราะทางร้านเริ่มมีสินค้าอื่นๆ เพิ่มขึ้นมา จึงอาจจะมีการนำรถจักรยานยนต์เสริมขับคู่ไปด้วย ซึ่งเธอเองเป็นคนปั่นจักรยานไปขายเองคนเดียวระยะทางรวมกันไปกลับแล้วประมาณ 5 กิโลเมตร โดยที่ขายประจำของเธอจะอยู่ใกล้กับ วงเวียนพายัพ จ.เชียงใหม่


เปิดร้านมาได้ประมาณ 2 เดือนได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า ซึ่งมีการแสดงความคิดเห็นว่ามีความแปลกตาเพราะขายบนรถจักรยาน และเมนูเครื่องดื่มขายในราคาเพียงแก้วละ 20 บาทเป็นราคาที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงและจับจ่ายได้สะดวก ทำให้ปัจจุบันมีทั้งลูกค้าประจำและลูกค้าขาจรแวะเวียนกันมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่วนมากก็จะอยู่ในช่วงวัยเรียนและวัยทำงาน


ในทุกๆ วันเธอชงน้ำไปขายในระยะเวลาตั้งแต่ 09:00-14:00 น. วันจันทร์ถึงวันเสาร์ โดยจะชงน้ำไปให้พอดีกับเวลาที่ออกไปขาย นอกจากนี้ในช่วงแรกที่ขายนั้น บางวันถ้าหากขายไม่หมดเธอจะนำน้ำชงที่ขายไม่หมดไปแจกจ่ายให้คนขาจรบ้าง เด็กนักเรียนบ้างแต่ในช่วงหลังก็เริ่มมีลูกค้าติดต่อเข้ามาสั่งซื้อให้ทำไปแจกตามสถานที่ต่างๆ หรือทำไปแจกตามโรงทานในงานบุญต่างๆ อีกด้วย


“ไม่ว่าจะเป็นรสชาติหรือราคา ทุกคนสามารถทำออกมาได้หมด บางคนจะขาย 5 บาทหรือ 10 บาท เราก็ไม่ใช่เจ้าเดียวที่ทำน้ำแบบนี้ออกมาขาย ทุกอย่างมีการเลียนแบบกันได้เสมอแต่ว่าสิ่งเดียวที่เราแตกต่างจากร้านอื่นๆ คือ การให้บริการและการพูดคุยกับลูกค้า เราคิดว่าเราแน่วแน่พอที่จะมัดใจลูกค้าได้เพราะเรามีการบริการที่ดีมากๆ น่าจะถูกใจลูกค้า เพราะว่าเราขายหม่าล่ามากว่า 10 ปี ลูกค้ามาจากต่างประเทศเข้ามาอุดหนุนเยอะมากๆ เมื่อก่อนเราขายหม่าล่าอยู่หลัง มช. ในราคาไม้ละ 5 บาทจนถึงปัจจุบันก็ยัง 5 บาท ซึ่งเราปฏิบัติกับลูกค้าทุกคนเหมือนกันหมด” เจ้าของร้านระบุ


ในอนาคตถ้าหากว่ามีต้นทุนหรือมีทำเลดีๆ เธอได้วางแผนเอาไว้ว่าต้องการจะเปิดเป็นคาเฟ่เล็กๆ และเปิดขายขนมหวานในราคา 20 บาททุกเมนูเช่นเดียวกับน้ำชงที่เธอขายอยู่ในตอนนี้ เนื่องจากเธออาศัยอยู่ในชุมชนและต้องการให้ลูกค้าที่มีงบน้อยได้กินขนมและเครื่องดื่มในราคาที่เข้าถึงง่าย สามารถมาซื้อได้บ่อยครั้ง ซึ่งเธอวางแผนไว้ว่าอีกไม่นานเกินรอ


ทั้งนี้ถ้าหากในอนาคตได้เปิดร้านคาเฟ่แล้วเธอก็ยังคงจะปั่นจักรยานขายน้ำชงต่อไป ส่วนหน้าร้านก็อาจจะมีคนอื่นช่วยดูแลเพราะไม่อยากทิ้งการขายน้ำชงบนรถจักรยานไป โดยอาจจะมีเพิ่มรถจักรยานมาอีก 1 คันไว้เปิดขายที่หน้าร้าน

อย่างไรก็ตามสำหรับเมนูเครื่องดื่มในแต่ละวันทางร้านจะมีการเพิ่มเมนูพิเศษนอกเหนือจาก 8 เมนู เช่น ชานมไต้หวัน ชามะลิหรือน้ำอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าได้มีตัวเลือกในการซื้อของแต่ละวันมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงเทศกาลกินเจก็ได้มีการทำน้ำเก็กฮวยมาแจกจ่ายให้กับลูกค้าอีกด้วย นอกจากนี้ในส่วนของแฟรนไชส์เจ้าของร้านเผยว่าไม่มีแพลนเปิดขายแฟรนไชส์

ติดต่อเพิ่มเติม
TikTok : 
แก้วชา


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น