xs
xsm
sm
md
lg

สาวน้อยวัย 19 เปิดร้านขายชานมไข่มุก 10 บาทตามตลาดนัดได้กำไรเดือนละหลายหมื่น เน้นขายง่ายราคาถูกลูกค้าติดใจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เพราะอยากให้ลูกค้าได้กินชานมไข่มุกในราคาที่เข้าถึงและจับต้องได้ “เพลง -อนัญญา กระโจม” จึงทำชานมไข่มุกมาในราคาแก้วละ 10 บาทไปขายตามตลาดนัด เน้นขายง่าย ขายได้เยอะ ลูกค้าเข้าถึงและจับต้องได้ สามารถสร้างรายได้ให้ตัวเองโดยไม่ต้องขอเงินพ่อแม่ด้วยวัย 19 ปี พร้อมต่อยอดธุรกิจให้เติบโตในอนาคต


นางสาวอนัญญา กระโจม เจ้าของร้านชานมไข่มุก 10 บาทแบรนด์ อภิวัฒน์ชา เล่าว่า จุดเริ่มต้นการเปิดร้านชานมไข่มุก 10 บาทนั้นเริ่มต้นมาจากการที่เธอนั้นมีความต้องการที่จะมีของมาขายและเป็นของที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงราคาได้ง่าย สามารถซื้อได้ทุกวันและไม่ต้องกังวลว่าสินค้าจะมีราคาแพงมากจนเกินไป เดิมทีเธอมีอาชีพขายเฉาก๊วยนมสดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทำให้เธอปิ๊งไอเดียต่อยอดจากเฉาก๊วยนมสดมาเป็นชานมไข่มุกในราคาแก้วละ 10 บาทปัจจุบันเปิดขายชานมไข่มุก 10 บาทมาได้ประมาณ 3 เดือนส่วนเฉาก๊วยนมสดเปิดมาได้ประมาณ 2 ปี


จุดเด่นและความพิเศษของชานมไข่มุก 10 บาทนั้นจะโดดเด่นเรื่องราคาที่ถูกลูกค้าสามารถจับต้องและเข้าถึงได้ง่าย รวมถึงแพคเกจจิ้งที่น่ารักเหมาะสมกับราคา นอกจากนี้รสชาติชานั้นเธอเผยว่าเธอชงชาอย่างเข้มข้นถึงแม้จะขายในราคาที่ถูกแต่รสชาติและคุณภาพต้องมาก่อนเสมอ ซึ่งสูตรการชงน้ำของเธอนั้นเธอได้ไปศึกษาและทดลองกินเองว่าถ้าหากทำขายแล้วจะมีรสชาติเป็นอย่างไรทั้งตอนที่ชงสดใหม่และตอนที่บรรจุลงในแก้วพร้อมกับแค็ปซีลแล้วรสชาติแตกต่างกันอย่างไร โดยเธอจะชงน้ำให้มีรสชาติที่เมื่อน้ำแข็งละลายแล้วยังมีความอร่อยอยู่นั่นเอง


ทั้งนี้ในการบรรจุลงในแก้วแคปซูลและแค็ปซีลปากแก้วนั้นสามารถนำไปเก็บในตู้เย็นได้ 1 วันเมื่อนำไปขายเธอจะเอาใส่ในลังโฟมและนำน้ำแข็งมาโปะทับอีก 1 รอบเพื่อชะลอการละลายของน้ำแข็งในแก้วเมื่อต้องขายให้กับลูกค้า แต่ถ้าหากลูกค้าซื้อไปแล้วยังไม่กินทันทีก็สามารถนำไปแช่ในช่องแช่แข็งก็จะกลายเป็นเกล็ดหิมะให้ความรู้สึกไปอีกแบบ


นอกจากนี้กลุ่มลูกค้าของทางร้านจะเป็นลูกค้าวัยทำงานเป็นหลัก ซึ่งเธอเองได้นำสินค้าไปวางขายทุกวันที่ตลาดนัดตลาดประสบโชค (หน้ารพ.เกษมราษฎร์) จ.ปราจีนบุรี โดยเธอเองมีจุดประสงค์หลักคือขายสินค้าในราคาที่ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายเนื่องจากเศรษฐกิจทุกวันนี้การใช้จ่ายของผู้บริโภคมีความระมัดระวังมากขึ้น ทำให้เธอขายในราคานี้เพราะต้องการให้ลูกค้าจับจ่ายได้คล่องตัวนั่นเอง


ปัจจุบันชานมไข่มุก 10 บาทมีทั้งหมด 10 รสชาติ ได้แก่ ชาเขียว ชาไทย โกโก้ กาแฟ ชามะนาว ชาเขียวมะนาว สตรอเบอรี่ บลูฮาวาย นมสดและนมชมพู ซึ่งตัวที่ขายดีที่สุดของร้านคือเมนู ชาไทย และชาเขียว โดยแต่ละรสชาติจะมีจำนวนไม่เท่ากันเมนูชาเขียวและชาไทยจะจำนวนมากกว่ารสชาติอื่น เนื่องจากเป็นรสชาติที่ลูกค้านิยมมากที่สุดรสชาติละประมาณ 100 แก้ว ส่วนรสชาติอื่นจะคละกันไป ซึ่งในวันธรรมดาจะนำมาขายวันละ 320 แก้ว ส่วนวันเสาร์และอาทิตย์จะอยู่ที่วันละ 380 แก้ว โดยเธอวางขายทุกวันตั้งแต่เวลา 15:00 น. เป็นต้นไป


“เริ่มต้นขายชานมไข่มุก 10 บาทเอาตั้งแต่เริ่มต้นใช้ทุนประมาณ 7,000 บาท มีค่าชาที่ลองผิดลองถูกประมาณ 3,000 บาท เครื่องแค็ปซีลประมาณ 3,000 และอุปกรณ์อื่นๆอีก 1,000 บาท ส่วนต้นทุนในการผลิตในแต่ละวันจะอยู่ที่ประมาณ 2,000-2,500 บาท วางขายได้กำไรวันละ 1,500 บาท” เจ้าของร้านระบุ


ปัจจุบันนอกจากจะผลิตขายเองนั้นก็ยังมีผลิตแบบขายส่งให้กับลูกค้าซึ่งราคาส่งจะมีขั้นต่ำคือต้องสั่งขั้นต่ำ 70 แก้วจะได้ในราคาส่งแก้วละ 9 บาทและขั้นต่ำ 140 แก้วจะได้ในราคาส่งแก้วละ 8 บาท ซึ่งสินค้าจะถูกผลิตและแค็ปซีลให้เสร็จเรียบร้อยพร้อมวางขาย โดยส่วนใหญ่ลูกค้าที่รับไปขายนั้นจะขายตามหน้าโรงเรียน ขายในโรงงาน เป็นต้น ซึ่งลูกค้าที่รับไปก็จะขายเริ่มต้นที่แก้วละ 15 บาท


“ลูกค้าเวลามาซื้อก็มักจะถามว่าได้กำไรจากอะไร เราก็จะบอกว่าได้พอกินพอใช้ เราเน้นขายเยอะค่ะ ตอนนี้ถ้าเกิดว่าเรามัวแต่จะไปกินเงินก้อนใหญ่มันยาก คนจะใช้จ่ายอะไรมันก็ยากมาก” เจ้าของร้านระบุ

สำหรับข้อแตกต่างรายได้ระหว่างเฉาก๊วยนมสดและชานมไข่มุกนั้นค่อนข้างแตกต่าง เฉาก๊วยนมสดจะสามารถทำรายได้ให้มากกว่าชานมไข่มุกเนื่องจากเป็นสินค้าที่ติดตลาดมากกว่าเพราะเปิดร้านมาก่อน ส่วนชานมไข่มุกเพิ่งเริ่มต้นขายได้ไม่นานทำให้ยอดขายมากกว่านั่นเอง ซึ่งเฉาก๊วยนมสดของทางร้านนั้นจะขายในรูปแบบของแก้วและแบบชุดถุง ถ้าหากเป็นแก้วจะเป็นการชงน้ำแบบสดส่วนแบบถุงจะเป็นแบบสำเร็จรูปให้ลูกค้าไปชงเอาเอง นอกจากนี้เฉาก๊วยนมสดจะมีทั้งหมด 2 รสชาติได้แก่ รสดั้งเดิมและนมสด


ในส่วนของการขายเฉาก๊วยนมสดนั้นจะมีวางขายที่หน้าร้านประจำส่วนชานมไข่มุกจะเร่ขายตามตลาดนัด ซึ่งเฉาก๊วยนมสดจะสามารถขายได้วันละประมาณ 30 กิโลกรัมต่อ 1 ที่แต่ถ้าหากลงขาย 2 ที่ต่อวันจะอยู่ที่ประมาณ 40-50 กิโลกรัม ส่วนราคานั้นขายแก้วละ 25 บาท ส่วนแบบถุงจะขายถุงละ 20 บาท 3 ถุง 50 บาท โดยจะมีนม น้ำเชื่อม น้ำตาลอ้อยให้ในเซ็ต ซึ่งส่วนมากลูกค้าจะนิยมซื้อแบบถุงมากกว่าแบบแก้วนอกจากนี้กำไรจากยอดขายชานมไข่มุก 10 บาทนั้นเจ้าของร้ายเผยว่าใน 1 เดือนจะอยู่ที่ประมาณ 30,000-40,000 บาท


“หนุอายุ 19 ปี เรียนจบ ปวช.มา ที่บ้านขายหอยแล้วหนูก็อยากจะขายของแม่ก็ถามว่าจะขายอะไรดีที่คนกินได้ทุกวัน ปกติหนูก็ชอบกินเฉาก๊วยนมสดก็เลยตัดสินใจขายเฉาก๊วยนมสดเลย แต่ว่าเราทำเองไม่ได้ไปรับจากคนอื่นเพราะถ้ารับจากคนอื่นมาจะได้กำไรนิดเดียว ซึ่งตอนนี้เรารู้สึกดีที่สามารถหารายได้ได้ด้วยตัวเอง รู้สึกดีที่ไม่ต้องไปขอเงินพ่อแม่ กลายเป็นว่าพ่อกับแม่ไม่ต้องมาเดือดร้อนกับเรา ไม่ต้องมาหาเงินให้เราใช้ในแต่ละวันค่ะ แต่รายได้ที่ได้มาก็มีการหารสองกับแฟนเพราะทำด้วยกัน รายได้ก็ไม่ได้เยอะมากค่ะ” เจ้าของร้านระบุ


อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเปิดแฟรนไชส์ รวมถึงเพิ่มเมนูน้ำเพิ่มขึ้นเพื่อเป็นตัวเลือกให้กับลูกค้า พร้อมทั้งตั้งเป้าวางแผนส่งขายตามต่างจังหวัดให้มากยิ่งขึ้น

ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Pleng Plengg


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น