xs
xsm
sm
md
lg

“เลิศรส” ผลไม้แช่อิ่มในแผงหลังเปิด FTAจากยอดผลิต500 ตัน วันนี้เหลือไม่ถึง 50 ตัน/ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในอดีตภาพของร้านโชวห่วยที่ขายขนมในแผง รวมถึงผลไม้แปรรูปแช่อิ่มทุกอย่างแขวนอยู่ในแผง ให้เด็กๆ หรือ ผู้ใหญ่เลือกซื้อกัน แต่วันนี้ มีขนมที่อยู่ในซองพลาสติก ที่ดูน่ากินมากว่า เข้ามาแทนที่ขนมที่อยู่ในแผง รวมถึงผลไม้แปรรูปแช่อิ่มที่อยู่ในแผง ที่แขวนเรียงร่าย ประกอบกับ การเปิดการค้าเสรี FTA มีทั้งธุรกิจที่ได้รับประโยชน์ และเสียประโยชน์ โดยเฉพาะในกลุ่มของผลไม้แปรรูป หลังจากเปิด FTA ทางผู้ผลิตผลไม้แปรรูปแช่อิ่ม รายหนึ่ง จากจังหวัดนครสวรรค์ จำต้องปิดโรงงานผลิต กลับมาสู่การผลิตภายในครัวเรือน เพราะยอดการผลิตที่เคยต้องใช้มะม่วงถึง 500 ตันต่อปี วันนี้ เหลือไม่ถึง 50 ตันต่อปี


ผลไม้แผงแช่อิ่มหลังเปิด FTA การค้า

คุณสมชัย รักวงศ์วิถี เจ้าของกิจการร้านผลไม้แปรรูป ”เลิศรส” ผลไม้แช่อิ่มจากจังหวัดนครสวรรค์ เปิดใจหลังจากที่ทุกวันนี้ ธุรกิจผลไม้แปรรูปในรูปแบบของผลไม้แช่อิ่ม ที่เคยรุ่งโรจน์ มียอดการผลิตที่ต้องใช้วัตถุดิบมะม่วงสดถึงปีละ 500 ตัน วันนี้ เหลือแค่ไม่ถึง 50 ตันต่อปี ซึ่ง คุณสมชัย บอกว่า มาจากหลายปัจจัยที่มากระทบ แต่การเปลี่ยนที่เห็นได้ชัด มาจากที่มีการเปิดการค้าเสรี FTA ทำให้ผลไม้สดจากต่างประเทศเข้ามาทำตลาดมากขึ้น ทำให้เดิมเมืองไทยขายผลไม้ตามฤดูกาล นอกฤดูกาลคนหันมาบริโภคผลไม้แปรรูป อย่างมะม่วงแช่อิ่ม

ปัจจุบัน คนไทยมีผลไม้สดจากต่างประเทศให้กินได้ทั้งปี และราคาไม่แพง เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ผลไม้แปรรูปในตลาดล่างได้รับผลกระทบไปด้วย และที่หนักสุด ในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด และหลังจากโควิด คนระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้สินค้าเกือบทุกตัวที่ขายตามร้านโชวห่วยในต่างจังหวัดซึ่งเป็นตลาดหลักของเราสินค้าขายแทบไม่ได้เลย


เน้นเจาะตลาดล่าง ปรับราคาไม่ได้

เจ้าของโรงงานผลิตผลไม้แปรรูปแช่อิ่ม “เลิศรส” เล่าว่า ในส่วนช่องทางตลาดที่ผ่านมาสินค้าของเราเน้นกระจายสินค้าเอง ไม่ได้ผ่านคนกลาง โดยการวิ่งรถไปส่งขายตามร้านค้าโชวห่วยในต่างจังหวัดหลายๆ แห่งด้วยตัวเอง ลูกค้าหลัก เช่น จังหวัดชลบุรี สุพรรณบุรี นครสวรรค์ สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ฯลฯ สินค้าหลักที่ส่งขาย คือ มะม่วงแปรรูปแช่อิ่ม บรรจุใส่ถุงและติดใส่แผง ๆละ 5 ถุง ส่งลูกค้าแผงละ 17 บาท ร้านโชวห่วย นำไปขายถุงละ 5 บาท สินค้าของเราได้มาตรฐาน อย. เจาะตลาดลูกค้าในกลุ่มตลาดล่างเป็นหลัก ด้วยกำลังซื้อตลาดล่างที่มีไม่มากทำให้ไม่สามารถขึ้นราคาได้ แม้ต้นทุนจะเพิ่มก็ตาม

โดยนอกจากผลิตภายใต้แบรนด์ของเราเอง บางส่วนมีรับจ้างผลิตให้กับแบรนด์อื่นๆ ด้วย ที่ผ่านมา เคยผลิตให้กับแบรนด์รายใหญ่ที่นำไปกระจายสินค้าทั่วประเทศ แต่พอเจอผลกระทบร้านโชวห่วยยอดขายลดลง และผู้บริโภคมีตัวเลือกผลไม้สดมากขึ้น ทำให้ลูกค้าที่เคยมาว่าจ้างผลิตยอดขายลดลงเช่นเดียวกัน ยอดค่อยๆ ลดลงไปเรื่อย จนมาถึงปัจจุบัน เลิกทำโรงงานเลิกพนักงานที่เคยจ้างเป็น 10 คนก็เลิกจ้าง และหันมาผลิตกันเองภายในครอบครัว ยอดขายเหลือไม่ถึง 10%


มะม่วงที่เลือกใช้ 2 สายพันธุ์

ในส่วนของผลไม้ที่นำมาแช่อิ่ม จากเดิมทำหลายชนิด มะม่วง กระท้อน มะกอก ตอนนี้เหลือที่ขายได้เพียงมะม่วงอย่างเดียว โดยคัดเลือกมะม่วงสายพันธุ์ที่เหมาะกับการนำแปรรูปทำมะม่วงแช่อิ่มดอง ที่ให้เนื้อสัมผัสที่กรอบรสชาติที่อร่อย 2 สายพันธุ์ คือ มะม่วงแก้ว และมะม่วงโชคอนันต์ แต่มะม่วงทั้งสองชนิดเมื่อนำมาทำแช่อิ่มจะให้รสชาติและเนื้อสัมผัสที่แตกต่างกัน อย่างมะม่วงแก้วเนื้อสัมผัสจะนุ่มและมีกลิ่นหอม ส่วนมะม่วงโชคอนันต์ เนื้อจะกรอบ แต่ทั้งคู่ให้รสชาติที่อร่อยเหมือนกัน แล้วแต่ว่าลูกค้าชอบแบบไหน


25 ปี ผลไม้แปรรูปแช่อิ่ม “เลิศรส”

นายสมชัย เจ้าของมะม่วงแปรรูปแช่อิ่ม “เลิศรส” เล่าถึงที่มาของการทำผลไม้แช่อิ่มในครั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทำอาชีพพนักงานโรงงาน หลังเรียนจบวิทยาศาสตร์การอาหาร เข้ามาทำโรงงานผลไม้แปรรูป เดิมเคยทำโรงงานผลิตเกี่ยมฉ่ายกระป๋อง ปลาซาร์ดีนกระป๋อง และมีญาติอยู่ที่โคราชทำผลไม้แช่อิ่มอยู่ก่อน และได้ไปเรียนรู้การทำมาจากญาติ นำสูตรมาปรับปรุงคุณภาพและได้รับคำแนะนำจากหน่วยงานของภาครัฐ ในการช่วยยืดอายุ และทำให้ได้มาตรฐาน อย. และทำขายมาเรื่อย จนถึงวันนี้ ก็ผ่านมากว่า 25 ปี

ตอนเริ่มทำครั้งแรกตอนปี 2541 ในช่วง 10 ปีแรกนั้น ตลาดไปได้ดีมาก ปีหนี่งต้องใช้มะม่วงมากกว่า 500 ตันจากสวนมะม่วงในจังหวัดใกล้เคียง นำมาส่งที่โรงงาน ไม่ว่าจะเป็นสวนมะม่วง ที่สิงห์บุรี อุทัยธานี อุตรดิตถ์ สุพรรณบุรี ฯลฯ ราคามะม่วงตั้แต่ กิโลกรัมละ 5 บาท ไปจนถึง 7-8 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา ถ้าเป็นช่วงฤดูที่ผลผลิตมะม่วงออกเยอะราคาถูก นอกฤดูราคาก็จะขยับขึ้นมา

การทำตลาดผลไม้แปรรูปแช่อิ่ม ในช่วงย้อนหลังที่เริ่มทำต้องบอกว่าตลาดไปได้ดีมาก เมื่อสักประมาณ 10-20 ปีย้อนหลัง ไม่มีปัญหา ไม่ต้องเก็บสินค้ากลับเลยมีเท่าไหร่ขายหมด แต่ทุกวันนี้ ในแต่ละครั้งที่ไปส่งสินค้าต้องมีสินค้าเก็บกลับคืนเยอะมา โดยเฉพาะในช่วงปัจจุบันนี้ แทบจะขายไม่ได้เลย ส่วนคนที่มาว่าจ้างผลิตน้อยลงไปเยอะมา


ยอดขายเหลือไม่ถึง 10%หันเพาะแหนแดงเพิ่มรายได้

โดยส่วนตัวมองว่า น่าจะมาจากผลไม้สดมีให้กินตลอดทั้งปี จากผลไม้นำเข้าจากต่างประเทศ และราคาไม่แพงหลังจากเปิดการค้าเสรี ผลไม้ดองหรือผลไม้แช่อิ่ม กิจการซบเซาลงเรื่อยๆ ในขณะที่ต้นทุนการผลิตของเราเพิ่มขึ้น จากราคาน้ำตาล หรือ พลาสติกเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว แต่เราไม่สามารถปรับราคาเพิ่มขึ้นได้ และที่ยังคงทำอยู่ เพราะยังมีลูกค้าประจำที่ซื้อขายกันมานาน ก็ยังพอจะขายได้ แม้จะไม่มาก แต่ก็ยังพอจะมีรายได้ดูแลครอบครัวได้ ยอดขายต่อเดือนประมาณ 20,000 บาท จากเดิมขายได้เดือนละหลายแสนบาท

ปัจจุบันต้องปิดโรงงาน และเลิกจ้างพนักงาน และหันมาผลิตกันเองภายในครอบครัวช่วยกัน และ ได้เริ่มมองหาอาชีพเสริมอื่นๆ เข้ามาทดแทนรายได้ที่หายไป โดยหันมาเพาะแหนแดง ขายให้กับลูกค้าที่นำไปทำเป็นอาหารสัตว์ ซึ่งเป็นอาชีพใหม่ที่เพิ่งจะเริ่มทำ แต่พอจะมีรายได้มาช่วยพยุงค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้บ้าง

นอกจากนี้ ยังมีมะม่วงผ่านกระบวนการผลิตที่มีสารเคมีน้อย รสชาติอร่อยกว่า อายุการเก็บต้องอยู่ในตู้เย็น ตัวนี้ เราทำออกมาขายในตลาดบน เราต้องการจะขายออนไลน์
 

ติดต่อ โทร. 08-0626-4519, 08-1910-0495

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น