“เมื่อก่อนผมปลูกลงดินแล้วมีปัญหาว่ามันคล้ายๆ เหมือนท้องนา คือมันต่ำมาก ต้องยกเป็นโคก แล้วอีกอย่างหนึ่งการที่มาอยู่ในที่แคบ เขาจะออกลูกเร็วขึ้น จากไม้ที่แบบว่าเราลงดิน 3 ปีใช่มั้ย อยู่ในกระถางหรือเข่ง 20บาทเนี่ยปลูกปีเดียวออกลูกแล้ว”
จากความชื่นชอบ สะสม ไม้แปลก ๆ จากต่างประเทศและโดยเฉพาะ “ไม้ผล” ที่นำมาสู่อาชีพหลักในปัจจุบัน “พี่เอ๋-เฉลิมชัย โหบาง”เจ้าของ Secret Farm ตั้งอยู่ที่หมู่3 ต.บ้านมุง อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก เล่าให้ฟังว่า ความหลงใหลในไม้เมืองหนาวก่อนที่กลายเป็นว่าค่อย ๆ ต่อยอดสู่การทำเป็นอาชีพอย่างจริงจัง หลังลาออกจากงานประจำ
“จริง ๆ ผมทำสวนนี้คือสะสม “ไม้ผล”ทั่วโลก คือเอาเฉพาะไม้ผลอย่างเดียว จากเริ่มแรกสะสมไม้เมืองหนาวก่อนเลย เชอร์รี่ แอปเปิ้ล ฯลฯ ฝืนธรรมชาติ!แต่ว่าในการที่ฝืนเราก็มีหลักการ ด้วยความที่นำเข้ามาเป็น100 สายพันธุ์เลยไม้เมืองหนาว เรื่องของมันก็คือว่าส่วนใหญ่ 90% ต้องผสมข้ามสายพันธุ์ถึงจะติด อันนี้เป็นโจทย์แรกก่อนเลยนะ อันที่สองคือว่าไม่ต้องข้ามสายพันธุ์ปลูกต้นเดียวมีลูกได้ ก็ต้องไปหาchill ต่ำก็คือปลูกในเขตร้อนหรือพื้นที่ราบแล้วมี “ลูก” ได้ ซึ่งเราต้องเลือกสายพันธุ์ที่จะมาทดลองแล้วเอามาปลูกจริง ๆ กลายเป็นว่ามันมีลูกได้จริงแต่ “ขนาด” มันไม่ได้! อย่างผมปลูก พลัม ลูกแพร์ สาลี่ แอปเปิ้ล หรือไม้เมืองหนาวเกือบทุกตัวเนี่ย ท้ายที่สุดแล้วมันกลายเป็นว่า มีดอกมีลูกได้จริงแต่ลูกเล็ก ขนาดที่ได้ไม่เป็นไปตามศักยภาพของสายพันธุ์เขา”
ตอนหลัง ๆ ก็เลยมามองดู ไม้ตัวไหนที่ว่าเออมันปลูกแล้วได้ผลดี อย่างอันนี้ก็คือเป็นช่วงท้าย ๆ ของโปรเจคท์แล้ว รู้แล้วว่าอันไหนมันปลูกพื้นที่ราบได้ แล้วได้ผลดีหรือไม่ได้ผลดี หรือลูกใหญ่-ลูกเล็ก ตอนนี้ก็รู้หมดแล้ว“ก็เลยกลายเป็นว่า “อะโวคาโด”มันปลูกได้เว้ย! มันได้ผลดกแฮะ มันได้ตามที่ตรงตามสายพันธุ์ที่มันควรจะเป็น โดยที่แบบมันไม่ต้อง “สูง” ไม่ต้อง “หนาว” อะไรอย่างเงี้ย ก็เลยเจอพันธุ์แปลก ๆ ที่ถูกใจ ตอนนี้ก็เลยมาเล่นเป็นอะโวคาโด”
ปลูก “อะโวคาโด” ลงเข่งแบบนี้กลับดีกว่า เพราะเหมือนสั่งได้!
พี่เอ๋ บอกว่า หากเอาแบบประหยัดเวลาแล้วเราเองต้องการที่จะเอา “ผล” โชว์อย่างเดียว อาจจะไม่ได้แบบว่าเน้นปริมาณให้ผลแบบเยอะ ๆ อยากให้มีผลเร็ว ๆ เพราะส่วนใหญ่ต้นพันธุ์(ที่มีการผลิตจำหน่าย) ก็เป็นแบบเสียบยอดมาอยู่แล้ว อะโวคาโดสามารถที่จะโอเคอยู่ในพื้นที่แคบได้ อย่างตนเองเคยไปดูของต่างประเทศแล้วเขาปลูกในกระถางเล็ก ๆ แบบนี้ก็มีลูกได้เพียงแต่ว่าลูกก็อาจจะไม่ได้เยอะมากก็ตามขนาดของต้นแม่
“แทนที่แบบคอย 3 ปี ต้นมหึมาแล้วแบบถึงจะเริ่มมีลูกอะไรเงี้ย อะโวคาโดก็เหมือนกันมันก็เลยกลายเป็นว่า คอนเซ็ปต์ผมก็ปลูกแบบ ถ้าจะเอาผลยาว ๆ หน่อยหลาย ๆ ปีหมายถึงว่า ให้ต้นมันใหญ่ ๆ เนี่ยก็ใส่เข่งใหญ่ อย่างเข่งเบอร์1 ไปเลย แต่ถ้าเกิดว่าอยากให้มีลูกเร็วผมก็ใส่เข่ง 20 บาท มันก็คือจะเป็นเข่งเล็ก ๆ ประมาณนี้ ปลูกปีเดียวออกลูกเลยอะไรอย่างเงี้ย”
ทั้งนี้ ปัจจัยที่เอื้อนอกจากการดูแล (เรื่องน้ำ-เรื่องปุ๋ยที่ให้) แล้วอย่างของตนที่ก่อนจะย้ายลงปลูกในเข่ง คือมันเป็นไม้ที่ต้นค้างปีอยู่ในถุงมาก่อน มันก็มีดอกเลย ซึ่งแปลว่า “ราก” ที่มันขดอยู่เมื่อไหร่ก็ตามที่มันสามารถชอนไช จนกระทั่งรากไปชนขอบเข่งหรือขอบกระถางมันจะมีลูกเร็ว
“ต้นไม้เมื่อไหร่ที่มันรู้สึกว่ามันจะตาย การบังคับให้มันออกดอก-ออกลูก รู้สึกว่ามันไม่พร้อมอะไรเงี้ย มันจะเริ่มเปลี่ยนตัวเองเริ่มสืบพันธุ์ อันนี้เป็นหลักการที่ใช้บังคับให้ต้นออกดอก-ออกลูก” แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ ถ้าวิธีการนับต้นไม้ส่วนใหญ่จะนับ 1 ฤดูกาล ก็คือ ฤดูออกดอก ฤดูออกดอกเมื่อไหร่ชนฤดูออกดอก อันนั้นคือ 1 ฤดูกาลก็คือ 1 ปี อย่างเงี้ยคือชัวร์ว่า มีดอกแน่ ๆ แต่ถ้าเกิดว่ามันเป็นการคร่อมฤดูกาล มันอาจจะเลทไปถึงแบบปีครึ่งก็มี เต็มที่คือแค่ปีครึ่ง แต่ถ้าโดยปกติ 1 ปีก็คือ 1 ฤดูกาล"
การจัดการง่าย
ตอนนี้ไม้ผลทุกชนิดที่ปลูกอยู่ ที่เน้นแบบปลูกในเข่ง ที่สวนจะใช้การจัดการสูตรเดียวกันหมด จะใช้ “ดิน” แบบที่เน้นคือดินแดง ๆ เป็นดินแบบดินภูเขา ผสมกับ “แกลบดิบ” หรือแกลบเก่าก็ได้ ในอัตราส่วน1 : 1 เท่า ๆ กัน พี่เอ๋บอกว่าสูตรดินแบบนี้ในระยะยาวคือ ดินจะไม่ค่อยยุบตัว โดยที่ว่าก่อนจะใส่ดิน+แกลบลงไปในเข่งคือจะต้องมีการ “บุ” ด้วยวัสดุเพื่อกันการชะล้างของน้ำที่อาจพาดินไหลออกไปจากเข่งด้วย
การปลูกลงเข่งแบบนี้มีข้อดีคือ มันจะมีช่อง ๆ หรือรูพรุนที่ได้อากาศเข้าไป ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกโตดีกว่า จากนั้นเวลาปลูกก็คือตอนแรกจะปลูกแบบให้รากลอย ๆ หน่อย เผื่อไว้เพราะว่าในอนาคตเราอาจจะเติมดินหรือเติมอะไรเข้าไปเพิ่มได้ ส่วนการดูแล “การให้น้ำ” ที่สวนจะใช้แบบมินิสปริงเกลอร์(ขนาดจ่าย 40ลิตร/ชม.) เพราะเนื่องจากขนาดท่อส่งน้ำเป็นแบบท่อนิ้วก็เลยจะใช้แบบนี้ให้น้ำวันละครั้ง หรือขึ้นอยู่กับการดีไซน์ในการให้น้ำของแต่ละคน ต่อมาเรื่อง“การให้ปุ๋ย” หลัก ๆ เลยก็คือจะให้เป็นสูตรเสมอ เช่น16-16-16 หรือหากต้องการจะเน้นเอาลูกไวไม่เน้นต้นโตมากนักก็ใช้สูตร8-24-24 อัดอย่างเดียวไปเลยก็ได้เช่นกัน เว้นระยะการให้ปุ๋ยอาจจะ15 วัน/ครั้ง หรือเดือนละครั้งก็ได้
แต่อย่างที่สวนเองพี่เอ๋บอกว่าจะให้ปุ๋ยทุก ๆ เมื่อเริ่มเห็นว่าต้นเริ่มจะโทรมแล้ว เพื่อกระตุ้นให้ “ราก” มีการเสาะแสวงหากินอาหารได้เอง เมื่อไหร่ที่เห็นแตกยอดใหม่นั่นแสดงว่ารากมีการขยายเพิ่มใหม่ด้วย การปลูกในพื้นที่แคบมีข้อดีอีกอย่างคือ หากเราจัดการเรื่องน้ำ-เรื่องปุ๋ยที่ให้ในปริมาณที่พอเหมาะ จะทำให้การถูกนำไปใช้ก็เป็นไปแบบ100% ด้วยไม่มีการถูกชะล้างสูญเสียไปอย่างไร้ประโยชน์ และพอการปลูกอยู่ในพื้นที่จำกัดก็สามารถควบคุมหญ้าได้ง่าย ไม่มีหญ้ารกก็ไม่เกิดการสะสมของโรค-แมลงที่มารบกวนไปด้วย ปัญหาต่าง ๆ ก็น้อยลง และการเว้นระยะห่างของต้นก็สำคัญต้องไม่ให้ชิดหรือใบชนกันได้ ก็จะช่วยลดปัญหาโรค-แมลงได้เช่นเดียวกัน
สายพันธุ์ที่ปลูกอยู่เรื่อง “รสชาติ” รับประกันได้ไม่เป็นรอง!
“ปีหน้าอะโวคาโดผมจะมีหลายตัวเลย ที่เป็นแบบเจ๋ง ๆ ของโลก มีอีกหลายตัวที่อาจจะมีลูกมีอะไรให้ นอกจากตัว “ไร้เมล็ด”
แล้วยังมีตัวเจ๋ง ๆ อีกหลายตัว แล้วก็มีไม้อื่น ๆ ที่ทยอยออกดอก-ออกผล” พี่เอ๋บอกว่าอย่างปีนี้ที่คนสนใจกันเยอะ ๆ ก็จะมีพันธุ์ “เตี้ยเวียดนาม” ซึ่งตนเองปลูกในเข่งแล้วลูกมันใหญ่7 ขีด – 1 กก. แล้วมันก็ดกด้วย หรือว่าจะเป็นในส่วนของปีหน้าก็มีพันธุ์ “สีทอง” ที่ลูกเขาจะสีเหลือง สุกแล้วสีแดง(แต่เนื้อข้างในเป็นสีเหลืองส้มทั้งผล) และก็ตัวที่มาทีหลังนำเข้าจากอเมริกาจะเป็น ลูกสีแดงกับลูกสีดำ พวกนี้จะเน้นคือ สุกเปลี่ยนสี หมายความว่าแก่เปลี่ยนสีเนื่องจากว่า
สำหรับ ปัญหาส่วนใหญ่ของพันธุ์สีเขียวก็คือ แก่เมื่อไหร่ก็ดูไม่ออกหรือดูยาก เก็บไปบางทีมีลูกร่วงแล้ว แต่พอบางทีลูกมันไม่ใช่ชุดเดียวกัน มันก็ไม่สุก ส่วนเรื่อง “รสชาติ” ทุกสายพันธุ์ที่นำเข้ามาหลาย ๆ ตัวก็ขึ้นชื่อระดับโลก เพียงแต่ว่ามันอาจจะไม่ได้มีขายทั่ว ๆ ไป ด้วยข้อจำกัดเรื่องปริมาณและก็ราคาที่มันค่อนข้างแพงกว่า อย่างล่าสุดที่ปลูกเอง “ชมพูสยาม” รสชาติที่ได้ก็อร่อยกว่าที่ซื้อเขากิน พอมันแก่แล้วร่วงเอาไว้ 2 วันมากิน มันอร่อย เนื้อแห้ง ไม่มันเละเหมือนแฮสส์ จะไม่เน้นหวานมาก จะออกมัน ๆ แต่ว่าน้ำมันไม่ได้เยอะไม่ได้แฉะ ความอร่อย เนื้อสัมผัส แต่ละสายพันธุ์มันก็มีจุดเด่นต่างกัน
ส่วน “พันธุ์ไร้เมล็ด” ตัวนี้ก็จะมีความคล้าย ๆ ไปแนวของพันธุ์034 รสชาติจะคล้ายกันเป็นแบบ “มัน” ไม่ได้หวานมาก หวานนิด ๆ ปะแล่ม ๆ จะเน้นไปทางมันมากกว่า เปลี่ยนสี แต่ว่าก็อาจจะเปลือกหนาไปบ้าง หนากว่าพันธุ์อื่นแต่ลอกเปลือกได้ ซึ่งข้างในไม่ต้องเอาอะไรออกเลย กินได้เลย ที่เป็นโพรงข้างใน มันไม่มีเยื่อที่จะต้องลอกออกเลย กินได้เลย ลอกเปลือกออกแล้ว กัดกินทั้งลูกได้เลย ไม่มีเม็ดข้างในเลย 100% อันนี้มันเป็นพันธุ์ของเขามาเลย“ใหญ่สุดที่เคยทำได้คือ 6-7 ขีด อันนี้คือลูกใหญ่ ใหญ่เป้ง ๆ เลยนะ แต่โดยเฉลี่ยก็ 3-5 ขีดแหละเฉลี่ยของเขานะ แต่อันนี้ของผม 6-7 ขีดคือมันใหญ่เว่อร์”
พี่เอ๋บอกด้วยนำเข้าพันธุ์ไร้เมล็ดนี้มาจากเวียดนาม ตามหลังพันธุ์034 ได้1 ปี ซึ่งหากพูดถึงพันธุ์ไร้เมล็ดในบ้านเราที่พบคือก็เป็นการนำเข้ามา แต่ว่าเท่าที่เจอคือจะเป็นลูกเล็ก สุกสีเขียว ลูกเล็กกว่าแตงกวา ยาวประมาณสัก3-4 นิ้ว ส่วนใหญ่ลูกจะประมาณนั้นหรือล่าสุดที่พบใหม่กันมาอีกคือ โคตรเล็กเลย เท่านิ้วชี้! แต่ว่าก็มีของคนไทยที่เขาบอกว่าเป็นไร้เมล็ดที่ลูกโตเป็นกิโลเลย! อันนี้ก็ฟังมาแล้วก็สั่งพันธุ์จากเขาไว้ แต่ว่ายังไม่เห็นลูก
“ผมนำเข้ามาจากเวียดนาม ตาม 034 มา 1 ปี เพราะเอา 034 เข้ามาก่อน ก็ปลูกได้ทั่วไปเพราะว่า 034 ที่อยู่ทางใต้ สุราษฎร์ ก็ออกลูกอย่างดก ซึ่งจริง ๆ แล้ว 034 ผมมองว่าเผลอ ๆ ยากกว่าไอ้ตัวไร้เมล็ดอีก ไร้เมล็ดเนี่ยเอาไปปลูกหลายที่ก็มีลูกแล้วตอนนี้ คือพันธุ์เดียวกันแหละ เพราะผมก็ขายไปหลายปีแล้วสายพันธุ์นี้หลาย ๆ ที่เขาก็โชว์ ทำต้นพันธุ์ขายกัน เขาก็โชว์มีลูก แต่ว่าด้วยความที่เขาเอาไปทีหลังผม ยังไม่ได้ดกเท่า ความดกอาจจะยังไม่เท่า”
เอาใจคนเมืองหรือคนอยากปลูกไว้กินเองได้
พี่เอ๋บอกว่า อย่างที่อื่นเอาพันธุ์ไปปลูกกัน เขาก็มีลูกกันมา 2-3 ปีแล้ว ดังนั้นไม่ใช่ปัญหาเพราะอย่างตนเองอยู่พื้นที่ตรงนี้ ความสูง 45 เมตรจากระดับน้ำทะเล ถึงจะบอกว่าอยู่ตั้งพิษณุโลกแต่จริง ๆ แล้วสภาพอากาศแย่กว่ามากหากเทียบกับ ปากช่อง หรือที่อื่น ๆ แล้ว ความสูงก็ไม่สูง อากาศหรือความเย็นของที่นี่ก็ไม่ได้ว่าจะเย็นไปกว่า แต่จากผลผลิตที่เห็นก็แสดงว่ามันย่อมปลูกได้ในพื้นที่ราบทั่ว ๆ ไป สามารถที่จะออกดอก-ออกลูกได้และมีคุณภาพที่ไม่แพ้กัน
“ตอนนี้ก็มีละมุดยักษ์เม็กซิโกก็ปลูกเพิ่มอยู่ ต้นแม่ก็ออกดอกติดลูกแล้ว ลูกกำลังขยาย เดี๋ยวอีกหน่อยก็มาเที่ยวที่นี่ได้ หลาย ๆ
อย่างอย่างปีแป๋ตอนนี้ก็คือคัดสายพันธุ์ที่สามารถมีลูกได้ทั่วไป และก็ลูกใหญ่มาระดับหนึ่ง ดกระดับหนึ่งได้แล้ว อีกหน่อยถ้าเกิดว่ามันดีจริง ๆ เนี่ยคือสามารถปลูกได้ทั่วไป กินตามบ้านเลยไม่ต้องไปแบบซื้อโลนึงเกือบ 1000 นำเข้าผมว่ามันแพงไป มันมีหลาย ๆ ตัวที่เราทดลองหลาย ๆ สายพันธุ์ แล้วก็คัดสายพันธุ์ก็คือให้มันดีที่จะปลูกในทั่ว ๆ ไปผมว่า มันพอเห็นแล้วล่ะว่ามีไม้อะไรบ้าง”
สอบถามเพิ่มเติมโทร.088-791-9699 ชื่อสวน: Secret Farm
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *