สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA ประกาศผล "สุดยอดสตาร์ทอัปไทยแลนด์ลีก 2023" ในงาน ‘Champion Startup Thailand League 2023’ จากทีมผู้เข้าแข่งขัน 260 ทีมทั่วประเทศ ตอกย้ำความสำเร็จการสร้างเมล็ดพันธุ์เถ้าแก่น้อย ให้พร้อมก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัปในภาคธุรกิจ
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA กล่าวว่า ในปัจจุบัน บทบาทของ NIA คือการเป็น Focal Facilitator หรือ ผู้อำนวยความสะดวกทางนวัตกรรม ที่มุ่งพัฒนาระบบนวัตกรรมที่เปิดกว้าง เปิดโอกาสในการเข้าถึงและเชื่อมโยงความร่วมมือทุกภาคส่วน โดยโครงการ Startup Thailand League เป็นกิจกรรมหนึ่งภายใต้แผนการส่งเสริมสตาร์ทอัปของประเทศ ในการบูรณาการการทำงานร่วมกันของภาครัฐ สถาบันการศึกษาและภาคเอกชน ในการสร้างระบบนิเวศและสภาพแวดล้อมที่จะจุดประกายและส่งเสริมการเติบโตของสตาร์ทอัปรุ่นใหม่ รวมทั้งก่อให้เกิดสังคมแห่งผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่สามารถเข้าถึงทรัพยากรที่จะส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจจากความคิดสร้างสรรค์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้ พร้อมเป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต
ตลอดระยะเวลา 5 เดือนที่ผ่านมา เมนเทอร์ภายใต้โครงการนี้ ทุกคนมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะบ่มเพาะ เร่งสร้างการเติบโตให้แก่เหล่าเมล็ดพันธุ์สตาร์ทอัปรุ่นใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับทุกทีม สู่การเป็นสตาร์ทอัปรุ่นใหม่ในภาคธุรกิจ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและสังคม มีศักยภาพในการสร้างความเปลี่ยนแปลงต่อประเทศ
ปีนี้มีนิสิตนักศึกษาทั้งหมด 260 ทีม จากมหาวิทยาลัยเครือข่าย 48 แห่งทั่วประเทศ เข้าร่วมการแข่งขัน และให้ความสนใจในการพัฒนาธุรกิจนวัตกรรมในเกือบทุกสาขาเทคโนโลยี แต่ความโดดเด่นของปีนี้คือการมุ่งสู่เทรนด์โลกที่ให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศด้านเกษตรอย่างมากเพราะตอบโจทย์ด้านความมั่นคงในการเป็นแหล่งผลิตอาหาร และสนับสนุนเกษตรกรที่เป็นประชากรส่วนใหญ่เกือบหนึ่งในสามของประเทศ ซึ่งประเทศไทยของเราเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรม อีกทั้งรัฐบาลมีนโยบายเร่งผลักดันและขับเคลื่อนการสร้างสตาร์ทอัปเกษตรใหม่ๆ นับเป็นแรงสนับสนุนสำคัญให้น้องๆ ได้เติบโตต่อไป ผ่านกลไกการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในระบบนิเวศที่จะทำให้เกิดการขยายการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดบนพื้นฐานของการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม
ทั้งนี้จากการเฟ้นหาสุดยอดสตาร์ทอัปหน้าใหม่ทั้ง 4 ภูมิภาค มีเพียง 14 ทีม ที่ผ่านเข้าถึงการแข่งขันรอบสุดท้ายของ Startup Thailand League 2023 ระดับประเทศ โดยทั้ง 14 ทีมนี้จะต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการของตนเองต่อคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิระดับประเทศทั้ง 5 ท่าน ได้แก่ คุณสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน สายงานพัฒนาธุรกิจผู้ประกอบการรายย่อย และ SMEs Startup, ดร.ชินาวุธ ชินะประยูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa), คุณชลิตา สมุทรรัตน์ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจคลาวด์ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด, ดร.ชาญวิทย์ ตรีเดช ผู้จัดการกองทุนพัฒนาผู้ประกอบการเทคโนโลยีและนวัตกรรม (TED Fund) และ ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป True Digital Park โดยทีมผู้ชนะเลิศ Startup Thailand League 2023 ระดับประเทศ อันดับ 1-3 จะได้รับโล่รางวัล จาก NIA และเงินรางวัล มูลค่า 50,000 บาท, 30,000 บาท และ 20,000 บาท
ทีมชนะเลิศ ได้แก่ ทีม SparkEnergy จากมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ GreenSupercap ถ่านคาร์บอนจากเศษเหลือขี้เลื่อยไม้ยางพารา ผ่านกระบวนการปรับปรุงพื้นผิวที่คิดค้นขึ้น ให้มีพื้นที่ผิวและความเป็นรูพรุนในการกักเก็บประจุไฟฟ้าที่สูง สำหรับอุปกรณ์กักเก็บพลังงาน
รองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม K-DLE จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี บรรจุภัณฑ์กันกระแทกสำหรับผลิตผลสดทางเลือกใหม่จากยางธรรมชาติ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถปกป้องผลิตผลสดในระหว่างการขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Mission to Mars จากมหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล Virniture คือการรวมกันระหว่างการออกแบบห้องแบบ virtual และการซื้อเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์
นอกจากนี้ ยังมีรางวัลเพิ่มเติมจากผู้สนับสนุน ประกอบด้วย
1.รางวัล Huawei Cloud Accelerator Intensive Program จากบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 3 รางวัล ได้แก่ ทีม Confusion Matrix มหาวิทยาลัยพะเยา, ทีม Overlap มหาวิทยาลัยนเรศวร, ทีม FXAM สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โดยทั้ง 3 ทีมจะได้เข้าร่วมอบรมพื้นฐานการใช้งาน Huawei Cloud รวมถึงการพัฒนาโซลูชันบนคลาวด์ร่วมกับเทคโนโลยีต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AI, Big Data ซึ่งเป็นการเสริมความพร้อมให้น้อง ๆ ก่อนการแข่งขันในเวทีนักศึกษาระดับโลก Huawei ICT Competition โดยจะมี 1 ทีมเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันนี้ที่ประเทศจีน
2. รางวัลเกียรติบัตร “Best Performance 2023” สำหรับมหาวิทยาลัยที่มีพัฒนาการ สามารถนำทีมนักศึกษาเข้าสู่่ Demo Day ได้เพิ่มขึ้นจากปี 2565 จำนวน 5 มหาวิทยาลัย ได้แก่ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
3. รางวัล University of the year สำหรับมหาวิทยาลัยที่ได้ร่วมผลักดันทีมนักศึกษาสู่ชัยชนะ ได้แก่ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์
อย่างไรก็ตาม ดร.กริชผกา กล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอแสดงความยินดีแก่ทีมน้องๆ นักศึกษาที่ได้รับรางวัลในวันนี้ ซึ่งเวที Startup Thailand League 2023 ทำให้เห็นว่านี่เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการปลูกฝังให้มหาวิทยาลัยและนักศึกษาไทยมี Entrepreneurial Mindset หรือ Mindset แห่งการเป็นผู้ประกอบการ ด้วยการฝึกฝนให้นักศึกษาได้สัมผัสโลกการทำงานก่อนที่จะจบออกจากรั้วมหาวิทยาลัย โครงการ Startup Thailand League ได้ส่งเสริมให้ตั้งคำถามที่ถูกต้อง วิเคราะห์ปัญหาและสร้างโซลูชันในการแก้ไข บ่มเพาะแนวคิดในการทำงานเป็นทีม ให้นักศึกษาได้เกิดการเรียนรู้และได้รับประสบการณ์เสมือนการทำงานจริง ซึ่งได้เห็นผลประจักษ์แล้วว่าตลอด 7 ปีของการดำเนินกิจกรรมมีนักศึกษาเข้าร่วมกว่า 70,000 คน จาก 48 มหาวิทยาลัยทั่วประเทศทั้งรัฐและเอกชน โดยสามารถต่อยอดจัดตั้งเป็นบริษัทและปัจจุบันยังดำเนินธุรกิจอยู่มากกว่า 50 บริษัท ก่อให้เกิดรายได้รวมต่อปีมากกว่า 500 ล้านบาท (เฉลี่ย 10 ล้านบาทต่อปีต่อบริษัท) เกิดการกระจายตัวของสตาร์ทอัปไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ รวมถึงเกิดการจ้างงานและสร้างความมั่นคงให้ชุมชน และเกิดการกระจายรายได้ออกสู่ภูมิภาค”
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *