“ต้องขอบคุณลูกค้าตลาดมีนบุรีที่เมตตา ตั้งแต่วันแรกที่ทำให้เราพลิกชีวิต 240 ชิ้นหมดภายในชั่วโมงเดียว หลังจากนั้นวันที่สอง 2 ชั่วโมงใช้ทั้งหมด 600 ชิ้น แล้วหลังจากนั้นก็ 600 700 จนถึงยอดสูงสุดอยู่ที่ 1,300 ชิ้นหมดภายใน 1 ชั่วโมง”
พลิกชีวิต! ได้อย่างทันช่วงเวลาที่วิกฤตสุด ๆ ได้พอดีสำหรับ “ร้านไก่ยอจิ้มแซ่บ” ของ ครูภาพ-นางสาวสุภาพ แนบกลาง แฟรนไชส์น้องใหม่ล่าสุดที่กำลังมีกระแสแรงอยู่ในโลกโซเชียลขณะนี้ ที่ชั่วโมงนี้ไม่มีใครที่ไม่พูดถึง “ไก่ยอครูภาพ” เพราะจากกระแสเสียงลือถึงยอดขายที่หมดไวภายใน 1 ชั่วโมงก็ดี รวมถึงความเก่งกาจขยายสาขาได้มากกว่า 100 ในเวลาแค่ 3 เดือนเท่านั้น! ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้ทำให้เราต้องมาตามหาร้านครูภาพซึ่งอยู่ที่ตลาดมีนบุรีแห่งนี้ “อยู่ที่จังหวะชีวิตด้วยอยู่ที่หลาย ๆ อย่างปัจจัย บางทีทำไปมันไม่เห็นหรอกว่ามันจะสำเร็จยังไง ครูก็ไม่เคยคิดว่าครูจะสามารถ มีเงินทุน 5,000 แล้วจะกลับมาเปลี่ยนชีวิตตรงนี้ แล้วไม่เคยคิดว่าจะได้ใช้หนี้เขาได้ คิดอย่างเดียวว่าเออถ้าตาย! มีเงินประกันลูกก็จะได้ มันก็น่าจะมีใช้หนี้ คิดอยู่แค่นั้นคือความโง่ แต่เราไม่หยุดให้เห็นไง! แล้วเราก็ไม่รู้ด้วยว่ามันจะเป็นอย่างที่เราคิดหรือเปล่า แต่อย่างน้อย ๆ วันนี้ขอบคุณตัวเอง ขอบคุณครอบครัว ขอบคุณคนรอบข้างที่ให้กำลังใจ ขอบคุณที่สุดแหละครอบครัวของเราที่เขาไม่ทิ้งเรา เรามีกำลังลุกขึ้นสู้ได้เพราะตัวเรา แล้วตัวเราไม่รอให้คนอื่นช่วยไม่รอให้คนอื่นฉุด ช่วยตัวเองแบบทำถึงที่สุด ครูว่าวันหนึ่งทุกคนก็จะเจอเส้นทางเหมือนครูภาพค่ะ”
เมื่องานประจำยังไม่ตอบโจทย์ชีวิตครูภาพเล่าให้ฟังอีกว่าจริง ๆ แล้วตนเองเป็นครูมาก่อน สอนอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่งนานหลายปีเหมือนกันแล้วก็ ไปเรียนต่อจนกระทั่งมีโอกาสได้มาเป็นอาจารย์อยู่ในสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง“แล้วก็วันหนึ่งก็เกิดการเบื่อ เชื่อว่าทุกคนทำงานประจำก็จะเบื่อแหละ แต่อาชีพตอนนั้นต้องบอกว่าเงินเดือนก็ประมาณเกือบ7 หมื่น ก็เป็นผู้บริหารแต่ว่าต่อให้เราอยู่จุดไหนก็ตาม ถ้าเราไม่มีความสุขกับการทำงาน ครูก็เชื่อว่ามันก็ไม่ใช่ ไม่ตอบโจทย์ชีวิตเรา” ตอนนั้นที่ตัดสินใจ “แม่” ผิดหวังกับครูมากว่าไม่ต้องเรียนก็ได้ถ้าลูกจะแค่ค้าขาย ยังใช้ความรู้ที่มีอยู่ไม่คุ้มเลย “อยากจะมีอิสระ เราก็ตัดสินใจทิ้งเงินเดือนที่เชื่อว่าหลายคนไม่กล้าทำแน่นอน ทิ้งเงินเดือนจากที่เงินเดือนขนาดนั้น แล้วลงมาเป็นแม่ค้าเลย”
วิกฤตโควิดฯ มา ดับฝัน! อาชีพแม่ค้า
ตอนแรกเลยคือไปเปิดร้านอาหารก่อน โดยซื้อแบรนด์ ๆ หนึ่งมา แล้วก็ต้องบอกว่าประสบความสำเร็จเหมือนกันซึ่งรายได้เยอะมาก วันหนึ่ง ๆ ยอดขายอยู่ที่ประมาณ 3-4 หมื่นขึ้น กำไรก็ประมาณ50% แต่ว่าก็มีลูกน้อง 5-6 คนด้วย อยู่ได้เลย!“ต้องบอกว่าดีใจที่ตัวเองลาออก (ฉันมาถูกทางแล้ว!) มันรอดแน่นอน แต่สุดท้ายสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดครูก็เชื่อว่าทุกคนต้องเจอ สถานการณ์โควิดฯ เข้ามาจากที่คนเต็มร้าน คนรอเข้ามากินที่ร้านเรา กลายเป็นห้ามนั่ง! ยอดจากวันละ 3 หมื่น 4 หมื่น ลดลงไปเหลือประมาณวันละหมื่น วันละหมื่นนี่ถือว่ากรุณาแล้วนะ” สิ่งที่ทำให้ตัดสินใจปิดร้าน ยอดขายต่อวัน 2,000! เลี้ยงลูกน้องไม่ได้ตัวเองยังเลี้ยงไม่ได้เลย! ขายขาดทุนทุกวัน ๆ แต่ในใจคือยังคิดว่าเดี๋ยวมันก็ดีขึ้น “ไม่ได้แล้ว! ต้องตัดสินใจ ตัดสินใจปิดร้านเซ้งร้านกลับมาอยู่บ้าน ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ตอนนี้รายได้ไม่มีแล้วนะ ต่อให้มีตอนนั้นมันก็ติดลบไปเรื่อย ๆ เมื่อมันไม่มีตรงนั้นแล้วครูก็ต้องหาวิธีว่าจะทำงานอะไร ครูจะทำอะไร แต่ให้กลับไปทำงานประจำไม่มีอยู่ในความคิดเลย ไม่เคยเสียดายจุดที่เดินก้าวออกมา เราจะไปขายของครูก็เริ่มจากการเอาทุนที่เหลืออยู่ ไปขายตามงานอีเว้นต์ต่าง ๆ ไปขายตามงานต่าง ๆ ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ขายไปกินทุนไป สามวันดีสี่วันไข้สุดท้ายทุนหมด!” ไปขอยืมจากพี่สาว พี่สาวเป็นข้าราชการซึ่งเป็นอีกบุคคลหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของครูภาพมาก ไปยืมเงินและบอกกับพี่สาวว่าจะทำ “ไก่ยอ” จะไปทำแบรนด์ของตัวเอง ก้าวกระโดดแบบคิดเป็น “เถ้าแก่ใหญ่”เลย จะวิ่งไปตามตลาดไปเสนอขาย“ก็ทำอย่างที่ว่าค่ะไปตกลงกับโรงงานทำแบรนด์ตัวเองเรียบร้อย มันก็ต้องมีขั้นต่ำว่าต้องเอา ผลิตเท่าไหร่อะไรเท่าไหร่ ก็คือหกหลักเหมือนกัน สุดท้ายไปเสนอร้านไหนก็ไม่มีใครเขารับ”
หันทำ “ไก่ยอ” ค้าส่งแต่ว่าก็ยัง ไปไม่ถึงฝันเพราะแข่งขันสูง!
จะไปขายส่งในราคา40 บาท ซึ่งใคร ๆ ก็บอกว่าแพง“40 บาทไม่มีใครซื้อหรอกครู แล้วหนูจะไปขายเท่าไหร่ อ้าวแต่ของครูอร่อยนะของครูแป้งน้อยนะ ก็ครูไปชิมมาหมดแล้วของครูอร่อยนะ เขาบอกถ้าสูงขนาดนั้นไม่มีใครซื้อหรอกค่ะ” ไปขายใครก็ไม่ได้ สุดท้ายก็คือทั้งแจกทั้งขายทิ้งบ้างอะไรบ้าง เงินหมด! ก็บอกพี่สาวว่าเงินหมดแล้วขอยืมอีกได้มั้ย พี่สาวบอกมันเยอะแล้วนะหกหลักนี่ก็เยอะแล้วนะ ต้องบอกว่าเยอะมาก แต่เขาก็ให้มาและบอกว่าก้อนสุดท้ายแล้วนะ ก้อนที่เขาให้มาสุดท้ายประมาณ5 หมื่น“5 หมื่นก็เหมือนเดิมล่ะค่ะขายไปไม่มีคนซื้อ ยังไม่มาตลาดนี้นะคะ ก็จนสุดท้ายเหลือ5,000 บาทสุดท้าย! 5,000 เนี่ยไปไหนไม่ได้แล้ว แม้แต่เงินจะเติมน้ำมันก็ไม่มี ข่าวร้ายก็มาอีก! ทางแบงก์ก็ส่งมาว่าบ้านหลังนี้จะขายทอดตลาดจะยึดแล้วนะ คุณไม่ได้ส่งมา2 ปีแล้ว จะประมูลขายวันที่25 พฤษภาคม2566 ซึ่งตอนนั้นเรารับรู้ประมาณเดือนมีนาฯ ก็มีความรู้สึกว่าเราจะไปอยู่ไหนกัน ไม่เป็นไรถึงเวลามันคงต้องไป แต่เงินเหลืออยู่5,000 ทำยังไง” เคยกิน “หมูยอทอด” เป็นอาหารของเวียดนามซึ่งคนเวียดนามที่ไปอยู่ จ.สกลนคร เขาเอามาเสียบไม้แล้วเขาก็ทอดขาย กินกับน้ำจิ้มแบบน้ำจิ้มลูกชิ้นยืนกินซึ่งมันอร่อยมาก เป็นความทรงจำของตนเองในตอนเด็ก ๆ ที่ยังจำได้“เราจะขายอย่างนั้น ไอเดียนั้นมันผุดมาแล้วมันง่ายด้วยนะ! ก็มาแปลงโฉมของ “ไก่ยอ” ใหม่แต่เราทำน้ำจิ้มลูกชิ้นยืนกินไม่เป็น แต่เรามีสูตรดีก็คือตัวนี้เราทำได้อร่อย”
เปลี่ยนสู่เมนูใหม่ “ไก่ยอจิ้มแซ่บ” จากทุนก้อนสุดท้าย “5,000”!!!
ครูภาพบอกว่า นอกจากต้องขอบคุณลูกค้าตลาดมีนบุรีที่ช่วยอุดหนุนมาตั้งแต่วันแรกแล้ว ก็ต้องขอบคุณ “สื่อ” ที่เขามาเห็นคนต่อแถวยาวมาก ซื้ออะไรกัน เขาก็เลยถ่ายคลิปเอาไปลงสื่อโซเชียลต่าง ๆ ให้ด้วย กลายเป็นที่มาของการทำให้มีคนเริ่มสนใจมากขึ้น พอมีคนสนใจก็เป็นจุดหนึ่งที่ครูภาพก็เชื่อว่าหลายคนอยากจะทำแบบครูภาพด้วย “ข้อสำคัญของตรงนี้อยู่ที่อะไร1.น้ำจิ้ม ต้องรสคงที่เอกลักษณ์ของน้ำจิ้มคือ1.ใช้มะนาวสดแท้ 100% 2.รสชาติ คือ3 รสเลย เปรี้ยว เค็ม หวาน อยู่ในนี้ทั้งหมด บางคนบอกว่าไม่เชื่อว่าครูภาพใช้มะนาวสดเพราะมันแพง เป็นไปไม่ได้หรอก ต้องบอกว่าครูโชคดีอีกอย่างหนึ่งพอมีโซเชียลอยู่ในนี้หรือว่ารายการออกไปต่าง ๆ โรงงานมะนาวคอนแท็คมาครูของเราเป็นโรงงานมะนาวแท้สด100% ครูลองก่อนมั้ย ก็ไปดูโรงงานเออมันมีGMP เขาส่งต่างประเทศนะ เขามี อย. เขามีฮาลาล แสดงว่ามะนาวเขาสะอาดพาสเจอร์ไรซ์”
ส่วน “แป้ง” สูตรที่ใช้ทอดครูภาพบอกด้วยเป็นสูตรเฉพาะที่กรอบนาน กรอบทน แล้วอีกอย่างหนึ่งคือ รสชาติไม่ต้องจิ้มกับน้ำจิ้มก็อร่อย“สอนหมดเลยค่ะตั้งแต่การทำน้ำจิ้ม สูตรการทำแป้ง ขั้นตอนการทำน้ำจิ้มยังไงให้อร่อย ทำยังไงให้เก็บได้นาน ทำยังไงให้รสชาติไม่เปลี่ยน สูตรแป้งทำยังไงให้กรอบนาน ต้องผสมอย่างไรทีละขั้นตอน สอนจับมือทำเลยค่ะ สอนที่บ้าน แล้วก็สอนทอด คุมทุกคนดูทุกคนดูแลทุกคน” ตัวนี้คือไก่ยอที่ทอดออกมาแล้ว มีความกรอบนอก-นุ่มใน ข้างในจะนุ่มเพราะเป็นสูตรไก่ยอที่แป้งน้อยอยู่แล้ว เป็นสูตรพริกไทยดำ พอกินกับแป้งกรอบทำให้รสชาติของมันไปด้วยกันได้ดี“แล้วพอไปจิ้มกับน้ำจิ้มยิ่งอร่อยเข้าไปใหญ่ อันนั้นก็คือเป็นความลงตัวของมันซึ่งเราก็ต้องบอกไว้ คุมทุกจุดค่ะ หนึ่งถ้าคุณทอดได้ดี อร่อย กรอบ แป้งทุกอย่างเป็นไปตามที่เราสอน น้ำจิ้ม ครูเชื่อว่าเราไร้คู่แข่ง คำว่าไร้คู่แข่งคือ เราอาจจะเห็นว่าบางสินค้าขายหลายเจ้ามากเลย แต่ของเรามีเจ้าเดียว ทุกตลาดมีเจ้าเดียว จะต้องแข่งกับใครนอกจากแข่งกับตัวเราเอง ทำสินค้าที่ดีมีคุณภาพ ขายของไม่แพง ขายในราคาชิ้นแค่10 บาท ใช้มะนาวแท้ มีให้ทั้งผัก มีทั้งนึ่งมีทั้งแบบทอด ขึ้นอยู่กับแต่ละคนจะไปทำยังไง”
ความอร่อยที่ลูกค้ามั่นใจได้ กำไรการขายของร้านสาขา
รักษาคุณภาพของตัวเอง 1.การทอดให้กรอบ แป้งก็ต้องรักษาคุณภาพ น้ำจิ้มต้องรักษาคุณภาพ“อย่าลดคุณภาพเราใช้ของดีหมดเราใช้น้ำตาลมะพร้าวอย่างดี เราใช้มะนาวสดแท้100% เราใช้กระเทียมที่ต้องบอกว่าใครที่ไปเรียนจะรู้โอ้โหใช้ของดี!แล้วทำไมมาขาย10 บาท เพราะเราอยากให้คนที่เขาไม่มีรายได้หรือคนที่มีรายได้น้อยเขาเข้าถึง ความอร่อยมันต้องเข้าถึงทุกคนได้” เข้าถึงคนทุกเพศทุกวัย น้ำจิ้มไม่ได้เผ็ดจนเกินไป ไม่ได้แบบเอาใจกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เด็กนักเรียนก็กินได้ คนแก่ก็กินได้ ผู้ใหญ่ก็กินได้ คนที่ชอบเผ็ดก็ต้องบอกว่าตรงนี้ขอเป็นรสชาติกลาง ๆ ส่วนภาคไหนที่ต้องการไปปรับสูตร เช่น ต้องการความเผ็ดมากกว่านี้ ต้องการความนัวมากกว่านี้ ครูบอกว่าให้ขึ้นอยู่กับพื้นที่
ราคาจะแตกต่างกันกับคนที่มาเรียนสูตร คนที่มาเรียนสูตรครูภาพจะส่งให้ในราคาเส้นละ 40 บาท แต่ถ้าคนที่รับไปขายทั่ว ๆ ไปจะอยู่ที่ 45 บาท ใน1 เส้นจะหั่นได้ 15 ชิ้น เพราะฉะนั้นต้นทุนของไก่ยอจริง ๆ ที่หั่นเป็นชิ้นแบบนี้สำหรับคนที่มาเรียนสูตรจะอยู่ที่ 2.66 บาท/ชิ้น ส่วนคนที่มารับไปขายจะอยู่ที่3.00 บาท ต่างกัน40 สตางค์/ชิ้น ส่งให้ทั่วประเทศแบบส่งแช่เย็นไป
อายุการเก็บรักษา ไก่ยอถ้าเก็บในช่องเย็นธรรมดา (ตู้เย็น) ไม่ต้องฟรีซแข็ง จะเก็บไว้ได้ประมาณ20 วัน“ไก่ยอมี อย. ชัดเจน มีวัน เดือน ปี ที่บอกการหมดอายุไว้ชัดเจน” ซึ่งไก่ยอจะถูกผลิตแบบสดใหม่ออร์เดอต่ออร์เดอเท่านั้นแล้วส่งมาทันทีจากโรงงานผลิต วันหนึ่ง ๆ ประมาณ500 กิโลกรัม หรือราว1,000 เส้น
กำไรการขายอยู่ที่ประมาณ 50% ครูภาพบอกว่่่า"50%อยู่ที่ตรงไหน? ทำไมถึงกล้าการันตี เพราะเนื่องจากอย่างที่บอกค่ะถ้ารับกับครูภาพหมดทุกอย่าง ครูภาพรวยคนเดียว น้ำตาลก็ต้องรับกับครูนะ แป้งก็รับกับครูนะ ที่อื่นเขาทำอย่างนั้นแต่ครูเคยเป็นสาขาแฟรนไชส์มาแล้ว ครูรู้ว่าความทุกข์ของคนที่ไม่สามารถควบคุมต้นทุนตัวเองได้ ซื้อมันทุกอย่าง ไม่มีทางกำไร”
ถ้าคุณไม่ล้มเลิก คุณไม่มีวันล้มเหลว
ปัจจุบันร้านไก่ยอจิ้มแซ่บของครูภาพมีสาขาที่กระจายอยู่ทั่วประเทศแล้วกว่า 120 สาขา“ก็มีหลายสาขา มีบางสาขาขายไม่ได้ก็มี ด้วยภาวะตลาดด้วยท้องที่ ด้วยพื้นที่ ครูไม่เคยการันตีกับใครว่าซื้อเถอะเรียนเลย! แล้วจะขายได้ครูไม่พูด ให้พิจารณาเอาเองครูบอกแค่ว่า ครูให้ทุกอย่างนะครูให้สูตรหมดครูเปิดหมดทุกเม็ด ไม่มีคำว่ากั๊กสูตรไม่มีคำว่าสูตรครูภาพเอง สูตรคนนี้เอง ทุกสาขาเหมือนกันหมดให้หมดทุกอย่างบอกวัตถุดิบทุกตัว รายละเอียดทุกอันเติมเท่าไหร่ แก้ปัญหาอย่างไรสอนหมดทุกอย่าง ที่เหลือไปช่วยเหลือตัวเองไม่มีใครอุ้มเราได้ตลอดเวลา ครูไปช่วยขายขายดี ครูกลับมาขายไม่ดีเกิดจากอะไร เราต้องวิเคราะห์แต่เชื่อมั้ยคะว่า สาขาร้อยละ 80 เอาว่า 50-60 แล้วกันเนาะสัก 60% นี่ยเ ขาช่วยเหลือตัวเองได้รอด เพราะฉะนั้นใครที่บอกว่าเดี๋ยวลาออกแล้วมาขายครูไม่แนะนำ ลองก่อน! ตลาดเราดีมั้ยตลาดเราอาจจะไม่ได้ดีเหมือนตลาดของครูก็ได้ ทำเลเป็นอันดับหนึ่ง ขายของที่ดีมีคุณภาพ อร่อย ราคาถูก ครูว่ายังไงก็ขายได้”
ครูภาพบอกว่าถ้าคุณไม่ล้มเลิก คุณไม่มีวันล้มเหลว แต่ถ้าคุณทำอะไรคุณก็เลิก ทำอะไรคุณก็เลิก มันคือ “ความล้มเหลว” ที่ไม่เคยทำอะไรสำเร็จ ขนาดครูภาพทำแล้วสำเร็จ หรือมันไปต่อไม่ได้ครูภาพก็ต้องล้มเลิก ครูภาพก็ล้มเหลวในตรงนี้ ครูภาพก็มาเริ่มต้นใหม่ถามว่าท้อมั้ย?“เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ที่ท้อ แต่ถ้าท้อแล้วไง? ใครช่วยเรา ใครจะมาพยุงให้เราเดิน ใครจะมาเอาเงินใส่มือเรา ใครจะมาหาข้าวใส่ปากเรานอกจากตัวเราเอง ลุกขึ้นสู้แล้วต่อสู้กับมัน! เมื่อผ่านมาได้แล้ววันนี้ถ้าพูด ณ ตอนที่ตัวเองยังมาไม่รอด ครูภาพว่ามันจะมีน้ำตาทุกครั้งของความแบบมันใกล้ชิดกับความลำบาก ความแบบรู้สึกตัวเองตกต่ำมากตอนนั้น แต่ ณ วันนี้พูดถึงด้วยความภาคภูมิใจว่า ถ้าไม่มีโควิดฯ ไม่มีเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่มันเกิดขึ้นมา จะไม่มีครูภาพที่ยืนอยู่ตรงนี้มันคือความแข็งแกร่ง! ที่สร้างให้ครูภาพเป็นครูภาพวันนี้” และก็บอกเล่าทุกคนว่า มันทำได้ เราทำได้ แค่อย่าท้อ เมื่อไหร่ก็ตามที่มีปัญหาแล้วเราแก้ปัญหาได้ ครูว่าเราเก่งแล้วนะ แต่ถ้าเกิดว่าเราแก้ปัญหาไม่ได้ไม่ได้หมายความว่าเราไม่เก่ง“ครูภาพจะเป็นคนที่เมื่อตัวเองไม่สำเร็จ จะคุยกับคนที่เขาสำเร็จ เขาสำเร็จด้วยอะไรจะฟัง แล้วทำตาม ทำตามสำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้างไม่เป็นไรแต่จะไม่ท้อหรือเลิกกับสิ่งที่ตัวเองทำ” ถ้าวันนั้นครูภาพท้อแล้วก็อาจจะไม่อยู่ในโลกนี้แล้ว ตัดสินใจตาย ๆ มันไปซะ! แล้วไม่กำเงิน 5,000 ลงตลาด จะมีวันที่ครูภาพพลิกชีวิตกลับมาตรงนี้ไหม มันยิ่งกว่าคำว่าพลิกชีวิต!
ขอบคุณแรงบันดาลใจดี ๆ จากครูภาพ-สุภาพ แนบกลาง เจ้าของแบรนด์ไก่ยอครูภาพ “ร้านไก่ยอจิ้มแซ่บ” แฟรนไชส์น้องใหม่ที่กำลังมีกระแสแรงอยู่ตอนนี้ หากใครสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ โทร.095-889-2144 เพจ: ไก่ยอครูภาพ
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *