ตอนนี้เรารับงานในระดับคอนเสิร์ตต่างประเทศความยากของงานคอนเสิร์ต คือมันมีแค่รอบเดียว! มันมีแค่โอกาสเดียวคือถ้าเกิดความผิดพลาดที่คอนเสิร์ตจบ! ทุกอย่างจบเลยไม่มีคำแก้ตัวไม่มีโอกาสที่สอง! ถ้าบอลลูนตกแต่งมีปัญหาเราเข้ามาแก้ไขได้
พี่ปุ้ม-วรสรวง สมัตถพันธุ์ ซีอีโอ บริษัท Balloon Art เล่าให้ฟังอีกว่า ซึ่งธุรกิจหลักของบริษัทที่ทำปัจจุบันคือ“บอลลูนอัดอากาศ” เพราะด้วยเหตุผลทางด้าน1. มีความปลอดภัย2. ความแข็งแรง สามารถที่จะวางโครงสร้างแบบไหนก็ได้ ขนาดใหญ่เท่าไรก็ได้ แล้วก็อัดอากาศเข้าไป“ซึ่งตัวนี้เราจะเห็นในหลาย ๆ งานไม่ว่าจะเป็น ตามห้างสรรพสินค้าที่ตกแต่งไม่ว่าจะเป็น อินดอร์ เอาท์ดอร์ อยู่บนหลังคาตึก อยู่บนผนัง วางที่พื้น เราจะเห็นหรือแม้กระทั่ง ในคอนเสิร์ตตอนนี้ถูกนำไปใช้เพราะว่าข้อดีของบอลลูนคือมันสามารถเป่า เป่าขึ้นมาให้พองในเวลาที่กำหนดได้ อย่างเช่น ล่าสุดก็จะมีคอนเสิร์ตที่เพิ่งทำไปเป็นบอลลูนขนาด12 เมตร เป็นขาแมงมุม ซึ่งเราเป่าเนี่ยโจทย์ของลูกค้าคือ พอไฟดับ/ช่วงต่อเพลง พอไฟบนเวทีมืดลง-ไฟเปิดขึ้นมา ภายใน20 วินาที คือ ขาแมงมุม8 ขา ขนาดขาละ12 เมตร ต้องขึ้นเต็ม แล้วต้องขยับได้ อันนั้นเป็นคอนเสิร์ตเกาหลีที่ทางบอลลูนอาร์ตทำไป”บอลลูนคอนเสิร์ตเวลาโชว์ขึ้นแล้ว ใช้แค่ช่วงเวลานั้นจริง ๆ ต้องบอกว่าหลายคนจ่ายเงินเป็นล้านเพื่อ “เวลา” ไม่กี่นาที แล้วถ้าคุณไม่สามารถทำไม่กี่นาทีนั้นให้มันสำเร็จ! มันไม่ใช่แค่สูญเสียเงินมันสูญเสียทุกอย่างเลยของลูกค้า แล้วเราก็จะไม่ทำให้เกิดสิ่งนั้นเด็ดขาด“6 นาทีบนเวที เราเทสต์เป็น1000 ครั้ง”
แล้วก็สำหรับงานอื่น ๆ ซึ่งก็ให้ความสำคัญไม่ต่างกันด้วย ยกตัวอย่าง เราไปติดตั้งงานที่ภูเก็ต เช้านี้ลูกค้าบอกลมพายุพัดมาหักเลย! ประมาณนี้“ปกติเราใช้เวลาบางทีก็ 8 ชม./หรือ 3 ชม. ที่จะไปดูให้ที่ภูเก็ต คือเราดูแลในกรณีที่ติดตั้งไปแล้วเกิด accident เราก็ต้องเข้าไปดูเพราะว่าคือเขา เขาไม่ได้ซื้อบอลลูน ต้องคิดอย่างนี้ เขาซื้อสิ่งที่มันปรากฏ เขาซื้อสิ่งที่มัน happening อยู่ตรงนั้นที่มันปรากฏตรงนั้น แล้วมันต้องปรากฏอยู่ตรงนั้น ตามวันและเวลาที่เขาซื้อ”
ประสบการณ์งานติดตั้งระบบ มีครบหมด! ทั้งภาคดิน ที่สูง และทางน้ำ
เริ่มต้นจากการตั้งที่พื้นบอลลูนขนาดใหญ่ก็จะมี “ลม” บนผิวดินที่จะปะทะต่าง ๆ อันนี้เป็น Level 1 จากนั้น Level 2 ก็คือบอลลูนที่จะต้องขึ้นไปอยู่บนหลังคาตึก หรือบนยอดตึก“เพราะว่าลมบนผิวดินเนี่ย มันจะมีอย่างผมยกตัวอย่างของบางห้างฯ ที่ลักษณะโครงสร้างเป็นเหมือนอุโมงค์ลม อันนั้นก็ต้องมาคำนวณว่าลมที่ผ่านเท่าไหร่ คือลมปกติสมมุติหน้ากว้าง ลมผ่านมา10 ส่วนแต่ถ้าพอมันเป็นอุโมงค์ลม มันเป็นท่อที่ลีบลง มันอาจจะเพิ่มขึ้นมาเป็น30-40 เท่าจากลมปกติบอลลูนต้องอยู่ได้ และคำว่าอยู่ได้คืออยู่ได้2-3 เดือนwhatever ตามที่ลูกค้าอยากจะได้” และก็ต่อจากนั้นพอมันยิ่งสูง ลมก็จะยิ่งแรง ต่าง ๆ ก็ต้องมาคิดถึงการจับ/ยึดต่าง ๆ แล้วแม้กระทั่งเราต้องคิดไปถึงworst case ถ้ามันขาด! ถ้ามันเสียหายจากพายุที่แรงสุด มันต้องอยู่บนนั้นนะ!“เราต้องคิด อันที่1 ต้องอยู่ให้ได้ แล้วถ้าอยู่ไม่ได้จริง ๆ ตอนที่เสียหายมันจะอยู่ในสภาพไหน แล้วมันต้องยังปลอดภัยอยู่ เช่นสมมุติผมอยู่บนตึก อยู่บนไพล่อนของห้างฯ แล้วมีรางรถไฟฟ้าถ้าworst case ซึ่งต้องบอกว่ามันไม่ได้เสียหายขนาดนั้นแต่เราต้องคิดเผื่อว่่าถ้ามันขาดมันจะต้องอยู่บนไพล่อน ไม่ใช่กระเด็นไปอยู่ตรงรถไฟฟ้า คือต้องคิดแต่ละขั้นตอน” จากการที่เราจบวิศวะมาเราต้องคิดถึงความปลอดภัย safety come first ก่อนเลย ตั้งแต่ ติดตั้ง จัดแสดง หรือตอนที่มันพัง
ต่อมาจากตึกมาอยู่บนเรือ “งานบนเรือคือก็ต้องขอบคุณลูกค้า คือโจทย์แรกคือขึ้นบอลลูนกลมบนเรือที่วิ่งอยู่บนแม่น้ำเจ้าพระยา
3 วัน3 คืน แล้วจัดแสดงพร้อมกัน4 ประเทศ! ได้ยินโจทย์นั้นก็ขนลุก(หัวเราะ) คือเป็นคนที่แบบว่าไม่รู้บุญหรือกรรม แต่ว่ามันสร้างความสนุก! บนความตื่นเต้น คือลองคิดดูสิว่ามี 4 ประเทศอ้าวแล้วถ้า ประเทศไทยทำไม่ทัน! หรือประเทศไทยทำแล้วมีปัญหา ใช่มันคือประเทศชาติ(หัวเราะ) ฉะนั้นเอ้อเราก็รับงานนี้ แล้วเราก็คิดคำถามแรกที่ปรึกษากับทีมงาน คือ ลมกลางแม่น้ำมันเท่าไร เราเคยได้ยินแต่บนผิวดิน ลองนึกภาพ “ลม” ตรงแม่น้ำเจ้าพระยา ช่วงที่มันกว้างที่สุดอย่าง เพนนินซูล่า โอเรียนเต็ลช่วงนั้นมันไม่มีอะไรบังเลยนะมันกว้าง! มาเต็ม ๆ ว่าง ๆ”เราต้องทำบอลลูน คือต้องบอกว่านอนไม่หลับหลายคืนเพราะเราคิด พอเราทำโครงสร้างบอลลูนเสร็จ แล้วโครงสร้างบอลลูนขนาด10 เมตร สมมุติว่าบอลลูนจบแล้วโครงสร้างแข็งแรงอยู่ได้ ไม่ล้มไม่หัก“มันจะดันเรือวิ่งไปเหมือนเรือใบมั้ยเรือจะควบคุมตำแหน่งได้มั้ย ใช่! เกิดแบบสมมุติพื้นที่ขนาดนี้แล้วมันพาเรือวิ่งเข้าไปหาฝั่ง วิ่งเข้าไปหาสะพานตากสิน หรืออะไร! เรือเขาจะควบคุมความแรงของลมที่ปะทะกับบอลลูนขนาดนั้นได้หรือเปล่า?”
แล้วลูกค้า strict เลยนะว่า15.00 น. ต้องโผล่ตรงนี้17.00 น. ต้องวิ่งผ่านตรงนี้18.00 น.ต้องอยู่ที่นี่19.00 น. ต้องมาจอดที่นี่ ซึ่งทั้งหมดมันถูกstrict ทั้งหมด! มันคือ Show ทุกอย่างมันต้อง Go On ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น “สนุก!(หัวเราะ) สนุก Staff ทุกคนบอกสนุกพี่ ผมอยากไปบนเรืออีก!”
เป็นเทคโนโลยีการผลิต โดยฝีมือคนไทย
พี่ปุ้มบอกด้วย Balloon Art แตกต่าง ทั้งจากบ้านเราเองและก็ต่างประเทศ เพราะบังเอิญเจ้าของบริษัทจบมาทางด้านวิศวกรรมและชอบงานออกแบบด้าน “ศิลปะ” เวลาที่เราออกแบบมันต้องผสมผสานคือ shape ของบอลลูนกับโครงสร้าง มันต้องมาด้วยกัน ไม่ใช่แบบว่าให้คนหนึ่งทำบอลลูนแล้วคุณมาหาทางติดตั้งไม่ได้! โครงสร้างบอลลูนต้องรองรับที่มันจะติดตั้งในposition นี้แล้วแข็งแรงที่สุด แล้วบางครั้งเราต้องมองว่าบางทีอาจจะต้องมีฟังก์ชันที่มันจะต้องหดตัวอย่างรวดเร็ว หรือขึ้นแล้วshape ด้านในมันจะเป็นอย่างไร? มันต้องcombine พร้อมกัน“คือเราไม่สามารถแยกระหว่างให้ทำบอลลูนมาก่อนแล้วประเดี๋ยวค่อยไปคิดถึงโครงสร้างข้างนอก ถ้าเป็นโครงสร้างปกติทั่วไปได้ แต่พอเป็นโครงสร้างพื้นฐานเนี่ยมันต้องถูกคิดพร้อมกัน ระหว่างshape ของบอลลูนกับโครงสร้างข้างใน”แล้วในขณะเดียวกันก็มีพนักงาน ที่อยู่เก่าแก่ของบริษัทแล้วก็ทำงานด้วยกันมาก็สนุกกับบริษัท ผ่านประสบการณ์ที่เราแก้ไขมาเยอะเลยรู้ว่าอันนี้ทำแล้วจะเป็นอย่างนี้ อันนี้ทำแล้วเป็นอย่างนี้ ๆ
หลายชิ้นที่ทีม Balloon Art ลองเองกับมือว่ามัน ขึ้นแบบนี้ มันเป็นแบบนี้ มันอยู่แบบนี้“คือผมต้องบอกอย่างนี้ว่า “บอลลูน” ไม่มีมหาวิทยาลัยสอน วิศวะก็ไม่ได้สอน ใช่! หรือแม้กระทั่งการใช้โปรแกรม3D มาทำบอลลูนมันก็ไม่ได้เป็น shape จริง ๆ ที่เวลามันเป่าแล้วได้”ของเรามีทีมคอมพิวเตอร์3 D ที่แข็งมาก ในขณะเดียวกันพอเราผลิตชิ้นงานต้นแบบบางทีคอมพิวเตอร์มันไม่สามารถทำแล้ว มันละเอียดอ่อนได้ เราก็จะมีห้องเย็บ“ห้องเย็บก็จะมีคุณป้าที่มีอายุ(หัวเราะ) ที่แบบว่าดูแลเรื่องการเย็บ จับรายละเอียดของการเย็บทีละจุด คือเราผสมผสานเทคนิคต้องเรียกว่า เทคนิคการเย็บพื้นบ้าน(หัวเราะ) และก็งานคอมพิวเตอร์กราฟิกชั้นสูง เข้าด้วยกันอันใดอันหนึ่งขาดไม่ได้”พอเย็บเสร็จพอขึ้นเป็นMockup ต้องมีทีมที่เป็นโครงสร้าง โครงสร้าง structure เหล็กขนาดใหญ่มีทีมเชื่อม มีทีมทำขาตั้งที่จะมาจับ/ยึด และดูการประกอบ คิดแม้กระทั่งว่าบอลลูนมันเป่าขนาดนี้แล้วพอหดเก็บ ลูกค้าต้องการพื้นที่เก็บเท่านี้ คุณต้องทำแบบเรียกว่าถอดประกอบเหมือนอิเกียได้ แล้วสุดท้ายต้องอยู่ในกล่อง“เหมือนกับล่าสุดที่พอเราทำเรามีประสบการณ์คือ เดิมเราเริ่มจากการทำงานในกรุงเทพฯ แล้วเราก็ไปติดตั้งต่างจังวัด ไปติดตั้งทั่วประเทศ ซึ่งสุดท้ายเราเรียนรู้ว่าฮึ้ย! เราสามารถทำงานเสร็จน่ะแล้วเราก็ถอดประกอบแล้วแพ็ก แล้วส่งไปต่างจังหวัดแล้วทีมเราก็ไปประกอบ เราก็เลยพัฒนาที่จะทำงานไปต่างประเทศด้วยการ shipment แล้วส่งทีมไปประกอบ”ตอนนี้มันก็เลยเริ่มขยายตลาดไปสู่ตอนนี้ญี่ปุ่นก็ส่งไป สิงคโปร์ก็ส่งไป มาเลย์ก็กำลังเริ่มส่ง มีหลาย ๆ งานที่เริ่มคุยกัน
TOP5 ด้านงานครีเอทีฟ บอลลูนระดับโลก!
“ตอนนี้หลัก ๆ ก็จะมีสิงคโปร์ที่จะมี พาร์ทเนอร์ที่ดูแลการตลาดฝั่งโน้นอยู่ หลัก ๆ คือเราเริ่มปีนี้นะครับและก็มาเลย์เนี่ยเราเริ่มเสนองานกันแล้ว เริ่มคุยงานกันแล้ว คือผมต้องบอกว่าตลาดเมืองไทยเนี่ย ห้างฯ ของเมืองไทยเนี่ยคือ active ที่สุด! ที่สุดในโลกเลยนะคือ เซ็นทรัลฯ คือตลาดห้างฯ เมืองไทยคือมีความขยันที่จะทำevent ต้องบอกว่าสิงคโปร์เองอาจจะปีนึงไม่กี่ครั้งแล้วก็ ผลพวงก็คือเราจะได้รับงานที่มันซับซ้อนขึ้น ยากขึ้น อะไรอย่างเงี้ยครับ ในขณะเดียวกันห้างฯ ต่างประเทศเขาก็มองเห็นว่า เซ็นทรัลพัฒนา ทำแบบนี้ ทำแบบนี้ เขาเริ่มget เข้ามาอย่างนี้ ๆ ในขณะเดียวกันห้างฯ บางประเทศเขาถือหุ้นเมืองไทยก็มีเขาก็เห็นงานเขาก็สั่งเข้าไป”
ถ้าพูดถึงในระดับโลก เมืองไทยประเทศไทยของเรา งานแบบนี้เรามี skill หรือเป็นที่จับตามองของต่างชาติในลักษณะไหนอย่างไรบ้าง?“พูดถึง Creative พูดถึงงานที่ติดตั้ง Installation ที่แบบว่าในด้าน engineering สูง ๆ ผมว่าผมTOP5”แล้วถ้าพูดถึงในโลกนี้งานบอลลูนทำให้เรานึกถึงประเทศไหน อย่างไรบ้าง และก็ประเทศไทยงานบอลลูนของเราอยู่ในระดับใด?“เบอร์ 1ผมก็ว่ายังเป็นญี่ปุ่นอยู่ เพราะว่า detail เขาละเอียดอ่อนมาก ญี่ปุ่นที่พูดถึงก็เป็นบริษัทที่รู้จักกันนะครับ ก็เคยมาจ้างงานเราอยู่บ้าง เราก็จะซึมซับเทคโนโลยีต่าง ๆ บ้าง ซึ่งอันนั้นก็ถือว่าเป็นเบอร์1 นะครับส่วนถัดไปน่าจะเป็น ทางฝั่งยุโรป คือในความละเอียดอ่อนของญี่ปุ่นน่ะต้องยอมรับ เหมือนกับที่บอกว่าเวลาผมไปออกบูธที่ต่างประเทศ เราก็ไปออกบูธที่ต่างประเทศออกงานเหมือนกันอย่างเงี้ย เวลาที่เราขึ้นสัญลักษณ์คือให้คิดเลยถ้างานบอลลูนของเราไปตั้ง Made in Thailand แล้วมีธงชาติไทยอะไรเงี้ย ต่างประเทศยอมรับ เพราะเขามองเมืองไทยว่างานหัตถกรรมเก่ง มีความละเอียด มีความประณีต ไม่ใช่ mass ซึ่งมันเป็น2 จุดยืนของเราก็คือ1. เราเป็นงานครีเอทีฟ เป็นงานระดับงานคราฟท์ แต่ในขณะเดียวกันเราเป็นงานด้านวิศวกรรมชั้นสูงเลยว่า สำหรับงานบอลลูนแล้วในมุมมองผมว่าผมสูงสุดแล้ว”
ถ้าพูดถึง “บอลลูนเป่าลม” บริษัทมี3 แบรนด์ที่ดูแลอยู่ก็คือ1. Art Inflate ซึ่งจะทำเกี่ยวกับstructure บอลลูนเป่าลมที่เป็น customize ปกติแบบนี้ราคาตั้งแต่หลักหมื่นไปเรื่อย ๆ ถึงอาจจะถึงหลักล้าน ก็จะมีหลายราคาเพราะว่าส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ “ขนาด” และก็เนื้อวัสดุ และก็ความยากง่ายของการติดตั้ง และก็ระยะเวลาที่ต้องการให้มันอยู่/แสดงอยู่ เพราะว่ามันต้องมาดีไซน์ด้านความแข็งแรงต่าง ๆ“แต่ว่าทั้งหมดทั้งปวงส่วนใหญ่เราจะเดินเข้าไปคุยกับลูกค้า ผมก็จะไปคุยกับลูกค้าเลยว่าเออเอาจริง ๆ แหละว่ามีbudget อยู่ประมาณเท่าไหร่ไม่เกินเท่าไหร่ แล้วดูว่าผมทำอะไรให้ได้บ้างอะไรอย่างเงี้ย แล้วเราก็มาปรับกันว่ามันมากพอ มากไปหรือน้อยไป อะไรอย่างเงี้ยครับ จนกระทั่งมันสามารถLaunch ตัวโปรเจคต์นั้นออกมาได้” ถัดออกมาอีกอันหนึ่งก็คือจากหลักการของตัว “บอลลูน” เองเรามาขยายฐานซึ่งทำมานานแล้วก็คือ ตัวมาสคอต หลังจากที่ทำบอลลูนได้เราก็เปลี่ยนจากตัวบอลลูนที่เป็นเสียบปลั๊กไฟมาเป็นใช้ “แบตเตอรี่” ต้องใช้แบตเตอรี่ชาร์จเหมือนเพาเวอร์แบงก์ เราก็ชาร์จแล้วก็คนเข้าไปใส่มันก็จะเป็นตัวมาสคอตที่คนเดิน “เพราะว่าอย่าลืมว่า1. เรามีความสามารถด้าน3D นะครับแล้วเราก็มีความสามารถด้านเย็บปักถักร้อย(หัวเราะ) พอเรารวมอันนี้เราก็สามารถทำเป็นคาแรคเตอร์น่ารัก ๆ ออกมาได้”ซึ่งอันนี้ก็จะอยู่ในเว็บไซต์ที่เป็นAir Mascot ตอนนี้ก็ส่งออกไปที่ญี่ปุ่น ส่งออกเกาหลี มาเลเซีย ส่งออกUAE บริษัทก็มีส่งออกไปด้วย
ต่อมาถูกสุด! ก็จะเป็นพวกอุปกรณ์เป่าลม ในแบรนด์ของ Balloon serve ที่เราเห็นเป็น “ท่อผ้า” หน้าปั๊มที่เป็นตุ๊กตาเป่าลมอะไรพวกนี้ ซึ่งจะมีขายทางช้อปปี้ ลาซาด้า ก็จะมีคาแรคเตอร์ต่าง ๆ มีท่อผ้าเป่าลม มีเครื่องสกายทิวบ์ ตัวเครื่องสกายทิวบ์และท่อผ้าทางBalloon Art ก็ส่งออกเหมือนกัน ตลาดก็มีทั้งในและต่างประเทศด้วย
ขอบคุณเรื่องราวแห่งแรงบันดาลใจดี ๆ จาก Balloon Art สุดยอดงานครีเอทีฟฝีมือคนไทยที่เก่งมาก ๆ ไม่แพ้ชาติใดในโลกเลย! สามารถติดตามผลงานได้ทาง www.BalloonArtThai.com หรือสอบถามเพิ่มเติมโทร.081-120-1200, 091-889-9654
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *