ถั่วทอด อาหารกินเล่นที่อยู่คู่คนไทยมาช้านานนับร้อยปี ถือว่าเป็นขนมโบราณที่ไม่ว่าผ่านมากี่ยุคกี่สมัยความนิยมก็ไม่ได้ลดลงเลย ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นเก่า คนรุ่นใหม่ ถั่วทอดเจ้าไหนที่ทำออกมารสชาติดี ก็จะเป็นที่พูดถึง ทำออกมาขายเท่าไหร่ก็ขายหมด อย่างถั่วทอดแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง สมุทรสงครามรายนี้ ไม่รู้อร่อยหรือเปล่า แต่ยอดขายเดือนหนึ่ง 5-10 ล้านบาท
ที่มา ถั่วทอดในกระปุกฝาสีแดงเจ้าแรก
ในอดีตหลายคนจดจำถั่วทอดใส่ในกระปุกฝาสีแดง และวางขายในร้านโชวห่วยแทบทุกร้านกันได้ วันนี้ พามารู้จักกับผู้ผลิตเจ้าแรกว่าเขาเป็นใครมาจากไหน และได้สูตรการทอดถั่วมาจากไหนทำไมผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ความนิยมในถั่วทอดกระปุกฝาแดงก็ไม่ได้ลดลงไปเลย
นายวีรพจน์ งามสนิท กรรมการบริษัท ริชบีน 888 จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายถั่วทอด M.K. (เอ็มเค) ทายาทรุ่นที่สองที่เข้ามาดูแลกิจการถั่วทอดต่อจากครอบครัว เล่าว่า พ่อของผมทำถั่วทอดขายเลี้ยงดูแลครอบครัวมานับถึงวันนี้ มากกว่า 35 ปี ที่มาของการมาทำถั่วทอดเริ่มจากพ่อไปทำงานเป็นลูกจ้าง และมีเจ้านายเป็นชาวจีนด้วยความที่เจ้านายเอ็นดูและเห็นว่าพ่อเป็นคนขยัน พ่อพยายามหาอาชีพเสริมทำในช่วงนั้น คือ มีอะไรพอจะทำได้พ่อก็จะทำเพราะต้องเลี้ยงและดูแลครอบครัวหลายคน เจ้านายชาวจีนก็เลยให้สูตรถั่วทอดกับพ่อ ให้พ่อไปลองทำขายเป็นอาชีพเสริม
ในช่วงแรกพ่อก็เอาสูตรมาให้คนในครอบครัวช่วยกันทำ และก็เอาไปส่งฝากขายตามร้านโชวห่วยในละแวกใกล้บ้าน เอกลักษณ์ของถั่วทอดของพ่อ คือ ใส่ในกระปุกฝาสีแดง ซึ่งลูกค้าชื่นชอบกันมาก ทำมาเท่าไหร่ก็ขายจนหมด เริ่มขยับขยายไปขายพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง พอผ่านไปสักระยะหนึ่งจากทำเป็นอาชีพเสริม เริ่มกลายเป็นอาชีพหลัก พ่อเพิ่มปริมาณการทอดถั่วทุกวัน ก็ยังไม่พอขาย จนผ่านไป 3 ปี พ่อเริ่มเก็บเงินจากการทอดถั่วขายมาเปิดเป็นโรงงานเล็กๆ บนพื้นที่ 3 ไร่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม จนถึงปัจจุบันผ่านมา 35 ปี
การทำโรงงานถั่วทอดในอดีตของคุณพ่อ ด้วยความที่พ่อเป็นเจ้าแรกที่นำถั่วทอดออกไปวางขายตามร้านโชวห่วย พอมีคนรู้จักรู้ว่าพ่อทำถั่วทอดขายและรสชาติดี เค้าก็มาว่าจ้างให้ช่วยผลิต และก็เอาไปขายภายใต้แบรนด์ของตัวเอง ตามจังหวัดต่างๆ แทบจะทั่วประเทศ พ่อเองก็เลยไม่เคยทำแบรนด์ อาศัยรับจ้างผลิตให้กับคนทั่วๆไป ซึ่งกิจการเริ่มขยับขยายเติบโตขึ้นมาเรื่อย ๆ รายได้เพิ่มมากขึ้น เวลาไปไหนและเห็นถั่วทอดในกระปุกฝาสีแดงเราก็รู้สึกภูมิใจว่า สินค้าของคุณพ่อไปวางขายทั่วประเทศ
ทายาทรุ่นที่สอง กับการบริหารกิจการถั่วทอดในตำนาน
นายวีรพจน์ เล่าว่า เมื่อ 7 ปีผ่านมา ตนเองเข้ามาดูแลกิจการต่อจากคุณพ่อ ตัวผมเองเรียนจบด้านการเงินการธนาคาร ได้มารับช่วงต่อกิจการก็นำวิชาที่เรียนมาบริหารจัดการ ต่อยอดธุรกิจให้ตรงกับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย และได้มีการทำแบรนด์ถั่วทอดของเราเองออกมาขายด้วยเป็นครั้งแรก ตั้งแต่พ่อทำถั่วทอดมาก็ขายส่งมาตลอดไม่เคยมีแบรนด์ ครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า ถั่วทอด M.K. ที่ต้องออกมาทำแบรนด์ของตัวเอง มาจากหลายเหตุผล ส่วนหนึ่งมาจากการที่เราโดนก็อปสินค้า มีผู้ผลิตรายอื่นๆ พยายามทำถั่วทอดในกระปุกฝาสีแดงเหมือนกับเราออกมาขาย และตัดราคากันทำให้ราคาในตลาดเสียไปด้วย แต่เรายังคงยึดมั่นที่ราคาเดิม เพราะเราขายคุณภาพ
“ที่ผ่านมาพ่อเคยปรับแพคเกจจิ้งใหม่เป็นฝาสีอื่นๆ ลูกค้าก็ยังไม่ตอบรับ เพราะลูกค้าเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้าจากโรงงานของเราลูกค้าเองก็กลัวว่าถ้าไปซื้อเจ้าอื่นจะไม่อร่อยเท่ากับของเรา ทำให้เราเองก็ยังคงยืนหยัดในแพคเกจจิ้งแบบเดิมมาตลอด 35 ปี และเป็นเหตุผลที่ทำให้เราต้องออกมาทำแบรนด์ด้วย เพราะส่วนหนึ่งลูกค้าจะได้ไม่ต้องไปจดจำที่แพคเกจจิ้ง ที่คนอื่นก็ทำลอกเลียนแบบได้ แต่การทำแบรนด์จะไม่มีใครมาก็อปแบรนด์ของเราได้”
สำหรับจุดเด่นของถั่วทอดM.K. “คุณวีรพจน์” บอกว่า จุดเด่นที่แตกต่างจากสินค้าอื่นๆในท้องตลาด ถ้ามองในมุมของลูกค้าจะมองว่าถั่วทอดก็คือถั่วทอด ไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่ถ้าในมุมของผู้ผลิตเราอยากให้ลูกค้าได้ลองชิมจะได้เห็นถึงความแตกต่าง คนที่เคยกินมาตั้งแต่สมัยอดีต จะบอกได้ว่า ถั่วทอดของเราแตกต่างอย่างไร เป็นเหตุผลที่ยังคงยืนหยัดเป็นเบอร์หนึ่งเรื่องถั่วทอดที่ลูกค้ารู้จักกันในกระปุกฝาสีแดง โดยที่เราก็ไม่เคยสร้างแบรนด์มาตั้งแต่แรก
ถั่วทอดในยุคนี้ อร่อยอย่างเดียวไม่ได้ต้องได้มาตรฐาน
นอกจากนี้ เพื่อสร้างมั่นใจให้กับผู้บริโภค และพ่อค้า แม่ค้าที่รับสินค้าภายใต้แบรนด์ของเราไปขาย ทางเราจึงได้มีการลงทุนเพิ่มปรับปรุงการผลิตเพื่อให้ได้ถั่วทอดที่มีรสชาติอร่อยได้คุณภาพมาตรฐาน สินค้ามีสุขลักษณะที่ดี มั่นใจได้ในการบริโภค โดยปัจจุบันถั่วทอดMK ได้รับมาตรฐานสินค้า ทั้ง อย. HACCP ฮาลาล และเป็นสินค้า OTOP ของจังหวัดสมุทรสงคราม และเรื่องของรสชาติความอร่อยของเราเป็นรสชาติดั้งเดิม และเป็นต้นตำรับ ที่ผ่านมาหลังจากที่ผมได้เข้ามาดูแลกิจการได้พยายามเพิ่มรสชาติใหม่ให้ถั่วทอดของเรา ซึ่งผลตอบรับออกมาไม่ดี ก็เลยต้องยกเลิกไปคนชอบกินรสชาติดั้งเดิม
“ผมเคยถามว่า ทำไมคนถึงชอบกินถั่วทอดแบบดั้งเดิม หลายคนบอกว่ากินชอบเพราะถั่วทอดกินกับอะไรก็อร่อย ภาคอีสานเค้าก็เอาไปกินคู่กับส้มตำ หรือกินเป็นกับแกล้ม ฯลฯ เป็นขนมที่กินได้ตลอดต่างจากขนมอื่นๆ กินตามเทศกาล แม้ว่าจะมีคู่แข่งขนมอื่นๆ ออกมาขายจำนวนมาก แต่ถั่วทอดของเราก็ยังคงขายได้ตลอดยอดขายไม่ตก และในเร็วๆ นี้ ตอบสนองคนเมืองไม่ได้ซื้อสินค้าในร้านโชว์ห่วย เพราะมีแผนที่จะนำถั่วทอดของเราไปวางขายใน เซเว่นอีเลฟเว่น ด้วย”
ในส่วนของยอดขายปัจจุบันรายได้จากการขายถั่วทอดเฉพาะแบรนด์ M.K. มียอดขายประมาณ 5-10 ล้านบาทต่อเดือนในตอนนี้สัดส่วนลูกค้า OEM ลดลงไปเรื่อยเหลือประมาณ 30-40% จากเดิม OEM 100% และที่สัดส่วน OEM ลดลงไป เพราะลูกค้าที่จะมาทำOEM เค้าต้องไปขอ อย. ขอมาตรฐานอื่นๆ ฮาลาล อีกยุ่งยาก ก็เลยเปลี่ยนมาขายถั่วทอดแบรนด์ M.K แทนไปเลยเพราะเราได้มาตรฐานทุกอย่างอยู่แล้ว ลูกค้าไม่ต้องไปทำโลโก้ ทำแบรนด์ใหม่ด้วย
เตรียมนำเครื่องจักรทดแทนแรงงานคนหายาก
ทั้งนี้ ในส่วนของการผลิตถั่วทอด แม้จะเป็นโรงงานผลิตแต่ขั้นตอนการผลิตของเรายังคงใช้แรงงานใช้การทำมือเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีปัญหาในเรื่องของการขาดแรงงานที่มีทักษะ เพราะเป็นงานทำมือขั้นตอนการทำต้องใช้ความอดทนสูงที่จะต้องอยู่กับความร้อนในการทอด ทำให้แรงงานบางส่วนเลือกไปทำงานที่ง่ายกว่า ในอนาคตมีแผนที่จะนำเครื่องจักรมาช่วยในการผลิต เพื่อแก้ปัญหาแรงงานดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ มีปัญหาเรื่องราคาวัตถุดิบมีการปรับราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะถั่วลิสง น้ำมัน แป้ง แก๊สฯลฯ มีการปรับราคาเพิ่มขึ้นตลอด ในขณะที่ราคาขายไม่สามารถที่จะปรับราคาได้ แม้จะได้กำไรที่น้อยลง เพื่อไม่ให้กระทบกับลูกค้า ซึ่งพยายามแก้ปัญหาด้วยการหาแหล่งวัตถุดิบหลัก คือ ถั่ว ที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางเพื่อให้ได้ราคาที่ต่ำที่สุด ทุกวันนี้ เราใช้วัตถุดิบถั่วจากภาคเหนือและอีสานบางส่วนก็นำเข้าถั่วจากอินเดีย จีน เวียดนาม พม่า
ติดต่อ Facebook : ถั่วทอด M.K.
โทร.06-5426-3555
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด