xs
xsm
sm
md
lg

(ชมคลิป) ปูนาพลิกชีวิต! จากวิกฤตจิวเวลรี่ธุรกิจ 30 กว่าปีที่ทำมา วันนี้เปลี่ยนสู่บ้านปูนาราคา 80ล้านแทน!!!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"เมื่อ 5 ปีที่แล้วจิวเวลรี่ดาวน์! ตึกนี้เองที่เลี้ยงปูนาเมื่อก่อนเป็นบ้านที่ทำจิวเวลรี่ คนงานไม่ต่ำกว่า 200คน แต่ ณ ตอนนี้เราเปลี่ยนให้ปูนาอยู่มากกว่า 100บ่อ ซึ่งมันก็ตอบได้แล้วว่าตึก 80ล้าน ถ้าปูนาทำมูลค่าไม่ได้ผมคงไม่ยอมให้มันอยู่ในตึกนี้!"

CRAB HOUSE ซึ่งก่อนหน้านี้เคยเป็นบ้านที่ทำจิวเวลรี่มา ในราคาหลัก 80 ล้านบาท
พี่ศรี หรือคุณศรีเพ็ญ พงศ์ทรัพย์เจริญ ผู้ก่อตั้ง CRAB HOUSE ศูนย์การเรียนรู้ปูนาพระราม 2 เล่าให้ฟังว่า ด้วยความที่ตนเองเป็นคนไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง และก็ข้อจำกัด แค่รู้สึกว่าตนเองมีพื้นที่แล้วพื้นที่มันจะสามารถสร้างรายได้มันได้อย่างไรบ้างซึ่งในตอนนั้นเองแค่เห็นว่าเขาใช้คำว่า “ปูนาเงินล้าน”แสดงว่ามันสามารถสร้างรายได้ ได้แน่นอน! แต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร เห็นคลิปในยูทูบวันพฤหัสฯ พอถึงวันเสาร์ก็ไปเลยไปซื้อมา100 คู่(ปูนาพ่อแม่พันธุ์) โดยที่ว่าตอนนั้นก็ยังไม่ได้มีบ่อไม่มีอะไรเลย แต่ซื้อมาก่อน แล้วเดี๋ยวก็ค่อยมาลงมือทำพี่ศรีเริ่มต้นจากคนในครอบครัวก็ไม่ได้เห็นด้วย คนในสังคมก็ไม่ได้เห็นด้วยกับพี่ศรี เพื่อน ๆ ถามเธอหายไปไหนพักนี้ บอกว่าเฮ้ยฉันมาเลี้ยงปู เธอทำจิวเวลรี่แล้วเธอไปเลี้ยงปูเนี่ยนะ! เธอคิดได้เท่านี้เหรอ”

ปูนาพันธุ์ก้ามหนีบม่วง กำแพง พันธุ์พระเทพฯ
ปูนาน้ำใส และสายพันธุ์ที่ตอบโจทย์ธุรกิจได้
ปูนาน้ำใสของพี่ศรีเกิดขึ้นมาได้เพราะความบังเอิญ จากดั้งเดิมที่เริ่มทำปูนาทุกคนก็จะบอกว่า “ปูนา” มันต้องอยู่ในดิน เพราะว่าตามธรรมชาติของมันจะอยู่ในดิน ซึ่งในช่วงแรก ๆ ก็เริ่มจากบ่อดินก่อน แต่พอเราเป็นบ่อดินก็เริ่มเห็นถึงความไม่สะอาด จากการเดินวนบ่อทุกวัน ๆ มันทำให้รู้สึกว่าถ้าเป็นเราเองจะกินไหมถ้าปูมันสกปรก ประกอบกับในช่วงนั้นการขยายต่อก็ทำไม่ได้เพราะไม่มีบ่อ มันก็เลยเป็นที่มาของบ่อพลาสติก(กระชังบก) ด้วย“จากผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในธุรกิจจิวเวลรี่มา 30 กว่าปี ไม่เคยทำงานหนัก ๆ พอต้องมาขนดินใส่ลงไปในบ่อเนี่ยก็ ค่อนข้างเหนื่อย! วันหนึ่งซึ่งมันก็เหนื่อยมากแล้ว และมันก็เย็นมากแล้วด้วย แต่ปูที่เราต้องการจะใส่ไปในบ่อมันยังอยู่ในกะละมังอยู่เลย เราจะทำยังไง? ก็เลยเอาวะลองใส่มันน้ำใส ๆ ดูปรากฎว่า สิ่งที่มันเกิดขึ้นคือ ปูนาน้ำใสมันพลิกชีวิตพี่ศรีพี่ศรีใส่ปูนาลงไปด้วยความตื่นเต้นในกระชัง แล้วก็นอนลุ้นมันจนถึงเช้า ว่าปูมันจะรอดมั้ย ตี5 พี่ศรีหน้าตาไม่ล้างสิ่งแรกที่ทำคือ วิ่งลงมาดูปูมันยังอยู่มั้ย! ปรากฎว่ามันอยู่แล้วมันมีความสุขกว่าอยู่ในบ่อดินอีก!”

บ่อปูนาน้ำใสของ CRAB HOUSE
ก็พอมันเป็นปูนาน้ำใสเท่ากับเราสำเร็จไปแล้วขั้นหนึ่ง เพราะในปูนาน้ำใสเชื่อมั่นได้ว่าของเราไม่มีพยาธิ และก็ไม่มีสารเคมี หลังจากที่เลี้ยงปูนาน้ำใสแล้วปูนาน้ำใสเริ่มเป็นที่ยอมรับก็มีหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งมหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ ทุนจากองค์กรต่าง ๆ เริ่มเข้ามาขอทำวิจัยปูนาน้ำใสของที่ฟาร์ม “ทำให้พี่ศรีมั่นใจถึงว่าธุรกิจปูนาน้ำใสเนี่ย มันจะสามารถโกอินเตอร์ได้จริง ๆ จะไม่ใช่เป็นคำพูดลอย ๆ “ซึ่งสำหรับปูนาที่พี่ศรีเลี้ยงอยู่เป็นพันธุ์ที่เลี้ยงมาตั้งแต่แรกเริ่มเลย ก็คือพันธุ์ก้ามหนีบม่วง หรือพันธุ์กำแพง พันธุ์พระเทพฯ ชื่อเรียกก็จะตามพื้นถิ่นนั้น ๆ แต่ว่าปูนาทั้ง3 พันธุ์นี้เป็น “พันธุ์เดียวกัน” ซึ่งสามารถที่จะนำมาพัฒนาเลี้ยงในน้ำใสได้ ลักษณะเด่นของพันธุ์นี้ก็คือว่า ตัวใหญ่ ก้ามโต และที่สำคัญคือมี “มัน” เยอะ! เลี้ยงโตได้ง่าย เพราะฉะนั้นการทำธุรกิจคือเราต้องหาสายพันธุ์ที่มันสามารถพัฒนาแล้วตอบโจทย์

บ่อปูนาน้ำใสที่อยู่ในบ้านราคา 80 ล้าน
พลิกชีวิต! จากวิกฤต Jewelry
ด้าน “คุณโซ่-สาริทธิ์ พงศ์ทรัพย์เจริญ”(ลูกชาย) ปัจจุบันรับหน้าที่เป็น MD ของCRAB HOUSE GROUP ก็บอกด้วย“เราทำจิวเวลรี่กันมา ในการที่จุดเริ่มต้นของปูนามันเกิดขึ้นได้ก็คือ จิวเวลรี่บริษัทที่เราส่งออกให้ครับ บริษัทใหญ่ล้ม! ทำให้ไม่สามารถจ่ายเงินเราได้ ปูนาเนี่ยเกิดขึ้นได้ด้วยการที่ไปนั่งรอเพื่อจะเก็บเช็คเขา ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้ต่อมาอีกว่าฮึแค่เนี้ยนะ! อยู่ดี ๆ มันจะเริ่มมาเป็นธุรกิจยังไงวะ! กับการนั่งดูยูทูบเหรอ? มันดูเป็นไปไม่ได้ครับ ใช่!”แต่ว่าหลังจากนั้นอีก6 เดือนมันตอบเราแล้วว่า มันเริ่มมีเค้าของความเป็นไปได้
เฮ้ยทำไมปูนามันไม่ใช่ตัวละบาทสองบาท ห้าบาท เหมือนที่เราคิดแต่มันกลายเป็นตัวละ50ได้!“พอเราเข้ามาจับในธุรกิจจริง ๆWaste ของมันที่มันเกิดขึ้นสามารถเอาไปทำอย่างอื่นได้อีก!พอเอามาเปรียบเทียบกับจิวเวลรี่ในงานที่เราทำออกมา1 ชิ้นน่ะครับwaste เราเสียแน่ ๆ แล้ว10-20% แต่พอเราเทียบกับปูนาที่โอเคมูลค่ามันอาจจะราว ฟ้ากับเหว แต่สิ่งที่มันตอบกลับมาคือไม่มีส่วนไหนที่ต้องทิ้งเลย”

เป็นสายพันธุ์ปูนาที่มีมันเยอะทำให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้
ขั้นตอนที่เริ่มเข้ามาคือมีคนสนใจเยอะมาก “และก็จุดหลักเลยที่มันทำให้ผมต้องเข้ามาทำปูนาจริง ๆ เนี่ยคือ เราเอาเงินปูนาไปเลี้ยงจิวเวลรี่ ครับแล้วมันเลี้ยงมา2 ปีได้ จนมันทำให้ผมรู้ได้ว่าถ้าอยู่ในธุรกิจจิวเวลรี่ต่ออย่างเงี้ย เราเหมือนดึงสายป่านตัวเองครับ ซึ่งถ้าวันหนึ่งมันตึงเกินมันก็ขาด!”

ปูดองของ CRAB HOUSE ที่รับรองว่าปลอดพยาธิและปรสิตต่าง ๆ
สู่วัตถุดิบคุณภาพ จากฟาร์มเลี้ยงที่มีมาตรฐาน
CRAB HOUSE GROUP มีทั้งแกร๊บเฮ้าส์ฟาร์ม และแกร๊บเฮ้าส์ฟู้ดส์ ในส่วนของการเลี้ยงอย่างตัวฟาร์ม “ปูนา” ที่เราเลี้ยงขึ้นมาจนได้อายุ 3 เดือน ที่เราต้องการจะเอามันไปแปรรูป ตัวไหนที่มันโตสมบูรณ์ “8 ขา2 ก้าม” ก็จะเลี้ยงต่อไปเป็นพ่อแม่พันธุ์ให้อาหารต่อ แต่ตัวไหนที่ไม่สมบูรณ์แล้วที่อาจจะพิการไปเพราะถูกกัด-กัดกันเอง ก็จะแยกออกไปเพื่อแปรรูปฉะนั้นเราจะใช้ได้ทุกเดือนตั้งแต่เดือนที่ 3จับออกมาปุ๊บเอาตัวที่ไม่ดีไปแปรรูป ตัวที่ดีก็ให้โตต่อไป เดือนที่ 4 จับที่ไม่ดี/พิการเอาไปแปรรูป ตัวดีโตต่อ ทำอย่างนี้จนถึงเดือนที่ 8 จนถึงเดือนที่10 ที่มันเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้แล้ว หลังจากนั้นพอเราจับขายพ่อแม่พันธุ์ที่ได้ราคาแล้ว หลังจากนั้นตัวพิการล่ะทำยังไง เราก็ทำเหมือนเดิมเลยครับ ซึ่งผมก็แค่หาpain point ของมันว่าทุกผลิตภัณฑ์ของทุกไซส์ที่เราทำ เราจะเอาไปแปรรูปทำอะไรอีก แค่นั้นเอง” ซึ่งตอนนี้เราก็เลยมีทุกผลิตภัณฑ์ออกมารองรับปูในทุกขนาด/ไซส์ ของทุกเดือน และมันก็ตอบกลับมาทำให้สามารถรับปูนาของลูกฟาร์ม ได้ทุกไซส์ทุกขนาด รับซื้อเป็นกิโลฯ โดยที่คุณไม่ต้องคัดอะไรมา ทางเราสามารถคัดเลือกได้เองว่าเราจะไปทำอะไร

และด้วยความที่เราคัดสินค้าแบบ 1 : 1 ก็คือว่าจะ “คัดทุกตัว” ซึ่งพอคัดแบบนี้เลยทำให้สามารถเลือกได้ว่า ปูที่มันดีที่สุดจริง ๆ จะเอามันไปลงกระปุกทำ “ปูดอง” ที่ทุกคนสามารถเห็นแล้ว wow! เหมือนเป็นปูเกรด “ซาซิมิ” เลยสามารถทานสดได้คู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ด โดยไร้พยาธิ ปลิง สารเคมี และก็ปรสิตต่าง ๆ ทุกอย่างที่คนกลัวจะไม่มีเลย!“ซึ่งผลิตภัณฑ์ของเราทุกอย่างปลอดปรสิต ปลิง และก็สารเคมี100% ซึ่งถามว่าแล้วเรามั่นใจได้อย่างไร เรามีทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทานำตัวปูนาของเราเนี่ยครับ ไปเทสต์ทุก ๆ6 เดือนเพื่อเช็กควบคุมมาตรฐานของเรา เพราะตอนนี้เราได้มาตรฐานตัวที่เรียกว่า มกษ.7436 จากกรมประมง”


ปูดอง และเมนูใหม่พร้อมทาน
ปูดองในตลาดส่วนใหญ่ ใช้เกลือในการดองกับปูดองในน้ำปลากวนก็ตามแต่ จะไม่ได้ใช้ “ความเย็น” เกินลบ20 องศาในการจัดเก็บ และการจัดส่ง ทำให้สินค้าบางทีที่ส่งถึงมือลูกค้าแล้ว เกิดความเสียหาย และก็ไม่สด“แต่ของเรากลับกันคือเรามีห้องเย็นในการจัดเก็บ ซึ่งห้องเย็นที่เราใช้เนี่ยลบเกิน20 องศา ทำให้มันมีผมเรียกว่าผลพลอยได้แล้วกัน ทำให้พวกพยาธิที่มันไม่มีอยู่แล้วแต่ต่อให้มันมี มันก็ตายในความเย็นเท่านี้ มันก็ตายในอุณหภูมิเท่านี้อยู่ดี รวมไปถึงการจัดส่งที่เราส่งถึงมือลูกค้า เราก็ส่งแบบควบคุมอุณหภูมิที่เป็นแช่แข็ง”

ผลิตภัณฑ์โดยหลัก ๆ เลยก็คือจะเป็นตัว “ปูดอง” ที่ไม่พอขาย ด้วยปูนาของที่นี่มันติดตลาดแล้วมันมีจุดเด่นของมันหลายอย่าง
ไม่ว่าจะเป็น รสชาติ ความสะอาด รวมไปถึงการจัดส่งที่มั่นใจได้แบบ100% ว่าของสด“ผมก็พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาให้มันมากกว่านั้นว่า แล้วปูนามันจะมาอยู่ในชีวิตประจำวันของคนยังไงที่ ไม่กินปูดองไม่กินส้มตำ แต่อยากกินปูนา ใช่ มันทำให้เรากำเนิดออกมาตอนนี้3 เมนูหลัก ๆ ที่คนงงว่า มันทำได้เหรอวะ เพราะคนยังไม่เชื่อว่าปูนามันมีเนื้อครับ แต่ตอนนี้ผมสามารถบดเอา “เนื้อ” ของปูนาออกมาให้ท่านได้ทานได้แล้ว ในเมนูไม่ว่าจะเป็น ลาบปูนา หรือน้ำยาปูนา(น้ำยาขนมจีนปูนา) ซึ่งปกติจะเจอแต่ปูทะเลที่เนื้อมาเป็นก้อน ๆ ใช่มั้ยครับ ผมเชื่อว่าเราเป็นเจ้าแรกที่ทำน้ำยาปูนา แล้วก็จะมีตัวสุดท้ายที่คนคิดถึงปูนาก็คือ “หลน” สร้างเมนูนี้ขึ้นมาเพื่อให้สำหรับคนที่หาทานยาก เราก็เลยทำออกมาในรูปแบบที่ เพียงแค่ฉีกซองแล้วเวฟ3 นาทีพร้อมทาน มาในรูปแบบของแช่แข็ง/โฟรเซ่นแล้ว”


ขยายตลาดสู่ vender “ร้านอาหาร”
นอกจากที่แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ออกมาแล้ว ก็ยังเป็นพาร์ทเนอร์และเป็นvender หลักให้กับทางร้านอาหารต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ส.ขอนแก่น หัวปลาช่องนนทรี แซบอีรี่ ร้านแสนแซบ(คำพูน) ตอนนี้ใช้ปูนาของที่นี่ส่งให้ ร้านเหล่านี้จะแคร์เรื่องของ “ความสะอาด” มาก ไซส์ก็จะต่างกันไปในแต่ละเจ้า ซึ่งก็จะมีตั้งแต่ 30-40 ตัว/กก. จะมีทั้งในรูปแบบ “ปูสด” และก็ “ปูนึ่ง” ที่ทางร้านใช้ส่วน order มีทั้งทุกวีคกับทุกเดือน ซึ่งบางเจ้าที่เป็นเดือนก็จะสั่งหลัก 100 กก.ขึ้น บางเจ้าที่เป็นวีคก็จะสั่งหลัก50 กก.30 กก.แล้วแต่ ซึ่งล่าสุดมีร้านในปั๊ม ปตท. ชื่อร้าน “ตำปากเปิด” อันนี้จะส่งทุก3 วัน ด้วยความที่อยู่ใกล้ ฉะนั้นแถวพระราม2 สาขาพระประแดง ก็จะใช้ของทางเรา

“เวลาที่เรามองเนี่ย เราไม่ได้มอง3 ปี5 ปี เรามองไปถึงลองเทอมเลยว่า ปลายทางของมันคือตรงไหน เหมือนที่เรามองCRAB HOUSE ว่า เราจะไม่ได้อยู่แค่ในประเทศแต่ CRAB HOUSE จะต้องไปสู่ระดับโลก ฉะนั้นvender หรือคนที่จะมาร่วมมือกับเราหรือเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา ก็ต้องพร้อมที่จะไประดับโลกกับเรา มาตรฐานจะต้องสู่สากลเหมือนกันใช่ครับ”


ออนไลน์ขายดีมาก! แต่ของมีไม่พอ
ผลิตภัณฑ์ตอนนี้หลัก ๆ จะขายผ่านออนไลน์ เพราะว่าลดต้นทุนในเรื่องของหน้าร้านและก็ทำให้คนเดี๋ยวนี้การซื้อของออนไลน์เป็นเรื่องปกติ โดยเจาะตลาดนี้มานานกว่า2 ปีแล้ว หลัก ๆ จนทำให้มีออร์เดอต่อวันอยู่ประมาณสัก100 ออร์เดอเป็นต้นไป ซึ่งก็ทำให้รู้สึกวางใจกับตรงนี้แล้วและก็เริ่มไปทำเพิ่มในเรื่องพาร์ทเนอร์ของ “ร้านอาหาร” ต่าง ๆ ด้วย ก็พยายามเจาะในส่วนนี้อยู่ว่าความตั้งใจคืออยากจะเปลี่ยนให้คนเลิกทาน “ปูแสม” ที่ใช้กันอยู่ในร้านส้มตำปัจจุบันนี้ด้วยการที่เรามีลูกฟาร์มในการช่วยเลี้ยงส่งเสริม เรามีทาง สวก.ที่จะมาช่วยในการส่งเสริมด้านการเลี้ยง ช่วยกันคิดโนฮาววิธีการเลี้ยงที่มันดีกว่านี้ ได้ผลลัพธ์ที่มากกว่านี้ ซึ่งตอนนี้ปูนาที่เราเลี้ยงมาเนี่ย 4-5 ปี เราต้องการคนผลักดันเรื่องนี้เหมือนกัน ใช่ซึ่งมันก็จะมาตอบว่าทำยังไงให้ปูนามันพอขาย เพราะตอนนี้ตลาดที่ผมมองเนี่ย“ต่างประเทศ” แน่นอนว่ายังไงวันหนึ่งต้องไป เพราะเราบอกว่าเราต้องการจะไปแบบสากลถูกไหมครับระดับโลก แต่ที่มันติดอยู่คือปูนามันไม่พอออก!”เคยมีเกาหลีบินมาสนใจมากซื้อเลย 200 กก. บอกให้ทางCRAB HOUSE ส่งไปให้ แต่condition เดียวที่อยากได้คือ “ปูเป็น” (มีชีวิต)ซึ่งเขาก็กล้าเสี่ยงกับเราเลยว่า คุณทดลองเลยด้วยวิธีการของคุณที่คุณจะส่งมาได้ ยังไง? แต่มันก็ยังไม่ประสบความสำเร็จต้องบอกอย่างงี้ว่า ส่งไปมันดันไปติดทางคาร์โก้ของฝั่งโน้นซึ่งมันใช้เวลาการเคลียร์ถึง 2 วัน ส่งจากเราไป1 วัน ติดเขาอีก2 วัน ทำให้ปูเราอยู่ถึง3 วันทำให้ออกซิเจนไม่พอที่ใส่เข้าไป เรียบร้อยเลยครับ ตายหมด!”

เมนูหลนปูนาที่รสชาติดีมาก ๆ

เมนูใหม่จากปูนาที่ง่ายแบบพร้อมทานเพียงฉีกซองแล้วเข้าเวฟ 3 นาทีก็ทานได้เลย
ตั้งเป้าสู่ธุรกิจ ปูนา 1000 ล้าน!
คุณโซ่-สาริทธิ์ ยังบอกด้วยว่า แฟนคลับของ CRAB HOUSE เหนียวแน่นมาก ๆ ด้วยรีวิวซึ่งมีเยอะจริง แล้วก็ส่วนใหญ่ที่รีวิวคือลูกค้าซื้อไปและรีวิวให้เองด้วย แล้วก็หลาย ๆ คนเป็นคนดังก็เลยทำให้มันมีกระแสตอบรับเข้ามาเรื่อย ๆ เพราะว่าเรามั่นใจอย่างหนึ่งคือ เรื่องปูนาต้องCRAB HOUSE เลย เพราะว่าเราใส่ใจแล้วก็มั่นใจ และเราก็พยายามพัฒนาในทุก ๆ อย่าง

“ทุกวันนี้ปูนาก็เป็นธุรกิจหลักครับ แทนที่จิวเวลรี่ไปแล้วเป็นเวลา2 ปีได้แล้วครับที่เราเลือกปูนา แล้วก็เลือกที่จะพัฒนาปูนา แล้วผมก็ยังมองเห็นมันการเดินทางได้อีกไกลเลยครับสำหรับปูนาเนี่ย แต่กลับกันกับจิวเวลรี่โอ๋ยทั้งความเครียดที่ทำให้เราเจอตอนนั้น มันทำให้มุมมองมันไม่เห็นครับ พอมันไม่เห็นมุมมองเนี่ยมันก็ไม่เห็นทิศทางที่มันจะเดิน แต่ตอนทุกวันนี้! ความสบายใจมันพลิกกัน มันทำให้เรามีเวลาที่จะคิดมากขึ้น และก็มองเห็นมุมมองมากขึ้นว่า มันควรจะไปในทิศทางไหน ถ้าส่วนตัวผมเองผมก็มั่นใจกับมัน100% แล้ว ว่ามันไปได้แล้วมันก็เติบโตได้อีกไกล และก็1000 ล้านนี่ไม่ได้โม้ครับ คิดว่ามันทำได้ไม่ได้เกินความสามารถของปูนา”

สำหรับCRAB HOUSE ศูนย์การเรียนรู้ปูนาพระราม2 ตั้งอยู่เลขที่15 ซอยอนามัยงามเจริญ33 แยก1 เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ หรือสอบถามเพิ่มเติม โทร.062-974-5647 FB : CRAB HOUSE ศูนย์การเรียนรู้ปูนาพระราม2



* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น