จากรุ่นยายสู่รุ่นหลาน! ต่อยอด “เต้าหู้โฮมเมด” แจ้งเกิดใหม่ในช่วงโควิด พลิกชีวิตจนขยายแฟรนไชส์ทั่วประเทศ

จากธุรกิจเล็กๆ ของคุณยายส่งต่อมายังรุ่นหลานสำหรับ “เต้าหู้โฮมเมด” Pim Tofu ที่แจ้งเกิดใหม่ในช่วงโควิด-19 และต่อยอดมาจนสามารถเปิดเป็นหน้าร้านพร้อมขยายแฟรนไชส์ไปทั่วประเทศ สร้างจุดขายด้วยรสชาติที่แตกต่าง เติมความพิเศษด้วยการสร้างสีสันจนกลายเป็นเต้าหู้ทอดสีรุ้ง

นางสาวรุ้งพราย เจ้าของธุรกิจเต้าหู้โฮมเมด pim tofu เล่าว่า ย้อนเวลาไปเมื่อประมาณ 20 ปีก่อนคุณยายของเธอได้ทำเต้าหู้ขาย โดยเป็นธุรกิจขนาดเล็กๆ ทำกันเองในครอบครัวและถูกส่งต่อมายังรุ่นลูกซึ่งเป็นรุ่นคุณแม่ของเธอ ซึ่งเธอเองก็เติบโตมากับการทำเต้าหู้ขายมาตั้งแต่เด็กจนโตและได้มีโอกาสนำเอาเต้าหู้ของที่บ้านไปทอดและให้เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยเดียวกันได้ลองกินอยู่หลายครั้ง ต่อมาเมื่อเธอเรียนจบก็ได้มีการทำตามความฝันด้วยการเปิดร้านกาแฟแต่ความฝันต้องจบลง เนื่องจากธุรกิจร้านกาแฟไม่สามารถไปต่อได้ ซึ่งระหว่างทางเธอก็ได้ทำงานหลากหลายรูปแบบ และในช่วงหนึ่งของการทำงานเธอได้ผันตัวเองมาขายอาหารในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งและได้นำเอาเต้าหู้ของที่บ้านมาทอดขาย เป็นอีกหนึ่งเมนูขายควบคู่ไปกับเมนูอื่นๆ ซึ่งเต้าหู้ทอดนั้นขายดีกว่าอาหารหลักที่เธอทำขาย แต่ก็ต้องมาปิดร้านไปเพราะโควิด-19 ระบาดหนักในไทย

หลังจากโดนโควิด-19 เล่นงานทำให้เธอตกงานและต้องอยู่บ้านเฉยๆ ไปกว่า 2 เดือน แต่กลายเป็นจุดเปลี่ยนให้เธอคิดทบทวนว่าจะต้องทำอย่างไรให้มีรายได้เข้ามา ทำให้เธอนึกถึงเต้าหู้ที่เคยทำขาย เมื่อนึกได้ดังนั้นเธอก็เริ่มกลับมาทำเต้าหู้ทอดขายและจัดส่งแบบเดลิเวอรี่ โดยมีการนำสินค้าไปโพสต์ในกลุ่มขายอาหารต่างๆ และจัดโปรโมชั่นให้กับสินค้า โดยเธอเผยว่าโพสต์ขายเต้าหู้ทอดในกลุ่มขายอาหารวันแรกมีลูกค้าสั่งซื้อเข้ามา 25 รายและหลังจากนั้นก็ได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเธอเริ่มคิดที่จะขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้นด้วยการเปิดหน้าร้านนั่นเอง

ถึงกระนั้นการเปิดหน้าร้านและขายเต้าหู้ทอดธรรมดาก็อาจจะไม่ดึงดูดลูกค้ามากนัก เจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า ตอนเด็กเธอมีความฝันว่าอยากมีเต้าหู้ที่เป็นสีรุ้ง บวกกับชื่อของเธอที่ชื่อรุ้งพรายทำให้เธอนำเอาความฝันวัยเด็กมาต่อยอดให้เต้าหู้ทอดธรรมดากลายเป็นเต้าหู้ทอดที่มีสีสันน่าสนใจมากขึ้น ท้ายที่สุดเธอก็ได้มีเต้าหู้ทอดหลากหลายสีและเปิดหน้าร้านสำเร็จในที่สุด ปัจจุบันเปิดร้านมาได้ประมาณ 3-4 ปี

สำหรับเต้าหู้ทอดของทางร้านนั้นจะเป็นเต้าหู้ที่ทำมาจากถั่วเหลือง 100% ซึ่งถั่วเหลืองที่นำมาผลิตนั้นจะเป็นถั่วเหลืองที่คัดเกรดและมีคุณภาพที่ดี สาเหตุที่ต้องเลือกถั่วเหลืองที่ได้คุณภาพและเกรด A นั้น เพราะว่าถ้าหากเป็นถั่วเหลืองทั่วไปจะมีอายุการเก็บรักษาค่อนข้างน้อย แต่เมื่อเป็นถั่วเหลืองคุณภาพดีเกรด A จะสามารถยืดอายุได้นานมากขึ้นประมาณ 25 วันในตู้เย็นโดยไม่ต้องใส่ช่องแช่แข็ง

ปัจจุบันเต้าหู้ทอดของทางร้านมีทั้งหมดประมาณ 10 รสชาติและเป็นรสชาติที่ได้มาจากพืชผักธรรมชาติ ได้แก่ งาดำ แครอท ฟักทอง อัญชัน เห็ดหอม มันม่วง สาหร่าย กุยช่าย และออริจินัล หรือ ถั่วเหลือง 100%

ทั้งนี้จุดเด่นและความพิเศษของเต้าหู้โฮมเมดนั้น เจ้าของร้านเผยว่าถ้าหากคนที่ยังไม่เคยลองกินจะดึงดูดด้วยสีสัน เนื่องจากพืชผักที่นำมาเป็นส่วนผสมนั้นมีสีเฉพาะตัว ทำให้เมื่อเวลานำมาผสมเข้ากับถั่วเหลืองก็จะทำให้มีสีสันสวยงามน่าสนใจมากขึ้น ความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือเมื่อเด็กกินแล้วจะไม่ได้รู้สึกว่าเป็นเต้าหู้ที่เคยกินแบบทั่วไป เพราะในเด็กบางคนไม่ค่อยชื่นชอบการกินเต้าหู้มากนัก เนื่องจากเต้าหู้ทั่วไปจะมีกลิ่นเฉพาะทำให้เด็กไม่ค่อยชอบนั่นเอง แต่พอได้ลองกินเต้าหู้ทอดของที่ร้านแล้วทำให้รู้สึกเหมือนกินขนม นอกจากนี้ยังมีน้ำเต้าหู้รสชาติต่างๆ เช่น โกโก้ ที่สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าวัยเด็กได้เป็นอย่างดี ทำให้กลุ่มลูกค้ามีทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มแม่บ้าน กลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ที่กินเจ ทั้งนี้ได้ทำการตลาดและโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางโซเชียลต่างๆ เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าให้เพิ่มมากขึ้น

สำหรับเต้าหู้ทอดนั้นมีการจัดเสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มสูตรเฉพาะของทางร้าน ทำให้มีผลตอบรับจากลูกค้าอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังได้ขยายธุรกิจไปในรูปแบบของแฟรนไชส์และในปัจจุบันมีทั้งหมด 38 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งแฟรนไชส์นั้นเริ่มต้นที่ราคา 30,000-130,000 บาท

นอกจากนี้เต้าหู้ทอดที่ขายนั้นทางร้านจะจัดชุดเซ็ต ราคาประมาณชุดละ 55 บาท ซึ่งลูกค้าจะนิยมซื้อรวมทุกรสชาติมากกว่ารสชาติเดียว เพราะจะได้หลากหลายรสชาติมากยิ่งขึ้น และมีเต้าหู้ที่ให้ลูกค้านำไปทอดเอง

อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการขยายสาขาเพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า โดยตั้งเป้าขยายในพื้นที่กรุงเทพมหานครมากยิ่งขึ้น เนื่องจากทางร้านมีสาขาหลักอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ จึงมีความต้องการขยายไปในโซนภาคกลาง ปัจจุบันในกรุงเทพฯ มีประมาณ 3-4 สาขา ซึ่งลูกค้ามีความต้องการให้ขยายสาขาเพิ่มในกรุงเทพฯ อีกนั่นเอง

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : เต้าหู้โฮมเมด