จากร้านเล็กๆ ใต้สะพานลอยสู่การเป็นเจ้าของและขยายแฟรนไชส์ไปหลายร้อยสาขา 8 ปียอดขายไม่มีตก “ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ต ICEStation” เริ่มต้นจากอาชีพเสริมจนกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ให้ตนเองและสาขาแฟรนไชส์ พร้อมตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ไปยังประเทศเพื่อนบ้านในอนาคต
นางสาวพีรญา ศรีมงคล เจ้าของธุรกิจไอศกรีมสตรอเบอร์รี่เกิร์ต เกล็ดหิมะ แบรนด์ ICEStation เล่าว่า เดิมทีนั้นเธอทำงานเป็นพนักงานออฟฟิศมาก่อนและในช่วงที่เธอมีลูกคนที่ 2 เธอก็มองหารายได้เพิ่มจากงานประจำ โดยเธอได้ไปเจอกับแม่ค้าขายสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตข้างทาง ซึ่งเธอได้เข้าไปติดต่อขอซื้อแฟรนไชส์มาขายบ้างแต่กลับถูกปฏิเสธทำให้เธอกลายเป็นลูกค้าเพียงอย่างเดียว แต่ทว่าเธอก็ได้พยายามลองทำด้วยตัวเองโดยลองผิดลองถูกหลายครั้งและได้นำไปขาย และสถานที่ขายคือบริเวรใต้สะพานลอย ซึ่งเมื่อขายไปสักพักเริ่มขายดี เริ่มมีรายได้จากส่วนนี้มากขึ้นจนสามารถแซงรายได้หลักจากงานประจำ บวกกับมีลูกค้ามาขอซื้อแฟรนไชส์อีกด้วย ทำให้เธอตัดสินใจหันมาลองขายแฟรนไชส์ดูและหลังจากนั้นประมาณ 1 ปีเธอก็ได้ลาออกจากงานประจำหันมาทำอาชีพเสริมเป็นอาชีพหลักจนถึงปัจจุบันได้ประมาณ 8 ปี และเริ่มขายแฟรนไชส์ได้ประมาณ 4 ปี
ไอศกรีมสตรอเบอร์รี่โยเกิร์ตของทางร้านมีจุดเด่นและความพิเศษในส่วนของตัวไอศกรีมจะเป็นเกล็ดหิมะ เนื้อสัมผัสจะไม่ใช่ไอศกรีมเนื้อแบบทั่วไป โดยจะมีความแตกต่างคือเป็นไอศกรีมกึ่งบิงซู กึ่งน้ำแข็งใส และมีความพิเศษอีกหนึ่งอย่างคือสามารถเซ็ตตัวได้นานกว่าไอศกรีมทั่วไปโดยไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ในถังไอศกรีม โดยสามารถยืดอายุได้ประมาณ 3-4 ชั่วโมง เมื่อนำออกไปเปิดร้านขาย และส่วนใหญ่ที่ลูกค้าแฟรนไชส์มารับวัตถุดิบไปขายก็จะขายในช่วงเวลาโรงเรียนเลิกคือช่วงเย็นนั่นเอง
สิ่งที่ทำให้เธอตัดสินใจว่าจะลาออกจากงานประจำและหันมาเอาดีด้านการขายไอศกรีมโยเกิร์ตเต็มตัวนั้น เธอให้ข้อมูลว่าจากการที่เธอได้ทดลองขายเองแล้วสามารถสร้างรายได้ให้เธอได้มากกว่างานประจำ บวกกับอากาศร้อนในประเทศไทย เมนูไอศกรีมโยเกิร์ตจึงตอบโจทย์ทั้งเรื่องการสร้างรายได้และเป็นเมนูที่ตอบโจทย์ลูกค้าในประเทศไทยได้เป็นอย่างดีและยังเป็นเมนูที่สามารถกินได้ทุกฤดูกาล ไม่เพียงแต่ในช่วงฤดูร้อนเท่านั้น เพราะเป็นเมนูที่กินได้ทุกช่วงเวลา
ทั้งนี้จุดแข็งของเมนูไอศกรีมโยเกิร์ตของทางร้านนั้น เจ้าของร้านเผยว่า “ของพี่อร่อย ลูกค้าชมว่าได้รสชาติของผลไม้แท้ๆ ลูกค้ามองว่าได้กินแล้วอยากกินซ้ำ กินแล้วหยุดไม่ได้ อันนี้คือฟีดแบกจากลูกค้านะคะ”
นอกจากนี้วัตถุดิบที่นำมาทำเป็นไอศกรีมโยเกิร์ตนั้นในส่วนของผลไม้ทางร้านจะใช้ผลไม้แช่แข็งทั้งหมด และรับมาจากโรงงานที่ได้มาตรฐานสามารถผลิตและส่งให้กับทางแบรนด์ได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันมีทั้งหมด 9 รสชาติ ผลไม้ 6 รสชาติ ได้แก่ สตรอเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ กีวี่ ลิ้นจี่ เสาวรส มะม่วง และอีก 3 รสชาติได้แก่ โกโก้ ชาเขียวและชาไทย เป็นต้น และรสชาติสตรอเบอร์รี่จะเป็นรสชาติที่ขายดีที่สุดและเป็นเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้าน ส่วนโยเกิร์ตจะใช้โยเกิร์ตแบรนด์ที่เชื่อถือได้เป็นรสธรรมชาติเท่านั้น ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของทางร้านจะมีหลากหลายกลุ่มแต่ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย
ในส่วนของกำลังการผลิตนั้นสามารถผลิตไอศกรีมโยเกิร์ตรสชาติต่างๆ รวมทั้งหมดประมาณ 3,500-4,000 กิโลกรัมต่อ 1 สัปดาห์ และผลิตตามออเดอร์ขายส่งให้กับลูกค้าแฟรนไชส์ก้อนละ 5 กิโลกรัม ราคาแตกต่างกันไป เมื่อลูกค้าแฟรนไชส์นำวัตถุดิบไปขายแล้วนั้นทางแบรนด์จะให้ตั้งราคาปลีกเอง เพราะทำเลในแต่ละพื้นที่ของสาขาจะแตกต่างกัน ราคาก็จะมีความแตกต่างเช่นเดียวกัน แต่ของทางร้านราคาขายหน้าร้านจะมีราคาแก้วละ 25 บาท โดยขายทั้งหมด 2 รสชาติ คือ สตรอเบอร์รี่และบลูเบอร์รี่ ส่วนรสชาติอื่นๆ จะทำในรูปแบบบรรจุใส่ถ้วยและมีฝาปิดราคาถ้วยละ 29 บาท 4 ถ้วย 100 บาท แนะนำสำหรับซื้อกลับบ้าน นอกจากนี้ยังจับคู่ธุรกิจกับร้านข้าวแกงนางงามโดยเปิดหน้าร้านควบคู่กันไปอีกด้วย
ทั้งนี้ในส่วนของการทำการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้านั้นทางแบรนด์จะเน้นโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดยมีเทคนิคในการโปรโมทสินค้าคือการโพสต์ลงในสื่อโซเชียลบ่อยๆ เพื่อให้ลูกค้าได้มองเห็นสินค้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นที่ราคา 4,900 บาท
สำหรับทำเลการตั้งร้านทางแบรนด์แนะนำว่าทำเลหน้าโรงเรียน และตามตลาดแถวออฟฟิศถ้าหากว่าตั้งราคาที่เหมาะสมจะทำให้ขายได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งลูกค้าในกลุ่มของนักเรียนจะชื่นชอบเมนูไอศกรีมโยเกิร์ตค่อนข้างมาก จึงตอบโจทย์สำหรับทำเลหน้าโรงเรียน
ทั้งนี้เจ้าของร้านพูดถึงความรู้สึกในช่วงแรกที่ไปขอซื้อแฟรนไชส์แล้วโดนปฏิเสธกลับมาว่า “รู้สึกดีและขอบคุณเขาที่เขาไม่ขายให้ รู้สึกขอบคุณที่วันนั้นไม่ขายให้เรา ให้เราได้ทำเองเพราะเราจะได้ไม่ต้องรู้สึกผิดว่า เราไปซื้อของเขาแล้วเรามาทำเอง ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ชีวิตพี่เปลี่ยนจากเดิมคือพี่ทำงานออฟฟิศรับเงินเดือนเดือนละ 1-2 หมื่น ใช้ชีวิตเช้า กลางวัน เย็น วนลูปเหมือนเดิม ทุกวันนี้พี่เจอผู้คนพี่ได้รับความขอบคุณจากหลายๆ บ้านที่ทำให้เขามีรายได้เพิ่มขึ้น มีอาชีพเป็นของตัวเอง ทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากแล้วก็ได้กระจายรายได้ให้หลายๆ คน ลูกน้องก็รู้สึกสบายได้ทำงานด้วย ทำให้เรารู้สึกขอบคุณอย่างเดียวเลยไม่รู้จะพูดคำไหน” เจ้าของร้านเผยความรู้สึก
อย่างไรก็ตามทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการขยายกำลังผลิตเพิ่มมากขึ้น โดยการขยายโรงงานผลิตให้แล้วเสร็จภายในปีนี้ เพื่อรองรับและขยายฐานการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า รวมถึงเร่งขอมาตรฐานต่างๆ เพื่อให้ได้คุณภาพมากยิ่งขึ้น และวางแผนขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศโดยเล็งเป้าหมายไว้ในส่วนของประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากมีพาร์ทเนอร์จากประเทศเพื่อนบ้านติดต่อเข้ามาของซื้อแฟรนไชส์จำนวนมาก รวมถึงต่อยอดในส่วนของการเพิ่มรสชาติของไอศกรีมขึ้นมาเพื่อให้เข้าถึงลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ติดตามเพิ่มเติม
Facebook : ICEStation ไอศกรีมสตรอว์เบอร์รีโยเกิร์ต เกล็ดหิมะ
TikTok : icestation
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *