กรอบกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! จากรถเข็นสู่นวัตกรรม “โก๋พลัส” ปาท่องโก๋กรอบทอดสุญญากาศ เจ้าแรกเจ้าเดียวในไทย

เมื่อความต้องการหาเงินในช่วงเรียนทำให้ต้องเอาสูตรปาท่องโก๋ของอาก๋งมาพัฒนาและต่อยอดเป็นธุรกิจที่เริ่มต้นจากการขายด้วยรถเข็นธรรมดา สู่การเป็นสินค้านวัตกรรม แจ้งเกิด “โก๋พลัส” ปาท่องโก๋กรอบทอดสุญญากาศเจ้าแรกและเจ้าเดียวในประเทศไทย ตั้งเป้าการเติบโตอย่างต่อเนื่องเจาะกลุ่มเป้าหมายทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน

มนฑกานต์ อังศิริศักดิ์ ผู้บริหารและเจ้าของธุรกิจปาท่องโก๋อบกรอบ แบรนด์ โก๋พลัส เล่าว่า แบรนด์โก๋พลัสนั้นเริ่มต้นมาจากปาท่องโก๋รถเข็นและต่อยอดมาจนเป็นกลายเป็นปาท่องโก๋นวัตกรรม ซึ่งนวัตกรรมนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ส่วนผสมของแป้งปาท่องโก๋ จากเดิมปาท่องโก๋ทั่วไปจะใช้เวลาในการหมักทิ้งไว้ประมาณ 7-8 ชั่วโมง แต่ของโก๋พลัสด้วยกระบวนการผลิตรูปแบบใหม่สามารถใช้เวลาในการหมักแป้งได้ประมาณ 1 ชั่วโมง ทั้งนี้ทางแบรนด์ตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการของความสะอาดในการทอดปาท่องโก๋ จึงได้มีการนำปาท่องโก๋เข้าสู่กระบวนการทอดสุญญากาศด้วยน้ำมันรำข้าวในอุณหภูมิที่ต่ำ ทำให้น้ำมันที่นำไปทอดนั้นไม่เกิดการเสียหาย ปลอดภัยในการบริโภค ปาท่องโก๋ไม่อมน้ำมันและสามารถยืดอายุการเก็บรักษาได้นานยิ่งขึ้น

“ปาท่องโก๋ของเราไม่จำเป็นต้องรอทอดตอนเช้า ตอนเย็น สามารถพกพาได้สะดวก รับประทานเมื่อไหร่ก็ได้ และที่สำคัญโก๋พลัสของเราพลัสกับอะไรก็อร่อย อยากให้ทุกบ้านมีติดบ้านไว้ คิดอะไรไม่ออกโก๋พลัสได้ทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็นการต้อนรับแขก อาม่า อากง คุณพ่อคุณแม่และเด็ก ปาท่องโก๋ของเรานอกจากเป็นสแน็คแล้วก็ยังสามารถเป็นท็อปปิ้งได้” เจ้าของแบรนด์ระบุ

สำหรับรสชาติและเนื้อสัมผัสของโก๋พลัสนั้นจะมีความกรอบและมีรสชาติปาท่องโก๋ดั้งเดิมแต่เปลี่ยนจากปาท่องโก๋ธรรมดาให้กลายเป็นปาท่องโก๋กรอบทอดด้วยระบบสุญญากาศ ซึ่งนอกจากจะต่อยอดเป็นสแน็คได้แล้วนั้นโก๋พลัสยังสามารถนำไปรับประทานคู่กับเมนูอื่นๆ ได้อีกมากมาย ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ก่อนที่จะผันตัวมาทำธุรกิจปาท่องโก๋ทอดสุญญากาศนั้นเธอเล่าว่า สูตรปาท่องโก๋ของร้านเป็นสูตรของอาก๋งซึ่งเป็นคนจีนที่ได้มาอาศัยในประเทศเมื่อ 70 ปีที่แล้ว และในช่วงที่กำลังเรียนหนังสืออยู่นั้นเธอมีความต้องการที่จะทำธุรกิจเพื่อสร้างรายได้ให้ตัวเอง เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวทางบ้านได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจต้มยำกุ้งในปี 2540 ทำให้เธอนำเอาสูตรมาพัฒนาและเริ่มต้นทำธุรกิจตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบันประมาณ 25 ปี ซึ่งในระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมาได้มีการพัฒนาและต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่อง และปาท่องโก๋เองก็เป็นอาหารที่เคียงคู่คนไทยมาอย่างยาวนานแต่เป็นสินค้าที่หลายคนอาจจะมองข้ามว่าเป็นธุรกิจที่ไม่สามารถเป็นธุรกิจนวัตกรรมและเติบโตไปในระดับโลกได้ จนกระทั่งเธอได้พัฒนาและกลายเป็นปาท่องโก๋ทอดสุญญากาศนั่นเอง

การเปลี่ยนแปลงรูปแบบและกระบวนการผลิตตลอดระยะเวลา 25 ปีที่ผ่านมานั้น ในอดีตจะต้องใช้มือในการผลิต แต่เมื่อเธอได้เข้ามาพัฒนาเธอก็ได้เริ่มนำเอาเครื่องจักรมาทดแทนแรงคน รวมถึงเปลี่ยนสูตรการหมักแป้งปาท่องโก๋จากแป้งหมักมาเป็นยีสต์สด เพราะฉะนั้นจึงเป็นที่มาของการลดเวลาจากการหมักแป้ง 7-8 ชั่วโมง มาเป็น 1 ชั่วโมงแล้วสามารถนำไปทอดได้นั่นเอง นอกจากนี้คุณสมบัติที่พิเศษของโก๋พลัสคือเป็นสูตรโบราณที่ไม่มีแอมโมเนียผสม

“เราแก้ปัญหาให้ผู้บริโภคด้วยการเน้นความสะอาดและปลอดภัยเป็นหลัก เราเน้นความสบายใจให้ผู้บริโภค เพราะคนส่วนใหญ่ไม่กล้ารับประทาน เราคิดค้นนวัตกรรมเครื่องทอดปาท่องโก๋อัตโนมัติเครื่องแรกของโลกเมื่อ 13 ปีที่แล้ว แต่ว่าตอนนั้นเนื่องจากระบบการผลิตยังมีขนาดที่ใหญ่เกินไป แต่เรายังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงนวัตกรรมของแพคเกจจิ้งที่ผลิตภัณฑ์สามารถเก็บรักษาได้มากกว่า 1 ปี” เจ้าของแบรนด์ระบุ

ทั้งนี้ในส่วนของกลุ่มลูกค้านั้นทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่าได้มีการเจาะกลุ่มเป้าหมายไว้เป็นกลุ่มคนทำงานโดยมีอายุเฉลี่ยประมาณ 25-45 ปี ซึ่งกลุ่มลูกค้าเหล่านี้เป็นกลุ่มที่นิยมบริโภคสแน็ค ทางแบรนด์จึงมองว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายที่ตอบโจทย์และตรงตามความต้องการ นอกจากนี้ยังมีกลุ่มแม่บ้านที่ต้องใช้เวลาในการดูแลครอบครัวเป็นหลัก มีเวลาค่อนข้างน้อย ทำให้สินค้าของทางแบรนด์สามารถตอบโจทย์ความต้องการในเวลาที่เร่งรีบได้เป็นอย่างดี

ปัจจุบันมีทั้งหมด 2 รสชาติ ได้แก่ รสออริจินอลและรสใบเตยที่ไม่มีส่วนผสมของสีและสารกันเสีย เพราะฉะนั้นรสชาติใบเตยในตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพัฒนาสินค้า ซึ่งใบเตยที่นำมาผลิตนั้นเป็นใบเตยในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีที่มีความแตกต่างจากพื้นที่อื่น เนื่องจากคนในพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีนิยมปลูกต้นใบเตยใต้ต้นมะพร้าวน้ำหอม ทำให้ใบเตยมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษและเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันสินค้ามีขนาด 90 กรัม ราคา 55 บาท และกำลังเตรียมเปิดตัวขนาด 25 กรัม และมีวางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดอย่าง ท็อปส์ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ รวมถึงกำลังวางแผนต่อยอดในการส่งออกไปยังต่างประเทศอีกด้วย นอกจากนี้กำลังการผลิตนั้นทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่า กำลังการผลิตของโก๋พลัสในตอนนี้อยู่ในระดับกลางเพราะกำลังดำเนินการพัฒนาเครื่องจักร

โก๋พลัสเติบโตมาได้ประมาณ 3 ปี และในปี 2566 เป็นปีแรกที่ทางแบรนด์เปิดตัวผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมการทอดด้วยระบบสุญญากาศในงานแถลงข่าว “นิลมังกร The Reality ซีซั่น 2” เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา รวมถึงมุ่งเน้นในการทำการตลาดในประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านให้รู้จักแบรนด์โก๋พลัสเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการทดลองการตลาด และในช่วงปลายปีนี้ทางแบรนด์จะเริ่มดำเนินการส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ ตั้งเป้าการเติบโตไว้ประมาณ 7-8 เท่าจากเดิมที่มียอดขายประมาณ 1 ล้านบาทต่อปี

อย่างไรก็ตามในอนาคตทางแบรนด์ได้มีการวางแผนต่อธุรกิจให้ไปในทิศทางของการส่งออกไปยังต่างประเทศและพัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพและปลอดภัยต่อผู้บริโภค นอกจากนี้ร้านโก๋พลัสมีหน้าร้าน 2 สาขา ในตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี คือ สาขาสนามกีฬา และสาขาชนเกษม 1 โดยให้บริการขายปาท่องโก๋ พร้อมด้วยอาหารที่นิยมรับประทานคู่กับปาท่องโก๋ รวมถึงบริการติ่มซำ และเครื่องดื่มแนวสภากาแฟที่มีการปรับปรุงสูตรให้เข้มข้นร่วมสมัยขึ้น กลายเป็นร้านที่นิยมของชาวสุราษฎร์ฯ นักท่องเที่ยว และผู้ที่เดินทางมาที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : Koplus ปาท่องโก๋กรอบ