“กระบวการผลิตน้ำนมข้าวโพด เราจะมีวัตถุดิบหลักอยู่ไม่กี่ตัว แต่ตัวเด่นของเราก็คือข้าวโพดหวาน “พันธุ์อินทรี 2” และก็มีตัวปรุงซึ่งก็คือ เกลือกับน้ำเชื่อมแค่นี้เอง การที่มีพันธุ์ที่ดีมีคุณภาพ เราก็เลยได้น้ำนมข้าวโพดที่มีคุณภาพมาให้กับผู้บริโภคของเรา”
คุณเสาวนีย์ พรศิริ เจ้าหน้าที่วิจัย (ชำนาญการ) ประจำส่วนงานผลิต “น้ำนมข้าวโพด” ไร่สุวรรณ บอกว่า แต่ละวันที่ “ไร่สุวรรณ”ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ ม.เกษตรศาสตร์ ตั้งอยู่บนถนนมิตรภาพ(ขาลงกรุงเทพฯ) ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แห่งนี้ ในส่วนของงานข้าวโพดหวานเพื่อการแปรรูปทำ “น้ำนมข้าวโพด” จะมีการผลิตสดใหม่แบบวันต่อวัน ผลผลิตฝักสดที่รับจากลูกไร่เข้ามา จะถูกลำเลียงเข้าสู่กระบวนการผลิตน้ำนมข้าวโพดของไร่สุวรรณทันที โดยที่ข้าวโพดหวานฝักแรกของวันจะเริ่มเข้าสู่กระบวนการที่ประมาณเวลา08.00น.จากนั้นใช้ระยะเวลาในกระบวนการผลิตราว2 ชั่วโมง ก็จะพร้อมจำหน่ายสู่ผู้บริโภคที่แวะเวียนเข้ามาที่ร้านตลอดช่วงเวลากลางวันเปิดให้บริการ โดยต่อวันจะมีการกำหนดปริมาณในการผลิตอยู่ที่ขั้นต่ำ7,000 จนถึง 10,000 ขวด หรือบางช่วงสามารถผลิตได้มากถึง20,000 ขวด/วัน เลยก็มี
หัวใจสำคัญก็คือ ข้าวโพดหวาน “พันธุ์อินทรี2”ที่มีคุณสมบัติเด่นเรื่องความหอม หวาน เปลือกหุ้มเมล็ดบาง(ทานฝักสดจะไม่ติดฟัน) และก็สามารถเก็บไว้ข้ามคืนได้โดยที่ค่า “ความหวาน” ของข้าวโพดพันธุ์อินทรี2 จะยังไม่ลดไป แช่เย็นไว้ในตู้เย็นแบบทั้งเปลือกหรือปอกเปลือกแล้วใส่ในถุงเพื่อเย็นไว้ก็ได้ จะอยู่ได้นานนับสัปดาห์เลยโดยที่ความหวานไม่ลดลง ส่วนอายุการเก็บเกี่ยวของฝักสดที่นำมาใช้ผลิต “น้ำนมข้าวโพด” หลังจากปลูกใช้ระยะเวลาประมาณ 60 กว่าวัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลด้วย ถ้าปลูกหน้าร้อนก็เก็บเกี่ยวที่ 67 วันหรือ 68 วัได้ เป็นต้น ส่วนหน้าฝน หน้าหนาว อายุของข้าวโพดซึ่งปกติเป็นพืชที่ต้องการแสงแดด ดังนั้นช่วงหน้าฝน-หน้าหนาวก็อาจจะทำให้อายุการเก็บเกี่ยวต้องยืดออกไปอีก อาจจะเป็น 80 วันก็ได้ หรือในหน้าหนาวบางปีก็เคยเจอที่ 100 กว่าวันก็มี
สำหรับขั้นตอนต่าง ๆ ของกระบวนการผลิต “น้ำนมข้าวโพด” ไร่สุวรรณ ประกอบด้วย1.)ทำการคัดข้าวโพดหวานฝักสดนำมาปอกเปลือกทำความสะอาด 2.)หลังจากทำความสะอาดข้าวโพดหวานแล้วทำการฝานเมล็ดด้วยมีดหรือใช้เครื่องฝาน 3.)เมล็ดข้าวโพดที่ฝานมาแล้วให้นำมาชั่งน้ำหนัก อัตราการใช้ต้มประมาณ15 กิโลกรัม หรือในสัดส่วน1 : 1 (น้ำ)4.)ต้มน้ำ15 ลิตร (หรือกิโลกรัม) ให้เดือดแล้วนำเมล็ดข้าวโพดที่เตรียมไว้เทลงไปต้มระยะเวลาในการต้ม 12-15 นาที5.)พอต้มครบตามเวลาที่กำหนดแล้ว หรือข้าวโพดสุกดี จากนั้นจึงตักไปใส่ลงในเครื่องปั่นคัดแยกน้ำ และคัดแยกกากออก
6.)หลังจากคัดแยกกากแล้วจะนำน้ำข้าวโพดไปกรองด้วยตะแกรงที่มีความถี่ (หรือกรองละเอียด) อีกครั้ง และการทำการวัดระดับค่าความหวานของน้ำนมข้าวโพด ให้มีระดับความหวานอยู่ที่8 องศาบริกซ์ หรือหากเป็นการผลิตเพื่อบริโภคในครัวเรือนจะใช้ผ้าขาวบางกรองก็ได้ ส่วนความหวานอยู่ที่ความต้องการ7.)ปรุงรสด้วยน้ำเชื่อม และเกลือ(1 ช้อนชา) จากนั้นทำการวัดค่าความหวานที่ไม่เกิน 9 องศาบริกซ์ แล้วจึงนำน้ำนมข้าวโพดที่ได้ไปทำการบรรจุในขวดพลาสติก ปิดฝาให้สนิทส่งไปน็อกด้วยความเย็น(ถังน้ำแข็งที่มีความเย็น 0 องศา) เพื่อช่วยยับยั้งการเติบโตของเชื้อโดยไม่ใส่สารกันเสีย
อายุในการเก็บรักษา(shelf life) ของน้ำนมข้าวโพดไร่สุวรรณ หลังผ่านกระบวนการผลิตมาแล้วพร้อมสำหรับการบริโภค จะสามารถเก็บในที่มีอุณหภูมิความเย็นทั้งแบบแช่น้ำแข็งหรือเก็บในตู้เย็นได้ประมาณ 3 วัน โดยไม่เสียรสชาติ หลังจากนั้นแล้วอาจมีการเปลี่ยนเป็น “แป้ง” ที่ทำให้น้ำนมข้าวโพดมีคุณลักษณะที่เปลี่ยนไป สำหรับการผลิตและการจำหน่ายจะเน้นมาซื้อหรือรับที่ไร่สุวรรณเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันราคาจำหน่าย “น้ำนมข้าวโพด” ไร่สุวรรณ จะอยู่ที่25 บาท/ขวด ส่วนใหญ่ลูกค้าที่แวะเข้ามาซื้อที่ร้านจะเป็นลักษณะของคนเดินทางผ่านไร่ฯ แล้วมักแวะซื้อกลับบ้าน หรือเป็นของฝากด้วย ก็จะมีบริการแพ็กในถุงหูหิ้วที่อัดน้ำแข็งให้พร้อม หากอยู่ในระหว่างของการเดินทางที่ไม่ไกลมากแบบนี้จะช่วยได้ประมาณ2 ชั่วโมง แต่ถ้าเลือกบรรจุอยู่ในถุงเก็บความเย็นหรือใส่ในกล่องลังโฟม(มีค่าถุงหรือลังโฟมเพิ่ม) ที่มีการอัดน้ำแข็งเข้าไปให้อยู่ข้างใน ก็จะเป็นการช่วยยืดอายุในระหว่างการขนส่งหรือขณะที่กำลังเดินทางกลับบ้านได้อย่างไม่มีการบูดเสียเกิดขึ้นด้วย
หรือสำหรับคนที่สนใจอยากจะเรียนรู้ “สูตรการทำ” เพื่อนำไปเป็นอาชีพสร้างรายได้จากน้ำนมข้าวโพด สามารถติดต่อสมัครเข้าร่วมคอร์สการฝึกอบรมกับทาง “ไร่สุวรรณ” ซึ่งก็มีเปิดให้กับประชาชนที่สนใจด้วย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 082-392-1288(ดร.อุทุมพร ไชยวงศ์) ขอบคุณทริปดี ๆ จากชมรมสื่อเกษตรดิจิทัลและเอสเอ็มอีไทยที่นำทีมการอบรมอาชีพในครั้งนี้
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด