Jessie Mum ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพิ่มน้ำนม สร้างอาชีพให้หลายคนได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง รวมถึง สาววัย 25 ปีรายนี้ “นางสาวปนัชภา ห่วงอาษา” (คุณนิ้ง) ที่ต้องเผชิญชะตากรรมหลังจากธุรกิจของครอบครัวโดนโกง เสียเงินและที่ดินรวมเป็นเงินหลายล้านบาทแทบหมดตัว จากชีวิตที่เคยสุขสบาย วันหนึ่งสะดุด เพราะทางบ้านไม่สามารถซัพพอร์ตให้ได้ “นิ้ง”เกือบจะต้องหยุดเรียนช่วงปริญญาตรี แต่ Jessie Mum ทำให้ฝ่าวิกฤตไปได้ จนมีโอกาสแตะเงินล้านภายใน 1 ปี
สำหรับ ตัวแทนขายผลิตภัณฑ์ Jessie Mum มาจากหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ชาย หรือ ผู้หญิง อายุเท่าไหร่ มีประสบการณ์การขายหรือไม่มี ก็ไม่ได้เป็นตัววัดความสำเร็จ ทุกคนที่เป็นตัวแทนจำหน่าย Jessie Mum ต่างก็สามารถสร้างรายได้จนประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน เพียงแค่ตั้งใจ ขยัน ไม่ท้อ และทำต่อเนื่อง เช่นเดียวกับ “คุณนิ้ง” ตัวแทนขาย Jessie Mum มาได้ประมาณ 1 ปี เต็ม โดยเริ่มขายครั้งแรก เมื่อเดือนธันวาคม 2564 เพิ่งครบ 1 ปี เมื่อเร็วๆ นี้ ปิดยอดขายในเดือนมกราคมปี 2566 ไปถึง 2 ล้านบาท
คุณนิ้ง เล่าถึงที่มาของ การก้าวมาเป็นนักขายออนไลน์ Jessie Mum ว่า เริ่มต้นมาจากเดิมตนเองเป็นนักขายออนไลน์ สินค้าที่ขายจะพวกอาหารเสริม แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะมีคนขายกันเยอะมาก การแข่งขันสูง จนได้มาเจอกับ Jessie Mum ช่วยเปลี่ยนชีวิตเลยก็ว่าได้ เพราะเดือนที่สองก็ได้จับเงินแสน พอเดือนที่ 3 ทาง Jessie Mum ได้ตั้งทีมเทเลเซลล์มาช่วยปิดการขาย และบริการหลังการขายให้กับตัวแทน ดันยอดขายเพิ่มเท่าตัว อยู่ที่ 3 แสนบาทต่อเดือน และหลังจากนั้น ยอดขายเพิ่มขึ้นทุกเดือนมาตลอด และได้จับเงินล้าน เมื่อผ่านไป 9 -10 เดือน และเดือนล่าสุดครบหนึ่งปีปิดยอดขายไปกว่า 2 ล้านบาท เป็นความสำเร็จที่เกินเป้าที่ตั้งไว้มาก
“ที่ผ่านมา ได้ขายอาหารเสริมมาก็หลายตัว ไม่ว่าจะเป็นวิตามินหน้าใส อาหารเสริมลดน้ำหนัก เวย์โปรตีน แต่ยอดขายก็ลุ่มๆ ดอนๆ ไม่เคยได้ถึงหลักแสนบาทเลย กำไรประมาณ 10,000-12,000 บาทต่อเดือน สูงสุดอยู่แค่ ไม่เกิน 30,000 บาทต่อเดือน จนแฟนมาเจอโฆษณา Jessie Mum เป็นสมุนไพรเพิ่มน้ำนมแม่ ซึ่งเห็นว่าเป็นสินค้าที่เฉพาะกลุ่ม ซึ่งสินค้าเค้าก็ดีจริงๆ เอาจริงๆ ถ้าบริษัทจะขายเองก็ขายได้ แต่นี้แบ่งปันให้ตัวแทน ช่วยสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับตัวแทนจำนวนมาก และไม่ได้บังคับว่าต้องสต๊อกของเยอะเพราะแต่ละคนก็มีเงินทุนไม่เหมือนกัน”
“สิ่งสำคัญที่นิ้งชอบมากๆ ในการขาย Jessie Mum คือเค้าไม่ใช่ระบบขายตรง ไม่ใช่ MLM ทางบริษัทห้ามอย่างเด็ดขาดและมีระบุในสัญญาว่าไม่อนุญาติให้ตัวแทนจำหน่ายรับสมัครตัวแทนจำหน่าย ข้อดีคือเราได้ขายสินค้าสู่ผู้บริโภคตัวจริง ยอดขายเดือนล่าสุดของนิ้ง 2 ล้านบาทเป็นยอดขายจากลูกค้าจริงทั้งหมด แถมนิ้งก็ไม่จำเป็นต้องมาดูแลตัวแทนที่ต่อจากนิ้ง ดูแลแค่ลูกค้าก็พอแล้ว ซึ่งหลายๆ แบรนด์ที่นิ้งเคยขายเค้าพยายามให้นิ้งหาตัวแทนเพิ่ม กลายเป็นระบบตัวแทนจำหน่ายมีปัญหา เกิดการตัดราคา ดูแลลูกค้าก็เหนื่อยแล้วยังต้องแบ่งเวลามาดูแลตัวแทนที่ต่อเราอีก”
นิ้ง เล่าต่ออีกว่า เธอเองก็ไม่มีทุนเลย เพราะทุนไปจมอยู่ที่สินค้าตัวเก่าที่ขายไม่ได้ ในช่วงแรกลงไปแค่ 13,600 บาท จำนวน 22 กล่อง ขายหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ และก็ไปรับสินค้ามาใหม่ช่วงเดือนแรกทำวนไปแบบนี้หลายรอบ เพราะยังมีทุนไม่พอ จนที่ปรึกษาตัวแทนแนะนำให้เราลงทุนสต๊อกให้เยอะกว่านี้ จะได้ลดต้นทุนได้ พอขายเดือนสอง เริ่มมีเงินที่จะสต๊อกของได้มากขึ้น ต้นทุนก็ลดลง
การเริ่มต้นขายครั้งแรก คุณธีร์ ที่ปรึกษาตัวแทน แนะนำให้เปิดเพจขึ้นมาใหม่ เหมือนเริ่มต้นจากศูนย์ ต้องเริ่มจากฝากขายในกลุ่มที่ขายสินค้าแม่และเด็ก เพื่อให้คนเข้ามาติดตามเพิ่มขึ้น พร้อมกับการยิงแอดโฆษณาตอนแรก ใช้งบยิงแอดวันละ 900 บาท ซึ่งได้ผลดี หลังๆ เริ่มมีทุนเยอะขึ้น ก็จะมีเงินลงทุนยิงแอดได้เยอะขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น การยิงแอดในครั้งแรกอาจจะมองว่าแพง แต่ถ้าเฉลี่ยลูกค้าที่มาซื้อซ้ำ ลูกค้าที่ซื้อซ้ำเหมือนไม่มีต้นทุนค่าแอด ตรงนั้นเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน มีลูกค้าใหม่ประมาณ 70% ลูกค้าเดิมประมาณ 30%
นิ้ง เล่าว่า รายได้ที่ได้มา ส่วนหนึ่งนำไปใช้หนี้ให้กับครอบครัวประมาณ 700,000 บาท ตอนนี้ครอบครัวก็หมดหนี้ไปเยอะมากแล้ว ชีวิตของครอบครัวก็ดีขึ้นเรื่อย หลังจากนี้ เงินที่ได้ก็นำมาเป็นเงินลงทุนขยายในกิจการ Jessie Mum อีกต่อไป เพราะยังมีหลายช่องทางออนไลน์ที่ยังไม่ได้เข้าไปขาย เชื่อว่า ถ้าสามารถขยายไปในช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่การขายหน้าเพจเฟซบุ๊ก จะช่วยสร้างยอดขายให้เราได้มากกว่านี้ เพราะทุกวันมีแม่ที่คลอดลูกใหม่ๆ ทุกวัน และ ปัจจุบันมีแม่ที่ปัญหาเรื่องการให้นมลูกเยอะมาก โดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าท้องคลอด น้ำนมจะมาช้า ก็ต้องกระตุ้น พอเค้ากิน Jessie Mum กระตุ้นให้น้ำนมมาเร็วขึ้น และเยอะขึ้น