สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง ลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการวิชาการการจัดการความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชน มุ่งเน้น 3 ด้านคือ การเกษตร การบริหารจัดการน้ำ และการพัฒนากำลังคน นำร่องด้วยฐานข้อมูลด้านคุณภาพน้ำประปาที่มีการปนเปื้อนฟลูออไรด์ โลหะหนัก และสารเคมีตกค้างด้วยนาโนเทคโนโลยี ในโรงเรียนพื้นที่ลำปางกว่า 100 แห่ง เพื่อสร้างนวัตกรคุณภาพน้ำ 100 คน รวมถึงนวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำในพื้นที่จังหวัดลำปางกว่า 270 ครัวเรือน ด้วยเป้าหมาย 2 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดโรค ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาด เพิ่มคุณภาพน้ำและคุณภาพชีวิต
ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวปาฐกถาพิเศษ “ขับเคลื่อนไทยด้วยนโยบาย BCG เพื่อสร้างความเข้มแข็งสำหรับเศรษฐกิจฐานราก” ว่า การบริหารจัดการน้ำ โดยเพาะการบำบัดน้ำเสียด้วยองค์ความรู้ทางเคมีนั้น เราจะเห็นว่า ปกติการบำบัดน้ำเสียจะใช้ระบบกรองต่างๆ ซึ่งบางครั้ง ก็จำเป็นต้องใช้ไส้กรองพิเศษ อาทิ เซรามิก ซึ่งเป็นเคมีขั้นสูงมาช่วยแก้ปัญหาสารปนเปื้อนต่างๆ ที่ระบบกรองธรรมดาอาจจะไม่เพียงพอ ถือเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะปัญหาสำคัญของไทยคือ คุณภาพน้ำ ที่แม้เราจะมีน้ำมากจนบางครั้งเกิดน้ำท่วม หรือเกิดภาวะน้ำแล้งสลับกัน ก็จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค
“ความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้ เชื่อได้ว่าจะเป็นการนำ "ความรู้สู่การปฏิบัติ" ที่เห็นภาพชัดเจน ที่ผ่านมาไทยเรามีการนำความรู้สู่การปฏิบัติไม่มากนัก แต่ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับวิชาเคมีที่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับหลายๆ คน และไม่รู้ว่าจะนำไปใช้ได้อย่างไร การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการนำองค์ความรู้ด้านเคมีทั้งอินทรีย์และอนินทรีย์มาต่อยอดใช้ประโยชน์ในแง่การบริหารจัดการน้ำที่สำคัญอย่างมาก และอยากให้ต่อยอดเรื่องของน้ำเพื่อการบริโภค โดยเฉพาะเรื่องของการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำในแต่ละพื้นที่เพื่อดูความเสี่ยงต่อสุขภาพ ที่จะสามารถนำผลการวิเคราะห์ไปขยายผลเพื่อดูความเสี่ยงเชิงสุขภาพ ร่วมกับหน่วยงานทางการแพทย์ต่อไป” ศาสตราจารย์ (พิเศษ) ดร.เอนกกล่าว
ศาสตราจารย์ ดร.ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ ผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “ความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา การบริการวิชาการการจัดการความรู้ และการถ่ายทอดเทคโนโลยีสู่ชุมชนในครั้งนี้ มี โครงการนำร่องที่จะเกิดขึ้นมี 3 ด้านคือ ด้านการพัฒนากำลังคน ที่นักวิจัยนาโนเทค ร่วมพัฒนาหลักสูตรและอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตร ประจำหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาเคมี ในรูปแบบ Cooperative and Work Integrated Education (CWIE) ในปี 2565 ที่ผ่านมา, ด้านการเกษตร โดยทำโครงการถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาบุคลากรการเกษตรโดยการใช้ชุดทดสอบสารตกค้าง GT-Pesticide Residual test kit เพื่อตรวจสอบคุณภาพผลผลิตเกษตรปลอดภัย และเทคนิคการขยายสารชีวภัณฑ์คุณภาพ และการพัฒนาจุดเรียนรู้ด้านเกษตรปลอดภัยและเกษตรอัจฉริยะ ที่บ้านสัก ต.บ้านเอื้อม
ส่วนด้านบริหารจัดการน้ำนั้น จะเป็นการร่วมดำเนินการโครงการการตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคด้วยวิทยาศาสตร์ (โครงการบูรณาการน้ำ ปี 2566) ได้แก่ โครงการพัฒนาฐานข้อมูลด้านคุณภาพน้ำประปาที่มีการปนเปื้อนฟลูออไรด์ โลหะหนัก และสารเคมีตกค้างด้วยนาโนเทคโนโลยีสำหรับโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดลำปาง และโครงการนวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคที่มีการปนเปื้อนฟลูออไรด์ โลหะหนัก และสารเคมีตกค้างด้วยนาโนเทคโนโลยี
“เป้าหมายคือ ฐานข้อมูลคุณภาพน้ำในพื้นที่โรงเรียนของจังหวัดลำปางมากกว่า 100 โรงเรียน สร้างนวัตกรพัฒนาคุณภาพน้ำ 100 คน รวมถึงนวัตกรรมตรวจวัดและพัฒนาคุณภาพน้ำในพื้นที่จังหวัดลำปางกว่า 270 ครัวเรือน ที่นำสู่คุณภาพน้ำที่มีมาตรฐาน น้ำประปาหมู่บ้านสำหรับชุมชน พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการขยายผลการพัฒนาฐานข้อมูลและคุณภาพน้ำโดยอาศัยองค์ความรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการพัฒนากำลังคน ตามเป้าหมาย 2 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดโรค ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มการเข้าถึงน้ำสะอาด เพิ่มคุณภาพน้ำและคุณภาพชีวิต” ศาสตราจารย์ดร.ชูกิจ ย้ำ
รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติศักดิ์ สมุทธารักษ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง (มรภ.ลำปาง) กล่าวว่า จุดเริ่มต้นความร่วมมือของสองหน่วยงานความร่วมมือปี 2555-2564 การถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรสู่ชุมชน กลุ่มเกษตรกร 5 กลุ่ม ในพื้นที่จังหวัดลำปาง และในงบประมาณ พ.ศ. 2565 โครงการพัฒนาการผลิตน้ำสะอาดในชุมชน โดยเทคโนโลยีเครื่องกรองน้ำ: ชุมชนบ้านป่าสัก ตำบลบ้านเอื้อม อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง จากงบประมาณวิจัย วช.งบประมาณ พ.ศ. 2566 มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปางกับสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ โดยได้มีโครงการร่วมมือ แผนบูรณาการน้ำ ปี 2566
สำหรับความคาดหวังที่มีต่อความร่วมมือ รองศาสตราจารย์ ดร.กิตติศักดิ์ เผยว่า มี 3 เรื่องคือ ความร่วมมือ จะนำไปสู่การพัฒนาด้านการวิจัยร่วมกัน เช่น การพัฒนาโจทย์วิจัยเพื่อขอทุน, การพัฒนาบุคลากรร่วมกัน เป็นการร่วมกันพัฒนาหลักสูตร การเป็นอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยร่วมกัน และการแลกเปลี่ยนและเสริมสร้างความรู้ ประสบการณ์และข้อมูลทางวิชาการ เป็นการส่งเสริมนักศึกษา และบุคลากรไปแลกเปลี่ยนระหว่างหน่วยงาน
“มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง เป็นหน่วยงานในการอำนวยการเชิงพื้นที่ ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานชุมชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชี้เป้าประเด็นปัญหา รวมถึงรับการถ่ายทอดองค์ความรู้ชุมชน โดย บุคลากรมหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง จะรับการถ่ายทอดองค์ความรู้จาก สวทช. ดังเช่นที่ คณะวิทยาศาสตร์รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการเคลือบเซรามิกแบบซิลเวอร์นาโนสำหรับฆ่าเชื้อในระบบกรองน้ำชุมชนจากศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สวทช. การพัฒนาหลักสูตรร่วมกัน เช่น หลักสูตรวิทยาศาสตร์ เคมี ที่มีการแต่งตั้งอาจารย์ประจำหลักสูตร อาจารย์ที่ปรึกษาวิจัยร่วม การจัดการและสนับสนุนทรัพยากร เช่น การใช้ทรัพยากรทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกัน” อธิการบดี มรภ.ลำปาง ชี้