จากแอดมินเพจ สู่ ธุรกิจออนไลน์ พลิกชีวิตครอบครัวเกือบล้มละลาย เพียงหนึ่งปีปลดหนี้หลักแสนบาทได้

ธุรกิจออนไลน์ สร้างอาชีพพลิกชีวิตให้หลายคนได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง รวมถึง สาววัย 25 ปีรายนี้ “นางสาวปนัชภา ห่วงอาษา” (คุณนิ้ง) ที่ต้องเผชิญชะตากรรมหลังจากธุรกิจของครอบครัวโดนโกง ต้องเสียเงินและที่ดินรวมเป็นเงินหลายล้านบาทแทบจะหมดตัว จากชีวิตที่เคยสุขสบาย วันหนึ่งสะดุด เพราะทางบ้านไม่สามารถซัปพร็อตด้านการเงินได้


สาวน้อย วัย 20 ปี จากลูกคุณหนู ต้องดิ้นหาเงินเรียน

และด้วยเหตุนี้ ทำให้ “นิ้ง” สาวน้อยวัย 20 ปี ในช่วงนั้น เกือบจะต้องหยุดเรียนในระดับชั้นปริญญาตรี ที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพฯ แต่ธุรกิจออนไลน์ได้มาช่วยต่อชีวิต ให้สาวน้อยวัย 20 ปี ได้กลับมาเรียนต่อและผ่านเรื่องราวตอนนั้นไปได้ และที่สำคัญไปกว่านั้น เธอสามารถปลดหนี้ และสร้างรายได้หลักล้านบาทได้

นางสาวปนัชภา (นิ้ง) เจ้าของธุรกิจออนไลน์เงินล้าน วัย 25 ปี เล่าถึงที่มาของ การก้าวมาเป็นนักขายออนไลน์ ว่า เริ่มต้นจากครอบครัว ทำธุรกิจด้านโลจิสติกส์ คุณพ่อมีรถสิบล้อ หลายคัน รายได้ของคุณพ่อตอนนั้น 400,000-500,000 บาทต่อเดือน ครอบครัวไม่ได้ลำบากอะไร สามารถส่งลูกเรียนเอกชนได้อย่างสบาย และพ่อก็รู้สึกว่าเงินมันก็หามาได้ไม่ยาก ทำให้พ่อประมาทอาจจะใช้เงินเกินตัวไปบ้าง พ่อต้องการจะขับรถอะไรเค้าก็ซื้อ เหมือนนำเงินอนาคตมาใช้ด้วย และวันหนึ่งธุรกิจเกิดสะดุด เพราะพ่อโดนเพื่อนโกงด้วย และธุรกิจมีปัญหาด้วย พ่อไม่สามารถหาเงินมาใช้หนี้ได้ ทำให้เราต้องเสียเงิน และที่ดินที่เป็นสมบัติของเราไปหลายแปลง


เริ่มต้นหาเงินจากการเป็นแอดมินเพจ
กว่าจะได้เป็นเจ้าของธุรกิจออนไลน์

“วันหนึ่ง พ่อกับแม่ก็เรียกไปคุย บอกว่า ต่อจากนี้พ่อไม่สามารถส่งให้ลูกเรียนได้นะ มี 2 ทางให้เลือก คือ หยุดเรียนไปก่อน หรือไม่ก็ย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยรัฐบาล ซึ่งเราเองก็ไม่อยากดร็อปเรียน หรือ ย้ายที่เรียน ก็เลยบอกว่า ถ้ายังนั้น นิ้งจะหาเงินเรียนเอง ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็ต้องหาเงินเรียนเอง โดยสมัครเป็นแอดมินที่บริษัททำธุรกิจเสริมอาหารรายหนึ่ง สามารถทำไปด้วยเรียนไปด้วยได้ มีรายได้เดือนหนึ่งประมาณ 15,000 บาท พอทำได้สักระยะหนึ่ง มีประสบการณ์ในการแซทตอบลูกค้าได้ ตอนนั้นเป็นแอดมินทำเกือบ 3 ปี ก็ได้ลาออกมาและลองมาเป็นคนขายดูบ้าง โดยเลือกขายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เคยเป็นแอดมินมาก่อน เพราะเราถนัดอยู่แล้ว ตอนนั้น ขายสินค้าอยู่หลายตัว อะไรดังในช่วงนั้นก็นำมาขาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินผิวสวย หน้าใส ผลิตภัณฑ์ลดน้ำหนัด เวย์โปรตีน ฯลฯ”


อย่างไรก็ดี เนื่องจากในช่วงแรกที่ขายการแข่งขันสูงมาก เพราะเป็นสินค้าที่คนส่วนใหญ่ขายกัน ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก รายได้ที่เหลือเป็นกำไร ประมาณ 10,000 กว่าบาท ไปจนถึงสูงสุดประมาณ 30,000 บาท ต่อเดือน แต่เป็นค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราได้มีรายได้ ส่งตัวเองเรียนจนจบ และมีรายได้เลี้ยงตัวเองหลังจากเรียนจบ จากธุรกิจออนไลน์ และเมื่อประมาณปลายปี 2654 ต้นปี 2565 แฟนได้เจอโฆษณาเสริมอาหารเพิ่มน้ำนมแบรนด์หนึ่ง (Jessie Mum)

“ตอนนั้นกำลังหาของมาขายอยู่แล้ว แฟนเห็นว่าเป็นสินค้าเฉพาะกลุ่ม และเป็นสินค้าจำเป็นเหมือนปัจจัยสี่ ที่แม่ก็ต้องให้นมลูก แฟนคิดว่ามันน่าจะขายไม่ยาก และมีประสบการณ์การขายเสริมอาหารอยู่แล้ว ก็น่าจะขายได้ ก็เลยตัดสินใจขายอย่างเต็มตัว เปิดเพจใหม่ขึ้นมาเลย เหมือนเริ่มต้นจากศูนย์แล้ว สำหรับแบรนด์นี้ เริ่มใหม่ทุกอย่าง ตั้งแต่กลุ่มลูกค้าใหม่ การวางแผนยิงแอดโฆษณาเพื่อให้ถึงกลุ่มลูกค้า แต่ครั้งนี้ ทำเป็นระบบมากขึ้น มีการวางแผนโดยบริษัทเจ้าของสินค้าเข้ามาช่วยซัปพร็อต  เป็นประสบการณ์การขายที่ดี และทำให้เราประสบความสำเร็จ จนสามารถช่วยปลดหนี้ทางบ้านได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย จากที่ผ่านมา ช่วยทางบ้านได้ไม่เยอะ จากรายได้ที่เข้ามาหลักแสนบาทต่อเดือน และสูงสุดที่ทำได้คือ 2,000,000 บาทต่อเดือน เรียกว่าช่วยทางบ้านปลดหนี้ได้หมด”


ขายออนไลน์อย่างไรให้ประสบความสำเร็จ

สำหรับข้อดีของธุรกิจออนไลน์ ในมุมของ “คุณนิ้ง” นักขายออนไลน์เงินล้าน เธอเล่าถึงประสบการณ์ ของการเริ่มต้นธุรกิจออนไลน์แบบไม่มีทุนของเธอ ว่า การทำธุรกิจออนไลน์ไม่ได้ง่าย ใช่ว่าใครๆ เข้ามาทำแล้วจะประสบความสำเร็จได้ทุกคน ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงทุกคนก็เป็นนักขายออนไลน์กันไปหมดแล้ว ในส่วนของตัวเอง ครั้งแรกก็ถือว่า ล้มเหลว ซึ่งทุกคนเจอเหมือนๆ กัน คือ การสต็อกสินค้า และพอวันหนึ่งขายไม่ได้ คือ ขายไม่ได้ ทุนก็จมอยู่ในสินค้า เหมือนพ่อค้า แม่ค้าทั่วไปที่เจอทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ แม้ว่าจะขายดีอย่างไร ก็ต้องรู้จักการบริหารจัดการสต็อกให้ได้ด้วย

ปนัชภา (นิ้ง)  เล่าว่า ตอนที่มาลงทุนขายเสริมอาหารเพิ่มน้ำนมแม่ ตอนนั้นเธอเองก็ไม่มีทุนเลย เพราะทุนไปจมอยู่ที่สินค้าตัวเก่าที่ขายไม่ได้ เราก็ยังคงรู้สึกกลัวกับการบริหารสต็อกอยู่  จึงเริ่มที่การลงทุนต่ำที่สุดก่อน คือ 13,600 บาท ได้สินค้ามาขายจำนวน 22 กล่อง และขายหมดภายในหนึ่งสัปดาห์ และก็ไปรับสินค้ามาใหม่ช่วงเดือนแรกทำวนไปแบบนี้หลายรอบ เพราะยังไม่กล้าลงทุน จนที่ปรึกษาตัวแทนแนะนำให้ลงทุนสต็อกให้เยอะกว่านี้ จะได้ลดต้นทุนได้ พอขายเดือนสอง เริ่มมีเงินจากกำไรในเดือนแรกก็นำเงินนั้นมาสต็อกของได้มากขึ้น พอสต็อกสินค้าเยอะขึ้นต้นทุนก็ลดลง แต่ต้องมั่นใจด้วยนะว่าจะขายได้ แต่สำหรับแบรนด์ Jessie Mum ค่อนข้างมั่นใจหลังจากได้ขายมาระยะหนึ่ง โดยมีที่ปรึกษาตัวแทนคอยช่วยแนะนำ และมีการจัดการหลังบ้านให้ตัวแทน มีเทเลเซลล์มาช่วยปิดการขายให้ด้วย ส่วนหนึ่งที่ประสบความสำเร็จต้องมาจากการบริหารจัดการที่ดีของทางเจ้าของแบรนด์ นอกเหนือจากคุณภาพสินค้าที่ต้องให้ความสำคัญด้วยเช่นกัน


เงินทุนส่วนหนึ่งต้องใช้เพื่อการจ่ายค่าโฆษณา

“การเริ่มต้นขายครั้งแรก คุณธี ที่ปรึกษาตัวแทน แนะนำให้เปิดเพจขึ้นมาใหม่ เหมือนเริ่มต้นจากศูนย์ แต่ก็ประสบความสำเร็จได้ ถ้าเป็นการเริ่มต้นที่เป็นระบบมากกว่าเดิม โดยครั้งแรกที่ปรึกษาตัวแทนแนะนำให้เริ่มจากฝากขายในกลุ่มที่ขายสินค้าแม่และเด็ก เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของเราได้รู้จักเราก่อน และหลังจากนั้น คนเริ่มเข้ามาติดตามเราทางเพจที่เปิดขึ้นมาใหม่ พร้อมกับการยิงแอดโฆษณาตอนนั้น ซึ่งตอนนั้นใช้งบยิงแอดวันละ 900 บาทสินค้า 3 ตัว ๆ ละ 300 บาท ซึ่งได้ผลดีมีคนติดตามเพิ่มขึ้น มียอดขายเข้ามา

ทั้งนี้ ทำไมเราจะต้องยิงแอดโฆษณา เพราะถ้าเราไม่ลงทุนยิงแอดโอกาสจะเข้าถึงลูกค้าทางหน้าเพจยากมาก เหมือนเรานำสินค้าไปวางขายและไม่มีใครเห็น ไม่มีใครเดินผ่านมาเจอ และจะขายไปทำไม หลังจากที่เริ่มมีทุนเยอะขึ้น ที่ปรึกษาตัวแทนแนะนำให้วางแผนลงทุนยิงแอด อาจจะต้องใช้งบให้เยอะขึ้น เพื่อยอดขายเพิ่มขึ้น โดยประมาณการยิงแอดถ้ายิงแอดวงเงิน 200,000 บาท โอกาสการขายประมาณ 1 ล้านบาท ในครั้งแรกอาจจะมองว่าแพง แต่ถ้าเฉลี่ยลูกค้าที่มาซื้อซ้ำ ลูกค้าที่ซื้อซ้ำเหมือนไม่มีต้นทุนค่าแอด ตรงนั้นเป็นกำไรที่เพิ่มขึ้น ปัจจุบัน มีลูกค้าใหม่ประมาณ 70% ลูกค้าเดิมประมาณ 30%


ปลดหนี้เงินล้านครอบครัวด้วยธุรกิจออนไลน์

นางสาวปนัชภา (นิ้ง) เล่าว่า รายได้ที่ได้มา ส่วนหนึ่งนำไปใช้หนี้ให้กับครอบครัว ตอนนี้ ครอบครัวก็หมดหนี้ไปเยอะมากแล้ว ชีวิตของครอบครัวก็ดีขึ้นเรื่อย หลังจากนี้ เงินที่ได้ก็นำมาเป็นเงินลงทุนขยายในกิจการ Jessie Mum อีกต่อไป เพราะยังมีหลายช่องทางออนไลน์ที่ยังไม่ได้เข้าไปขาย ซึ่งถ้าสามารถขยายไปในช่องทางอื่นๆ ที่ไม่ใช่การขายหน้าเพจ จะช่วยสร้างยอดขายให้เราได้มากกว่านี้  อย่างไรก็ดี เชื่อว่า ธุรกิจออนไลน์ ยังมีช่องทางให้เติบโตได้มาก ถ้าสามารถเลือกสินค้าในกลุ่มที่ตลาดมีความต้องการ และสินค้าที่มีคุณภาพลูกค้าต้องกลับมาซื้อซ้ำ แม้ว่าการแข่งขันจะสูงก็ตาม

ติดต่อ โทร.06-2469-1566

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด