กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือธนาคารกรุงไทย ลดอัตราค่าบริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) ตั้งแต่ 1 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ และช่วยลดภาระให้ผู้ประกอบการ
นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยสถิติผู้ใช้บริการขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านธนาคารหรือ e-Certificate ผ่านธนาคารพันธมิตร 9 ธนาคาร จำนวน 3,225 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งมียอดรวมผู้ใช้บริการรวมตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2555 – 2564 รวมแล้วกว่า 1.66 ล้านราย โดยในปี 2565 (มกราคม-พฤศจิกายน) มีผู้ใช้บริการ 189,982 ราย เฉลี่ย 17,271 รายต่อเดือน และยังคงมีอัตราการใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการและประชาชนที่ต้องการขอหนังสือรับรองนิติบุคคลผ่านธนาคารในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และธนาคารกรุงไทย จึงลดอัตราค่าบริการหนังสือรับรอง และรับรองสำเนาเอกสารนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านธนาคาร (e-Certificate) จากอัตราปกติ 150 บาท/ฉบับ ลดเหลือ 100 บาท/ฉบับ (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 28 กุมภาพันธ์ 2566
สำหรับ การขอรับบริการ e-Certificate ผ่านธนาคารสามารถดำเนินการได้ 2 รูปแบบ คือ 1) รับบริการผ่านเว็บไซต์ โดยทำรายการผ่านเว็บไซต์กรมฯ เลือกช่องทางการรับเอกสารที่เคาน์เตอร์ธนาคาร พิมพ์ใบชำระเงิน นำไปชำระเงินที่ธนาคารและรับเอกสารพร้อมใบเสร็จ ณ สาขาธนาคารที่ขอรับบริการ 2) รับบริการที่ธนาคาร โดยกรอกคำขอยื่นให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อทำคำขอผ่านระบบ ชำระเงินและรับเอกสารพร้อมใบเสร็จ ณ ธนาคารสาขาที่ขอรับบริการ (โปรดตรวจสอบสาขาและประเภทของเอกสารที่ให้บริการของแต่ละธนาคารก่อนรับบริการ)
ทั้งนี้ หนังสือรับรองนิติบุคลทางอิเล็กทรอนิกส์ที่พิมพ์ออกผ่านสาขาธนาคาร เป็นเอกสารต้นฉบับที่สามารถใช้อ้างอิงได้ตามกฎหมาย มีความถูกต้อง เชื่อถือได้ตามรายการที่จดทะเบียนไว้เช่นเดียวกับการออกหนังสือรับรองที่ขอผ่านกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สำหรับการให้บริการ e-Certificate ผ่านธนาคาร ได้เปิดให้บริการตั้งแต่ ปี 2555 และมีการขยายการให้บริการเพิ่มเติมโดยครอบคลุมเอกสารต่างๆ รวม 5 ประเภท คือ 1) หนังสือรับรองนิติบุคคล 2) รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียนงบการเงิน บัญชีรายชื่อของนิติบุคคล 3) หนังสือรับรองข้อความที่นายทะเบียนเก็บรักษาไว้ของการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 4) รับรองสำเนาเอกสารทางทะเบียนและงบการเงินการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 5) รับรองเอกสารทางทะเบียน งบการเงิน ทะเบียนสมาชิกสมาคมการค้าและหอการค้า และ 6) รับรองสำเนาเอกสารกิจการร่วมค้า และนิติบุคคลต่างประเทศ
การนำนวัตกรรมบริการมาใช้ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้มีความคล่องตัวในการทำธุรกิจ ลดระยะเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของผู้ประกอบการให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจต่อทุกภาคส่วน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย อธิบดีกล่าวทิ้งท้าย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองข้อมูลธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทรศัพท์หมายเลข 0 2547 5160สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th