เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับ CHAGEE “ชาจี” แบรนด์ชานมไร้ไข่มุกที่นำเข้าใบชาจากไร่ชาออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในโลกจากประเทศจีน พร้อมชู “ชานมมะลิ” มัดใจลูกค้าด้วยคุณภาพจากใบชาสดที่นำเข้ามาทั้งหมด 7 ชนิด พร้อมทั้งมีทีมมาสเตอร์ที่รู้จักและเข้าใจในใบชาเป็นอย่างดี มารังสรรค์เป็นเมนูชาที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดเมื่อถึงมือผู้บริโภค ทั้งนี้ตั้งเป้าการเติบโตในปี 66 ด้วยการขยายสาขาเพิ่มอีก 10 สาขา คาดสร้างยอดขายกว่า 50 ล้านบาท
นายอภิชาต ชวนชัยวงศ์ ผู้บริหาร ชาจี ประเทศไทย เล่าว่า เดิมทีนั้นตนเป็นคนไทยที่ไปศึกษาที่ประเทศจีนบวกกับตนเป็นคนที่ชื่นชอบวัฒนธรรมของประเทศจีนเป็นการส่วนตัว ซึ่งการดื่มชาก็เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมของคนจีนเช่นเดียวกัน ทำให้ตนซึมซับวัฒนธรรมการดื่มชาและได้มีโอกาสได้ทำงานในวงการชาในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งเมื่อกลับมาประเทศไทยตนก็นำแรงบันดาลใจเหล่านี้มาต่อยอดเปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยในชื่อ CHAGEE
“ชาจี” เป็นแบรนด์ชาจีนสุดพรีเมี่ยมต้นตำรับจากมณฑลยูนนาน ประเทศจีน เปิดตัวสาขาแรกเมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2017 บนถนน 51 ในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ภายในระยะเวลา 4 ปี ชาจี เติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นแบรนด์เครื่องดื่มชาชั้นนำในยูนนาน ขยายสาขาเข้าสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วประเทศจีนอย่าง เซี่ยงไฮ้ เสฉวน ฉงชิ่ง กวางตุ้ง กุ้ยโจว ฯลฯ ทั้งยังขยายสาขาสู่ต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ รวมแล้ว 500 กว่าสาขาทั่วเอเชีย โดยมีแบรนด์คอนเซ็ปต์เป็น Chinese Chic หรือ การอุดหนุนสินค้าในท้องถิ่นจีน ด้วยการนำชาจากไร่ชาที่ปลูกเองมารังสรรค์เมนูชาสุดพรีเมี่ยมให้ทุกคนได้ลิ้มลอง และได้มาเปิดตัวที่ประเทศไทยและเป็นเจ้าแรกที่ใช้ใบชาสดจากไร่ชาออร์แกนิกอีกด้วย
จุดเด่นและความพิเศษของ ชาจี คือ “การเป็นชาสด” ซึ่งชาตามร้านอื่นทั่วไปส่วนมากจะเป็นชาในรูปแบบ “ผง” แต่ทางร้านนำเข้าใบชาและแพคเกจจิ้งจากประเทศจีน ส่วนวัตถุดิบอื่นๆ เช่น นมสด จะเป็นวัตถุดิบจากประเทศไทย พร้อมด้วยผลไม้ที่นำมารังสรรค์เป็นชาผลไม้ก็คัดเลือกผลไม้จากพื้นที่ชุมชนต่างๆ เช่น ส้ม มะนาว แตงโม ฯลฯ ในประเทศไทย ทั้งนี้ความพิเศษที่นอกจากจะเป็นชาสดแล้วนั้น ชาจี ยังมีกลยุทธ์ในการทำการตลาดในประเทศไทยด้วยการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มคนรักชา ปัจจุบันชาจีได้นำเข้าชาทั้งหมด 7 ชนิด จากไร่ชาออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเมนูซิกเนเจอร์ที่ทางร้านแนะนำคือเมนู “ชานมมะลิ”
นอกจากนี้ ชาจี มีเมนูใหม่ กว่า 30 เมนู จากใบชาสดหลากหลายประเภท เช่น ทิกวนอิม ชาที่มีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นดอกไม้จากธรรมชาติ อู่หลง ชาจีนที่คนชื่นชอบในรสชาติและกลิ่นหอม รสชาติชุ่มคอ ต้าหงเผา เปรียบเหมือนราชันแห่งชาอู่หลง หอมกลิ่นปิ้งไฟผสมกลิ่นดอกไม้ ผู่เอ๋อร์ สุดยอดชาจีนที่ให้ความสดชื่น คลายเครียด โดยชาจีผลิตจากวัตถุดิบสดใหม่ ใช้นมสด ผลไม้สด และชงสดทุกแก้ว ร้านใหม่ ดีไซน์สุดชิคด้วยการตกแต่งร้านแบบร่วมสมัย ผสานวัฒนธรรมตะวันออก บรรยากาศร้านให้ความผ่อนคลาย แฝงความสดชื่นเสมือนอยู่ในไร่ชา พร้อมประสบการณ์ใหม่ ฉบับชาสด ชาดี ชาจี กับแบรนด์ชาจีนสุดพรีเมี่ยม จากไร่ชาของตัวเอง บนความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,588 เมตร ปลูกใบชาให้ได้คุณภาพสูง กลิ่นชาที่หอมและรสชาติที่สดชื่น ชาจีจึงตั้งใจนำวัฒนธรรมการดื่มชาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปี มาผสมผสานกับวิถีชีวิตของผู้คนในสังคม พร้อมกลายเป็นส่วนหนึ่งในใจของผู้คนสมัยนี้และในอนาคตต่อไป
สำหรับความมั่นใจและสิ่งที่จะมัดใจผู้บริโภคได้นั้นก็คือ “คุณภาพ” เพราะว่าผู้บริโภคในยุคปัจจุบันมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารและใส่ใจในเรื่องสุขภาพมากยิ่งขึ้น เมื่อต้องรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มเข้าร่างกาย ผู้บริโภคเหล่านี้จะศึกษาข้อมูลมาเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นคุณภาพจึงเป็นจุดแข็งให้สามารถมัดใจลูกค้าได้ ทั้งนี้เมนูซิกเนเจอร์อีกหนึ่งเมนูที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทย คือเมนู “ชานมมะลิ” นอกจากนี้ยังดึงดูดความสนใจด้วยการสร้างกิมมิคเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ด้วยการสุ่ม Gift Voucher หรือ ของรางวัลจากส่วนล่างของแก้วชา เพื่อให้ลูกค้าได้มีกิจกรรมร่วมกันกับทางแบรนด์ โดยจะเป็นการจัดกิจกรรมในแต่ละเทศกาลและโอกาสพิเศษในแต่ละช่วงนั่นเอง ทั้งนี้ราคาเมนูชาของทางร้านมีราคาเริ่มต้นที่ 85-150 บาท
ในส่วนของการชงชานั้นทางแบรนด์จะมีทีมมาสเตอร์สำหรับชงชาและเมนูเครื่องดื่มของทางร้าน โดยทีมมาสเตอร์นั้นจะคล้ายกับบาริสต้าของร้านกาแฟ แต่จะมีความแตกต่างคือทีมมาสเตอร์ทุกคนนั้นจะมีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับชาต่างๆ เพื่อที่จะได้ชงเครื่องดื่มเมนูชาออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยรวมไปถึงการรู้จักชาที่นำเข้ามาทั้งหมด 7 ชนิด อุณหภูมิของน้ำที่นำมาชง ปริมาณน้ำและชาที่นำมาชง ซึ่งทีมมาสเตอร์ของทางแบรนด์ได้มีการผ่านการอบรมความรู้เหล่านี้มาแล้วนั่นเอง
“การเปิดตัวชาจีในประเทศไทย ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการเข้ามาครองใจผู้บริโภคในทุกวัย จากรายงานบริษัทวิจัยตลาดชานมไข่มุกในประเทศไทยมีขนาดใหญ่มากกว่า 26,000 ล้านบาท ด้วยตลาดชานมในไทยเป็นตลาดใหญ่ ทั้งยังเป็นประเทศที่มีการบริโภคชานมไข่มุกสูงมาก บวกกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่รักสุขภาพ เน้นบริโภควัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทานหวานน้อยลง และหันมาบริโภคอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพมากขึ้น จากการศึกษาตลาดที่ผ่านมาพบว่าในประเทศไทยยังไม่ค่อยมีแบรนด์ชาพรีเมียมที่เป็นชาที่แท้จริง ชาจีจึงมองเห็นโอกาสในการทำการตลาด เน้นคุณภาพชาเป็นสำคัญ ชาทุกแก้วที่ชงทางร้านใช้ Tea Master ในการชงทุกแก้ว ทำให้มั่นใจว่าผู้บริโภคจะได้รับชาที่สดใหม่ จากใบชาแท้ 100%” นายอภิชาตระบุ
อย่างไรก็ตามในปี 66 ตั้งเป้าขยายสาขาอีก 10 สาขา โดยตั้งเป้ายอดขาย ไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท พร้อมวางแผนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการวางแผนระยะยาวซึ่งไม่ใช่แค่การขยายสาขาในประเทศไทย แต่รวมถึงการตีตลาดเอาใจคนรักชานมทั่วโลกอีกด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมการดื่มชาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานนับพันปีที่ร้านชาจี สามารถสัมผัสประสบการณ์ความสดของชาได้ที่ “ชาจี” ณ ร้านชาจี ชั้น 6 ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่ง Beacon ได้ทุกวัน เวลา 10:00 – 22: 00 น. ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ติดต่อเพิ่มเติม
Website : https://www.chagee.co/
Facebook : Chagee Thailand
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *