xs
xsm
sm
md
lg

“อิ่มใจ”แยมผลไม้ 100% แก้ปัญหาล้นตลาด จากการหลอกปลูกผลไม้บนพื้นที่ราบสูง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อิ่มใจ (Im JAI) แยมผลไม้ที่เน้นความหวานจากเนื้อผลไม้ ไม่เน้นความหวานจากน้ำตาล เหมาะกับกลุ่มคนรักสุขภาพ สายคีโต และวีแกน โดยมีส่วนผสมของผลไม้มากถึง 88% ปัจจุบัน แยมผลไม้ที่ผลิตจากเนื้อผลไม้ล้วนๆ เพื่อตอบโจทย์คนรักสุขภาพกำลังได้รับความนิยม และประเทศไทย ได้เปรียบเพราะเป็นเมืองแห่งผลไม้ มีผลไม้ราคาไม่แพง ทำให้ผู้ผลิตสามารถผลิตและทำราคาได้ไม่แพง เช่นเดียวกับ ผู้ประกอบการจากโคราชพื้นที่ราบสูง รายนี้


ปัญหาผลไม้ล้นตลาด จากการหลอกให้ปลูกและไม่รับซื้อ

นางสาวชุลีกร สถิตพงศ์พิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ร้อยแปด ฟู้ดส์ จำกัด เล่าว่า ที่มาของ อิ่มใจ ( Im JAI ) เกิดขึ้นเมื่อปี 2018 หลังจากที่เจอสถานการณ์โควิด ทำให้ต้องปิดกิจการโรงงานเฟอร์นิเจอร์ ตอนนั้น ครอบครัวก็คิดว่าเราจะต้องทำกิจการอะไรต่อ จนได้มาเจอปัญหาของเกษตรกรที่ จังหวัดชัยภูมิ นำสับปะรดมาเทหน้าศาลากลางจังหวัด และพอได้นำสับปะรดที่เขามาเทไปกิน ซึ่งพบว่าสับปะรด ที่ปลูกที่ มอหินขาว จ.ชัยภูมิ หวานมาก หวานยันแกนกลาง ก็คิดว่าในเมื่อเรามีสับปะรดที่รสชาติดีขนาดนี้ ถ้าเราไม่เอามาทำอะไรเลยก็น่าเสียดาย

ทั้งนี้ ก็เลยตัดสินใจว่า เราจะได้ช่วยเหลือเกษตรกรปลูกสับปะรด โดยนำมาแปรรูปเป็นแยมผลไม้ ซึ่งได้ความรู้การทำแยมจากการเข้าร่วมโครงการบ่มเพาะธุรกิจ ที่มหาวิทยาลัยร่วมโครงการ ตอนเข้าไปอบรม “อาจารย์ผู้สอน” บอกว่า ไม่มีความรู้มีพื้นฐานเรื่องการอาหารเลย ไม่ได้จบด้านนี้ สถานที่ก็ยังไม่พร้อมไม่มีอะไรเลย มีเพียงกระดาษมาแผ่นเดียวจะทำได้เหรอ แต่ตอนนั้น คิดว่าต้องทำให้ได้ อยากจะช่วยเหลือเกษตรกร และที่สำคัญ ในเมื่อเฟอร์นิเจอร์เป็นสินค้าที่ไม่ได้ขายง่ายเพราะในชั่วชีวิตหนึ่งคนจะซื้อเฟอร์นิเจอร์เพียงไม่กี่ครั้ง เรายังขายได้ ปีหนึ่งหลักสิบล้าน บางปีขายได้ถึง 50 ล้านบาท และถ้าทำอาหารที่คนต้องกินทุกวัน ทำไมจะขายไม่ได้


“เป้าหมายของเรา นอกจากไม่อยากจะหายใจทิ้งไปวันๆ หลังจากกิจการเฟอร์นิเจอร์ล้ม สิ่งสำคัญ คือ ปัญหาเกษตรกรผลไม้ในพื้นที่บ้านเกิด นครชัยบุรี (4 จังหวัด โคราช ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) แรงบันดาลใจให้เราคิดว่าจะหันมาทำกิจการแปรรูปผลไม้ นอกจากปัญหาผู้ปลูกสับปะรด ที่ชัยภูมิ ที่เจอปัญหาผลผลิตตกต่ำแล้ว หลังจากนั้น เจอปัญหาที่เกษตรกร โดนหลอกให้ปลูกผลไม้อีกหลายชนิด เช่น การหลอกให้ปลูกมัลเบอรี่ สุดท้ายก็ไม่กลับมาซื้อ และยังมีกล้วยหอมที่ปลูกกันเป็น 1,000 ไร่ และขายไม่ได้ราคา เพราะกล้วยจะมีปัญหา คือ กล้วยในหนึ่งเครือจะสุกไม่พร้อมกัน ท้ายเครือจะสุกก่อน และปลายเครือไม่สุก ส่วนที่เกษตรกรขายได้กลางเครือ ส่วนท้ายเครือ และ ปลายเครือ นำไปทิ้งไม่ใช่แค่ตัน สองตัน แต่เป็นร้อย เป็นพันตัน เราเป็นคนตัวเล็กๆ ที่พอจะช่วยแก้ปัญหาให้กับเกษตรกรเหล่านี้ ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ต้องการจะทำธุรกิจเกี่ยวกับอาหารการกิน แม้ว่าจะช่วยเกษตรกรได้ไม่ทุกคนแต่ก็ได้มีส่วนช่วยเกษตรกรได้บางส่วนเท่านั้นก็รู้สึกภูมิใจแล้ว”


แยมและไซรัป ความหวานจากผลไม้ตามธรรมชาติ 100%

สำหรับอิ่มใจ มีสินค้า 2 ชนิด คือ แยมผลไม้ และ ไซรัป มี 2 แบบ ทั้ง No sugar และ Low sugar โดยใช้เทคโนโลยีมาช่วย รักษารสชาติ และคงกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ ซึ่งจุดเด่น คือ การใช้ผลไม้แบบ 100% ไม่มีเพิ่มความหวานด้วยน้ำตาล ไม่มีการใช้เยลลี่ หรือ แป้งข้าวโพดเพื่อให้เนื้อแยมเป็นคงรูป แต่การคงรูปของแยมมาจากการเนื้อผลไม้ล้วน ส่วนผสมของผลไม้ 88% เช่นเดียวกับไซรัป ไม่มีส่วนผสมของกลูโคส ไม่กระทบกับคนที่ต้องการลดน้ำตาลในเลือด และโซเดียม โดยแยมและไซรัป ผ่านกระบวนการผลิต ด้วยเทคโนโลยี ช่วยให้เก็บได้นานถึง 1 ปี ส่วนผลไม้ที่นำมาทำแยม และไซรัป ของอิ่มใจ ประกอบด้วย สับปะรด มะม่วง ผิวส้ม กล้วยมะพร้าว มัลเบอรี่ แบล็คเบอร์รี่ สตรอเบอร์รี่ มิกซ์เบอร์รี่ ลิ้นจี่ อิ่มใจ น้ำ7เบอรี่ ฯลฯ สินค้าทุกตัวได้รับรองมาตรฐาน คุณภาพ อย. GMP Codex HACCP Codex GHPs HALAL ใส่ใจสิ่งแวดล้อมซึ่งได้รับรอง Green Industry Certificate


การทำตลาดของแยมอิ่มใจ

ชุลีกร กล่าวถึงการทำตลาดของอิ่มใจ ว่า ที่ผ่านมา อิ่มใจ ได้เลือกทำตลาด 2 ช่องทาง คือ ร้านเพื่อสุขภาพ และ ช่องทางออนไลน์ ลูกค้าให้การตอบรับค่อนข้างดีมาก เพราะแม้ว่าจะแจ้งเกิดในช่วงสถานการณ์โควิด แต่ยังสามารถที่จะสามารถขยายตลาดได้ส่วนหนึ่งมาจากลูกค้าได้ชิม และชื่นชอบ กลับมาซื้อซ้ำ และราคากับคุณภาพของสินค้า ที่เหมาะสม เพราะด้วยถ้าเป็นแยมผลไม้ แบบ 100% และผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐาน ราคาขนาดนี้ เมื่อเทียบกับในท้องตลาด โดยเฉพาะสินค้าใกล้เคียงกันในต่างประเทศ สินค้าของเราทำราคาที่ถูกกว่ามาก เพราะประเทศไทย มีผลไม้ที่ราคาถูก โดยเฉพาะในช่วงที่ผลไม้ออกเยอะ เราสามารถซื้อได้กิโลกรัมละไม่ถึง 10 บาท ต้นทุนไม่แพงราคาของเราก็เลยไม่แพง โดยขนาด 200 กรัม กระปุกละ 160 บาท ส่วนแบบโลว์ซูการ์ กระปุกละ 95 บาท

อย่างไรก็ดี แยมผลไม้ และไซรัป เป็นสินค้าไม่สามารถขายได้ในพื้นที่ เพราะคนในพื้นที่ไม่ได้กินแยม ปัจจุบันหลักขายในกรุงเทพฯ และ ส่งออกไปขายต่างประเทศ พม่า สิงคโปร์ เวียดนาม ฮ่องกง และแคนาดา ซึ่งปัจจุบันแยมผลไม้ ที่ทำจากผลไม้แบบ100% ได้รับความนิยม เพราะในบางประเทศผลไม้แพง และแยมที่นำมาทำผลไม้เป็นผลไม้ไทย ต่างประเทศชื่นชอบรสชาติของผลไม้ไทย และการทำแยมผลไม้ไทย ที่ทำจากผลไม้ 100% ได้รับความนิยมในต่างประเทศ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทางอิ่มใจ ได้รับจัดกระเช้า เพื่อลูกค้าที่ต้องการกระเช้าเพื่อสุขภาพ หรือ กระเช้าที่ตอบโจทย์กระแสคีโต และวีแกน


สำหรับพื้นที่ภาคอีสาน ถือว่าเป็นอีกแหล่งหนึ่งที่มีการปลูกผลไม้ได้หลากหลายด้วยพื้นที่อุดมสมบูรณ์ และคนส่วนใหญ่จะทำอาชีพการเกษตร ส่งผลให้ที่ผ่านมา จะได้ยินข่าวเรื่องปัญหาของเกษตรกรในพื้นที่ภาคอีสาน จะเจอปัญหาการโดนหลอกให้ปลูกพืชและผลไม้ และจะกลับมารับซื้อ สุดท้าย พอผลผลิตออกเยอะ คนที่อ้างว่าจะมารับซื้อก็ไม่มารับซื้อเพราะซื้อไม่ไหวสินค้าล้นตลาด ทำให้ผลไม้หลายชนิดราคาตกต่ำมาก เกษตรกรไม่รู้จะนำไปขายที่ไหน การแก้ปัญหายังไม่มีการแก้อย่างเป็นระบบ เกษตรกรต้องศึกษาตลาดก่อนลงมือปลูก จะได้ไม่ตกเป็นเครื่องมือพวกมิจฉาชีพที่มาหาผลประโยชน์

ติดต่อ FB :Imjaijam โทร. 08-1789-3464


คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น