เมื่อโควิด-19 มาพร้อมทั้งวิกฤตและโอกาสซึ่ง “บ้านธาตุดิน” ที่เป็นตำนานเครื่องปั้นดินเผาแห่งเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ที่ต้องพบเจอกับอุปสรรคและทำให้ธุรกิจดำเนินต่อค่อนข้างยาก แต่วิกฤตมาพร้อมโอกาสเสมอบ้านธาตุดินชูฝีมือสร้างลายไทยลงบนเครื่องปั้นดินเผาจนกลายเป็นชิ้นงานและสินค้าที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจนสามารถสร้างรายได้หลักหมื่นบาทต่อชิ้น
“ก่อนเกิดโควิด ออเดอร์เยอะมาก จนเราต้องเลือกว่า จะทำให้ใคร แต่พอเกิดโควิด ไม่มีรายได้เข้ามาเลย” นี่เป็นคำพูดของ “ปรางนรินทร์ เหมริด” เจ้าของผลงานเครื่องปั้นดินเผาเกาะสลักลายไทย “บ้านธาตุดิน” ตำนานที่มีชีวิตแห่งเกาะเกร็ด จ.นนทบุรี สะท้อนถึงความรุนแรงที่ได้รับจากวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปเมื่อกว่า 30 ปีก่อน “ชัยยุทธ เหมริด” และ “ปรางนรินทร์ เหมริด” ศิลปินผู้สร้างสรรค์งานเครื่องปั้นดินเผา “บ้านธาตุดิน” เคยประกอบอาชีพทำกระถางต้นไม้ดินเผา อยู่ที่เกาะเกร็ด จ.นนทบุรี แต่ด้วยอุปสรรคการขนส่งลำบาก ประกอบกับมีกระถางต้นไม้พลาสติกราคาถูกเข้ามาแย่งตลาด ทำให้หันมาสร้างสรรค์ปรับเปลี่ยนงานดินเผาให้มีขนาดชิ้นเล็กลง พร้อมใส่ฝีมือแกะสลักลายไทยเข้าไป กลายเป็นงานของฝากของขวัญของที่ระลึกแสนงดงามที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จนคว้ารางวัลระดับประเทศมามากมาย ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในสินค้าสัญลักษณ์ประจำแหล่งท่องเที่ยวเกาะเกร็ด
ทั้งนี้จุดเด่นของเครื่องปั้นดินเผาของ “บ้านธาตุดิน” คือ ความสวยงามของลายไทยแกะสลักลงบนเครื่องปั้นดินเผา รังสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ชุดแก้วกาแฟ โคมไฟ เป็นต้น ราคาต่อชิ้นหลักร้อยถึงหลักหมื่นบาท ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาซื้อหาถึงหน้าร้านที่เกาะเกร็ด ควบคู่กับรับผลิตตามออเดอร์ที่จะมีผู้สั่งไปจำหน่ายต่อ ช่วงที่ได้รับความนิยมสูงสุด ต้องเลือกคัดสรรว่า จะผลิตให้แก่ลูกค้ารายใด เนื่องจากมีข้อจำกัด ทำกันเองเพียงสองคน ไม่สามารถจะผลิตปริมาณมากได้พร้อมๆ กัน
แต่เมื่อเกิดโควิด-19 ทุกอย่างเปลี่ยนไป ปรางนรินทร์ เล่าว่า ได้รับผลกระทบรุนแรง เพราะไร้คนมาเที่ยวเกาะเกร็ด ออเดอร์ก็ถูกยกเลิกทั้งหมด ซ้ำเติมด้วยเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ และเนื่องจากไม่มีความรู้ และไม่เคยทำตลาดช่องทางใหม่ใดๆ เลย สถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่มีรายได้ใหม่เข้ามา ขณะที่เงินเก็บก็ร่อยหรอลงไปเรื่อย ๆ ทั้งเครียดและเจ็บปวด ได้แต่นั่งร้องไห้ ไม่รู้จะหาทางออกได้อย่างไร
นอกจากนี้วิกฤตที่เกิดขึ้นกับ “บ้านธาตุดิน” ดังกล่าว เป็นหนึ่งในผู้ประกอบการเอสเอ็มอี อีกจำนวนมากมายที่ได้รับผลกระทบเช่นกัน ดังนั้น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ในฐานะธนาคารเพื่อเอสเอ็มอีไทย จัดโครงการ “SME D ให้ใจ” กระจายทีมงาน SME D Coach ลงพื้นที่ทั่วประเทศ เข้าเยี่ยมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ถึงสถานประกอบการ เพื่อรับฟังปัญหา พร้อมให้คำปรึกษาแนะนำ และเสนอแนวทางช่วยเหลือ เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี สามารถแก้ปัญหาและพลิกฟื้นกิจการให้กลับมาเดินหน้าได้ดีอีกครั้ง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ราชรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ ของ SME D Bank อธิบายว่า ก่อนหน้านี้ ธนาคารได้ดำเนินโครงการ SME D Coach เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมาใช้บริการรับคำปรึกษาแนะนำธุรกิจครบวงจร ฟรี ผ่านระบบออนไซต์ และออนไลน์ ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับความนิยมจากผู้ประกอบการเอสเอ็มอีอย่างสูง
และเมื่อเกิดสถานการณ์โควิด-19 ธนาคารได้ทำงานเชิงรุก ต่อยอดโครงการ SME D Coach ด้วยการเดินทางเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบถึงสถานประกอบการเลย ไม่ต้องรอให้ลูกค้าเข้ามาหา ภายใต้ชื่อโครงการ “SME D ให้ใจ”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ เล่าต่อว่า “บ้านธาตุดิน” เป็นลูกค้า SME D Bank มายาวนาน ธนาคารเคยช่วยสนับสนุนเงินทุนซื้อวัตถุดิบและเสริมสภาพคล่อง เมื่อรู้ว่า กิจการกำลังประสบความยากลำบาก จึงได้ลงมาช่วยเหลือผ่านแนวทางช่วยพัฒนายกระดับธุรกิจ ให้สามารถเพิ่มรายได้ ขยายตลาด
“ผลิตภัณฑ์ของบ้านธาตุดิน มีศักยภาพสูงมากอยู่แล้ว จากความสวยงามที่ทรงคุณค่าทางวัฒนธรรมเคียงคู่เกาะเกร็ดมายาวนาน แต่ที่ผ่านมา จุดอ่อน ไม่มีช่องทางตลาดอื่นๆ เลย นอกจากขายหน้าร้าน กับรับผลิตตามออเดอร์ ดังนั้น เบื้องต้น ได้ช่วยเหลือนำทีมงานมาถ่ายภาพสินค้า พร้อมนำขึ้นแพลตฟอร์มออนไลน์ชื่อดัง เพื่อเปิดตลาดใหม่ให้ ควบคู่กับแนะนำ ให้ปรับดีไซน์สินค้า เหมาะกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือตอบเทรนด์ต่างชาติ รวมถึง ยังสนับสนุนสั่งเป็นสินค้าที่ระลึกของธนาคาร เพื่อเติมรายได้ให้บ้านธาตุดิน” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ศักดิ์สิทธิ์ ระบุ และเสริมว่า
“แม้ทั้งสองท่านจะเป็นศิลปิน แต่ก็พร้อมเปิดรับแนวคิดใหม่ๆ และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเรียนรู้การทำตลาดออนไลน์ ที่จะช่วยสร้างประโยชน์ให้ “บ้านธาตุดิน” สามารถขยายตลาด และที่สำคัญ ช่วยให้ภูมิปัญญาเครื่องปั้นดินเผาเกาะสลักลายไทยได้ยืนหยัดเป็นตำนานอยู่คู่กับเกาะเกร็ดตลอดไป”
ด้าน ปรางนรินทร์ เผยความรู้สึกหลังจากได้รับการสนับสนุนจาก SME D Bank ว่า “เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น และประทับใจมากๆ ที่ธนาคารไม่เคยทอดทิ้ง ซึ่งบริการเช่นนี้ คงหาไม่ได้จากธนาคารแห่งอื่นๆ และคำแนะนำที่ได้รับ ทำให้เราเห็นช่องทางจะพัฒนาสินค้า และตลาด โดย SME D Bank ก็จะคอยเคียงข้างช่วยเหลือเสมอ”
อย่างไรก็ตามแม้วิกฤตโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจของ SME D Bank ที่พร้อมช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กับความตั้งใจของตัวผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเอง เชื่อมั่นได้ว่า จะสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปได้ และพร้อมเดินหน้าต่อไปสู่การเติบโตที่เข้มแข็งและยั่งยืน
ติดต่อบ้านธาตุดินเพิ่มเติม
โทร.081-425-2022
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *