xs
xsm
sm
md
lg

บุก “บ้านมะขาม” SME แปรรูปมะขามส่งขายกับเซเว่นฯ ทั่วประเทศ ขายดิบขายดียอดขายกว่า 100 ล้านบาท!

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ทำความรู้จักกับ “บ้านมะขาม” เอสเอ็มอีไทยที่นำผลผลิตท้องถิ่นจังหวัดเพชรบูรณ์อย่าง “มะขาม” มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์กว่า 100 ประเภทและนำสินค้าไปวางขายกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่นกว่า 41 รายการ โดยปีที่ผ่านมาสามารถสร้างรายได้กว่า 100 ล้านบาท พร้อมนำนวัตกรรม “เครื่องกำจัดมอดในมะขามด้วยคลื่นความถี่วิทยุ” เป็นเจ้าแรกในประเทศไทย และตั้งเป้าการเติบโตเป็นแบรนด์สินค้าระดับโลกในอนาคต


นายธนนท์ โฆวงศ์ประเสริฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท สวนผึ้งหวาน จำกัด เล่าว่า ก่อนที่ตนจะเข้ามารับช่วงต่อธุรกิจ “บ้านมะขาม” นั้นตนได้ทำงานเกี่ยวกับงานออกแบบมาก่อน และได้เข้ามารับช่วงต่อเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว โดยตนได้เล็งเห็นศักยภาพของมะขามที่จะสามารถต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงขยายช่องทางการขายได้อีกมากมาย ทำให้ตนตระหนักได้ว่าถ้าหากนำความรู้ ความสามารถที่สั่งสมประสบการณ์มาพัฒนาและต่อยอดธุรกิจครอบครัวได้ คงเป็นเรื่องที่น่ายินดีไม่น้อย ซึ่งตนได้นำความรู้ด้านการออกแบบและความคิดสร้างสรรค์เข้ามาปรับใช้กับผลิตภัณฑ์ต่างๆ จนกลายเป็นจุดแข็งให้สินค้าของแบรนด์ “บ้านมะขาม” เนื่องจากในปัจจุบันการออกแบบแพคเกจจิ้งและคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่จะเป็นที่จับตามองในกลุ่มผู้บริโภคค่อนข้างดี


เมื่อปี 2540 ซึ่งอยู่ในช่วงที่ประเทศไทยประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจต้มยำกุ้ง ทำให้ธุรกิจต่างๆ ได้รับผลกระทบหนัก ซึ่งครอบครัวของตนก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน เนื่องจากก่อนที่จะหันมาทำธุรกิจบ้านมะขามคุณพ่อของตนได้ทำอาชีพเป็นสถาปนิก เมื่อเจอวิกฤตต้มยำกุ้งทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่างๆ ได้รับผลกระทบโดยตรง ประจวบกับคุณแม่ของตนเป็นคนในจังหวัดเพชรบูรณ์ซึ่งโด่งดังเรื่องมะขาม เมื่อกลับบ้านมาก็จะมีเหล่าเพื่อนๆ ฝากซื้อมะขามจากแม่ของตน เนื่องจากมะขามจะค่อนข้างหาซื้อยากในกรุงเทพฯ ซึ่งปัญหาของการฝากซื้อคือจะมีมะขามบางส่วนเสียหาย เช่น ราขึ้น มีแมลง ทำให้ได้รับมะขามจำนวนน้อยกว่าที่ต้องการ นอกจากนี้การกินมะขามของเหล่าผู้หญิงอาจจะมีการบ้วนเมล็ดทิ้ง ซึ่งอาจจะทำให้ภาพลักษณ์ดูไม่ดี ทำให้คุณแม่ของตนคิดค้นและหาวิธีที่เหมาะสมกับตลาดในกรุงเทพฯ โดยเริ่มแรกนำมะขามมาแปรรูปคลุกกับน้ำตาลในชื่อ “มะขามคลุกเสวย” เป็นมะขามไร้เมล็ดคลุกน้ำตาลและได้นำไปวางขาย ซึ่งผลตอบรับดีเกินคาดสามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดี


สำหรับจุดเด่นของบ้านมะขาม คือ เรื่องคุณภาพของมะขาม เนื่องจากมะขามเป็นสินค้าที่ดูแลค่อนข้างยาก อาจจะมีแมลงหรือเกิดความชื้นได้ง่าย รวมถึงฝักของมะขามนั้นจำเป็นต้องคัดเลือกอย่างดี ซึ่งบ้านมะขามจะมีพนักงานแผนกคัดโดยเฉพาะ เนื่องจากการคัดฝักมะขามนั้นเครื่องจักรจะมีประสิทธิภาพได้ไม่ดีนัก จุดเด่นเรื่องที่สองคือ การใช้นวัตกรรมการป้องกันแมลง โดยวิจัย “เครื่องกำจัดมอดมะขามด้วยคลื่นความถี่วิทยุ” ขึ้นมา ซึ่งใช้เวลาในการวิจัยทั้งหมด 2 ปี เริ่มตั้งแต่ปี 2557 เสร็จสิ้นในปี 2559 ซึ่งถือเป็นนวัตกรรมการกำจัดมอดในมะขาม 100% รายแรกของประเทศไทย และเมื่อได้เครื่องกำจัดมอดมาแล้วนั้นทำให้กลายเป็นจุดเปลี่ยนในการขายมะขามอบแห้งได้โดยไม่มีปัญหา ขณะที่ปัญหาเรื่องสีหมองคล้ำของมะขามนั้นแก้ไขโดยการออกแบบแพคเกจจิ้งไม่ให้มีอากาศเข้าสู่ตัวสินค้าด้วยการใช้กระป๋องฝาฟอยล์ช่วยยืดระยะเวลาการไหลเข้าของอากาศได้อีก 2-3 เดือน จากเดิม 4-5 เดือน เป็น 6-9 เดือน


ทั้งนี้มะขามที่ทางแบรนด์นำมาแปรรูปเป็นสินค้าต่างๆ นั้นส่วนใหญ่จะรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์เกือบ 100 % ซึ่งผลผลิตมะขามรวมกันทั้งหวัดจะอยู่ที่ 5.2 หมื่นตันต่อปี ส่วนบ้านมะขามจะใช้ผลผลิตมะขามอยู่ที่ประมาณ 3,000 ตันต่อปี ซึ่งบ้านมะขามมีพื้นที่เพาะปลูกต้นมะขามประมาณ 100 ไร่ และผลิตภัณฑ์ของบ้านมะข้ามจะใช้มะข้ามพันธุ์ “สีชมพู” เป็นหลัก นอกจากนี้เหตุผลที่เลือกรับซื้อมะขามจากเกษตรกรเป็นหลักนั้น เพราะว่าทางแบรนด์ต้องการผลผลิตมะขามจำนวนมากจึงจำเป็นต้องรับซื้อจากเกษตรกรในพื้นที่และเป็นเกษตรกรที่มีอายุมาก เนื่องจากต้องการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีรายได้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนกว่า 100 ล้านบาทต่อปี รวมถึงทางแบรนด์ตั้งใจจะทำให้พื้นที่ 100 ไร่เป็นสมาร์ทฟาร์มเพื่อนำความรู้ไปเผยแพร่ให้เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจในอนาคต


สำหรับสินค้าทั้งหมดของแบรนด์บ้านมะขามในตอนนี้นั้นมีจำนวนมากกว่า 100 ประเภท ซึ่ง 41 ประเภทถูกวางขายในร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั่วประเทศ ส่วนสินค้าประเภทอื่นที่เหลือจะถูกกระจายไปตามห้างสรรพสินค้า โมเดิร์นเทรดต่างๆ รวมถึงส่งออกไปยังต่างประเทศ นอกจากนี้ในแต่ละปีจะมีการวางแผนเตรียมออกสินค้าตัวใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในการคิดค้นสินค้าแต่ละประเภทนั้นจะได้ไอเดียมาจากฟีดแบกของลูกค้าและได้มีการสำรวจพฤติกรรมลูกค้าว่าต้องการสินค้าแบบไหนบ้าง เช่น มะขามอบแห้ง ที่ได้รับไอเดียมาจากลูกค้าในเรื่องของการขายสินค้าที่ดีต่อสุขภาพ เนื่องจากในช่วงนั้นจะมีสินค้าที่เป็นมะขามคลุกน้ำตาลเป็นส่วนมาก ซึ่งลูกค้าต้องการสินค้าที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น ทางแบรนด์จึงคิดค้นตัวมะขามอบแห้งขึ้นมาในที่สุด ปัจจุบันนำสินค้าวางขายในเซเว่นฯ มาได้ประมาณ 22 ปี


สินค้าทั้ง 41 ประเภทที่วางขายและขายดีที่สุดในร้านเซเว่นฯ ได้แก่ 1.มะขามคลุก 4 รส 2.มะขามเปรี้ยวแซ่บ 3.มะขามหวานแซ่บ 4.มะขามอบแห้ง ซึ่งเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุด โดยส่วนมาก 90% ลูกค้าที่สนใจและให้ความนิยมจะเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชายและอยู่ในช่วงวัยทำงาน นอกจากนี้ยังมีส่งออกไปยังต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าต่างประเทศที่ให้ความสนใจส่วนใหญ่จะเป็นคนเอเชีย ซึ่งจะมีความคุ้นชินกับมะขามมากกว่า ทั้งนี้ทางแบรนด์ได้มีการทำการตลาดต่างประเทศด้วยการนำสินค้าไปออกบูธตามงานต่างๆ เพื่อให้กลุ่มลูกค้าต่างชาติได้มองเห็นสินค้าของทางแบรนด์มากยิ่งขึ้น ซึ่งบ้านมะขามเองเป็นเจ้าแรกๆ ที่นำมะขามแปรรูปไปทำการตลาดในต่างประเทศ รวมถึงประยุกต์ผลไม้อื่นที่ต่างประเทศรู้จัก เช่น กล้วย นำมาประยุกต์กับมะขามกลายเป็น กล้วยไส้มะขาม เพื่อสร้างการเรียนรู้มะขามให้ต่างชาติได้รู้จักมากยิ่งขึ้น ปัจจุบันส่งออกไปต่างประเทศประมาณ 10 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ฮ่องกง เวียดนาม ออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน ฟิลิปปินส์ อังกฤษ เยอรมนี รวมถึงอาหรับและประเทศแถบตะวันออกกลางที่จะเป็นสินค้าประเภทน้ำมะขามเปียกสำเร็จรูปที่ส่งออกไปขาย


นอกจากนี้ในช่วงโควิด-19 นั้นทางแบรนด์ได้รับผลกระทบช่วงที่มีมาตรการล็อคดาวน์ เนื่องจากลูกค้าหลักคือลูกค้าที่เข้าร้านเซเว่นฯ เมื่อเกิดการล็อคดาวน์ผู้คนออกจากบ้านในเวลาจำกัดจึงทำให้ได้รับผลกระทบ แต่ทางแบรนด์ได้มีการจัดการกับปัญหาดังกล่าวด้วยการนำสินค้าเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์มากขึ้น ทำให้ยอดขายในช่วงโควิด-19 สามารถเติบโตได้แม่ต้องเจอกับอุปสรรคและปัญหาต่างๆ เข้ามา อีกทั้งในช่วงปีที่ผ่านมาบ้านมะขามสามารถสร้างยอดขายกับเซเว่น อีเลฟเว่นได้ถึง 100 ล้านบาท ยอดขายรวมทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตในปี 2566 ที่ประมาณ 20%


ทั้งนี้บ้านมะขามมีเคล็ดลับในการดำเนินธุรกิจ คือ การปรับเปลี่ยนสินค้าต่างๆ และพัฒนาโปรดักส์อยู่เสมอ การทำการตลาดให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ดึงดูดความสนใจด้วยการออกแบบแพคเกจจิ้งให้สวยงาม อย่างไรก็ตาม เรื่องราวความสำเร็จของ “บ้านมะขาม” นั้นผ่านการสั่งสมและบ่มเพาะประสบการณ์มาเป็นอย่างดี จนได้มาเป็น 7-Eleven SME DNA ที่มีจุดเด่นของ DNA ทั้ง 5 ข้อ ตั้งแต่ “นักคิด” มีไอเดียในการผลิตสินค้าใหม่ๆ อยู่เสมอ “นักพัฒนา” นำความคิดมาพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์ “นักสู้” ไม่ย่อท้อแม้เจอปัญหา อุปสรรค “นักแก้ปัญหา” เจอปัญหาก็พร้อมที่จะหาทางแก้ไข เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และ “นักสร้าง” สร้างสัมพันธ์ที่ดี พร้อมส่งต่อความยั่งยืนกลับสู่ชุมชน ไม่มุ่งหวังผลกำไรเพียงอย่างเดียว

ติดต่อเพิ่มเติม

Facebook : 
บ้านมะขาม




















* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น