ผักและผลไม้ออร์แกนิกนั้นหลายคนคงทราบดีว่ามีราคาค่อนข้างสูง และยิ่งถูกวางขายในห้างสรรพสินค้าต่างๆ ก็ยิ่งเพิ่มมูลค่ามากขึ้น ซึ่งผักและผลไม้ที่มีรูปร่างหน้าตาภายนอกไม่สวยหรือไม่เกลี้ยงเกลาตามเกณฑ์ แต่คุณภาพและสารอาหารนั้นมีเท่ากันถูกมองข้าม ในบางครั้งอาจกลายเป็นขยะไปโดยปริยาย แต่แบรนด์ Fat from Farm กลับเห็นต่าง เล็งเห็นโอกาสในการสร้างธุรกิจและช่วยเกษตรกร ผุดแพลตฟอร์มขายผักและผลไม้ออร์แกนิกจากสวนเกษตรกรทั่วประเทศมาขายในราคาที่ถูกลง พร้อมส่งต่อคุณภาพและคุณประโยชน์ให้กับลูกค้า รวมถึงลดปัญหา Food Waste อีกด้วย
นายอิทธิกร พ่วงโกศล เจ้าของแบรนด์ Fat from Farm พร้อมกับ ปีย์วรา ผดุงสัตยวงศ์และภัทรนิดา ตั้งจิตเจริญ ทีมงานของทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่า จุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์นั้นมีที่มาจากการที่เจ้าของแบรนด์นั้นทำงาน Startup ด้านแอปพลิเคชั่นขายของกินและของใช้ แต่ต้องหยุดไปเนื่องจากได้รับผลกระทบของเศรษฐกิจโลก หลังจากนั้นเจ้าของแบรนด์ได้มีโอกาสพูดคุยกับเกษตรกรที่มาออกบูธขายผลไม้ในห้างสรรพสินค้า ซึ่งเป็นการทำเกษตรแบบออร์แกนิก 100% และได้ทราบถึงปัญหาที่มีของเกษตรกร คือ การที่ผลผลิตถูกทิ้งระหว่างทาง เพราะว่าผู้ซื้อปลายทางที่เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตมองว่าเป็นผักและผลไม้ที่มีรูปร่าง หน้าตาและขนาดไม่สวยและไม่ตรงตามเกณฑ์ที่จะสามารถนำไปวางขายได้ แต่ในมุมมองของทางแบรนด์นั้นมองว่าผักออร์แกนิกในห้างฯ ราคาสูงมาก ซึ่งทำให้กลายเป็นการปิดกั้นโอกาสของผู้บริโภคหลายๆ คนที่จะได้บริโภคผักและผลไม้ดีๆ ทางแบรนด์จึงอยากต่อยอดจากประสบการณ์ที่มีเพื่อแก้ปัญหาและเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับลูกค้าหรือผู้บริโภคและเกษตรกร ในการเปลี่ยนแปลงผลผลิตที่ไม่ผ่าน Beuaty Standard ไปขายในราคาที่ถูกกว่าในห้างฯ ประมาณ 30-40% และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าด้วยการมีบริการส่งสินค้าถึงบ้าน และนี่จึงเป็นที่มาของการสร้างแบรนด์ Fat from Farm ผักและผลไม้ออร์แกนิกที่มีราคาถูกกว่าในห้างฯ ปัจจุบันดำเนินธุรกิจมาได้ประมาณ 1 เดือน
จุดเด่นและความพิเศษของผักออร์แกนิกนั้น ทางแบรนด์เผยว่า แน่นอนว่าความพิเศษจะเป็นเรื่องของราคาที่ถูกกว่าในห้างฯ ซึ่งลูกค้านั้นมีความต้องการผักและผลไม้เหล่านี้อยู่แล้ว ผักและผลไม้มีคุณภาพเหมือนกันแต่ได้ในราคาที่ถูกลง ส่วนเรื่องของรูปร่างหน้าตาที่ไม่สวยนั้น ผู้บริโภคมองว่าสิ่งที่สำคัญกว่านั้น คือ เรื่องการลดปัญหาของ Food Waste ช่วยเกษตรกรอีกด้วย
นอกจากนี้สำหรับผู้บริโภคที่กินผักผลไม้ทั่วไป แต่อาจจะไม่ใช่ออร์แกนิกนั้น ทางแบรนด์ต้องการจะเป็นแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่ให้ความรู้ผ่าน Social Media ในหลายๆ ช่องทาง เช่น Facebook TikTok เพื่อที่จะได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้มากขึ้นและเป็นช่องทางให้ลูกค้าหันมาลองกินผักและผลไม้ออร์แกนิก ซึ่งประโยชน์ของผักและผลไม้ออร์แกนิกนั้นมีทั้งเรื่องความสะอาด ปลอดภัย ไร้สารพิษ สดใหม่และได้คุณภาพ รวมถึงเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจากการไม่ใช้สารเคมีใดๆ ปัจจุบันรายการผักและผลไม้ของทางแบรนด์นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงในทุกสัปดาห์ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานั้นๆ ที่เกษตรกรมีผลผลิตและผักผลไม้ประเภทไหนบ้างที่สามารถส่งให้ได้ ทั้งนี้ผักและผลไม้ส่วนใหญ่รับมาจากเกษตรกรรายย่อยที่ทำสวนออร์แกนิกทั่วประเทศ
ในส่วนของเทคนิคและกลยุทธ์ในการทำการตลาดนั้น ทางแบรนด์จะเน้นโปรโมทสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์และโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook Instagram และ TikTok เป็นต้น นอกจากนี้สำหรับกลุ่มลูกค้าและกลุ่มเป้าหมายนั้น ทางแบรนด์จะเน้นไปที่กลุ่มแม่บ้าน ที่ปกติจะซื้อวัตถุดิบมาทำอาหาร ร้านอาหารรายย่อยที่ให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบและเลือกใช้ผักผลไม้สดออร์แกนิกในการปรุงอาหารให้กับลูกค้า นักศึกษาที่อาศัยในหอพักต่างๆ ที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายแต่ยังคงต้องการผักและผลไม้ที่ได้คุณภาพปลอดสารพิษ และกลุ่มคนรักสุขภาพ ผักและผลไม้ออร์แกนิกของทางแบรนด์จะตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ในส่วนของกำลังการผลิตนั้นปัจจุบันทางแบรนด์ได้ส่งมอบออเดอร์ให้ลูกค้าอยู่ที่ประมาณ 100-200 กิโลกรัมต่อสัปดาห์ ซึ่งทางแบรนด์เองก็กำลังขยายฐานผลิต ทีมงานและคลังสินค้าให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า โดยทางแบรนด์คาดว่าน่าจะมีออเดอร์จากลูกค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และในอีกประมาณ 3 เดือน ทางแบรนด์จะขยายระบบให้สามารถรองรับออเดอร์ของลูกค้าได้เพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 10 เท่าหรือ 1 ตันต่อสัปดาห์
ทั้งนี้อายุและการเก็บรักษาผักและผลไม้ออร์แกนิกนั้น ทางแบรนด์ให้ข้อมูลว่า อายุผักเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของทางแบรนด์ เนื่องจากแบรนด์ทำงานกับเกษตรกรและส่งมอบสินค้าให้ลูกค้าโดยตรง ทำให้ลูกค้าสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าจากแบรนด์จะมีอายุจากหน้าสวนจนถึงมือลูกค้าไม่เกิน 1-2 วัน เทียบกับในห้างฯ ประมาณ 4-5 วัน
นอกจากนี้เกรดและคุณภาพของผักผลไม้นั้นแน่นอนว่า ออร์แกนิก 100% เพียงแต่อาจจะมีรูปร่างหน้าตาภายนอกไม่สวยงามหรือเกลี้ยงเกลามากนัก แต่ว่าไม่มีผลใดๆ ต่อสุขภาพหรือรสชาติของผักและผลไม้เหล่านี้ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทางแบรนด์พยายามบอกกล่าวลูกค้าอยู่เสมอ ทั้งนี้เหตุผลที่ขายในราคาที่ถูกกว่าในห้างฯ นั้น ทางแบรนด์มองแตกต่างอกไปและเล็งเห็นความสำคัญของเกษตรกรและลูกค้า ทางแบรนด์สามารถเชื่อมต่อลูกค้าที่ให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าสารอาหารมากกว่ารูปร่างหน้าตาภายนอกของผลักและผลไม้ และเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้เกษตรกรได้เข้าถึงช่องทางการขายมากขึ้น
ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้านั้นดีเกินคาด ทางแบรนด์ได้โพสต์คลิปวิดีโอในช่อง TikTok ที่มีชื่อว่า @fatfromfarm มียอดการเข้ารับชม 250K ใน 1 คืน และแสดงความคิดเห็นเกือบร้อยคน ซึ่งฟีดแบกที่ได้จากลูกค้าคือ ลูกค้ามีความตื่นเต้นกับการซื้อผักสดออร์แกนิกแบบใหม่ที่มองเห็นความสำคัญของเกษตรกรและลูกค้า รวมถึงสนับสนุนการแก้ปัญหา Food Waste อีกด้วย ซึ่งมีหลายคนแสดงความคิดเห็นว่า ทางแบรนด์สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ซึ่งปัญหาที่ต้องแก้คือ ผักและผลไม้ออร์แกนิกที่มีราคาสูง ปัจจุบันสามารถสั่งซื้อผักและผลไม้ออร์แกนิกผ่านไลน์แอดของทางร้านโดยตรง และทางแบรนด์เองก็กำลังเร่งพัฒนาเว็บไซต์เพื่อรองรับความต้องการและสะดวกต่อการสั่งซื้อของลูกค้า
อย่างไรก็ตามในอนาคตทางแบรนด์ได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจเป็น 2 ระยะ ได้แก่ ระยะสั้น ทางแบรนด์ต้องการพัฒนาการบริการให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เช่น สามารถขยายได้ทั่วประเทศ ขยายวันในการส่งสินค้าเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับลูกค้า ส่วนระยะยาวนั้น ทางแบรนด์วางแผนว่าอาจจะนำผักและผลไม้มาแปรรูปและทำแบรนด์ของตัวเอง หรืออาจจะเป็นการขยายไปสู่ Product Line กลุ่มใหม่ แต่ยังคงคอนเส็ปต์เรื่องการลดปัญหาของขยะอาหาร รวมถึงสร้างความยั่งยืนและช่วยผู้บริโภคเข้าถึงผักและผลไม้ออร์แกนิกในราคาที่ถูกลงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้แล้วทางแบรนด์ยังตั้งเป้าที่จะลด 1% ของขยะอาหารประเภทผักและผลไม้ในประเทศไทยในแต่ละปีอีกด้วย
ติดต่อเพิ่มเติม
Facebook : Fat-from-Farm
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *