xs
xsm
sm
md
lg

“เจ้นวลจันทร์” เจ้าของร้านเพชร วิกฤตโควิดเปิดร้านส้มตำต่อชีวิต ใครจะเชื่อ!! รวยกว่า..ร้านเพชร

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ในช่วงที่ผ่านมา วิกฤติโควิด-19 ทำให้ได้เห็นการลุกขึ้นมาสู้ชีวิตของผู้ประกอบการในหลายรูปแบบ วันนี้ มีผู้ประกอบการที่เจอเผชิญกับวิกฤตโควิด ทำให้ต้องหันมาทำในสิ่งที่ไม่ได้คิดว่าจะทำ แต่ชั่วโมงนั้น ทำอะไรก็ได้ ขอให้แค่รอด มีกิน มีใช้ไปวันๆ ใครจะคิดว่า ในวิกฤตมันคือ โอกาส อย่าง “นวลจันทร์ คำใบ” อดีตเจ้าของร้านเพชร “กฤษเพชร จิวเวลลี่” ที่ผันตัวเองมาเปิดร้านส้มตำ เพราะวิกฤตโควิด เมื่อปี 2563


นักสู้ลูกอีสานเจ้าของร้านเพชร.. มาขายส้มตำ

“นวลจันทร์” เล่าว่า ตนเองและสามีทำธุรกิจร้านเพชร อยู่ที่อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี มีทั้งหน้าร้าน และประกอบตัวเรือนทำโรงงานจิวเวลลี่ ไปพร้อมๆ กัน ทำมาได้ 5 ปี ก็ต้องมาเจอกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไปตั้งแต่นั้นเป็นต้น เพราะผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้ลูกค้าหายหมด ในขณะที่ภาระหนี้สิน และลูกน้องอีกกว่า 30 ชีวิต ยังต้องเดินต่อไป ทำให้ต้องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง แต่ในช่วงนั้นไม่ได้มีทางเลือกมากนัก เพราะทุกอย่างหยุดชะงักไปหมด นอกจากการขายอาหาร เพราะทุกคนยังต้องกิน ก็ชวนน้องๆ ที่ยังทำงานอยู่ด้วยกัน มาเปิดร้านส้มตำ อาศัยว่าตัวเองเป็นลูกอีสาน เป็นคนจังหวัดหนองคาย แต่งงานสามี ย้ายมาอยู่จังหวัดปทุมธานี

นวลจันทร์ คำใบ
“การทำส้มตำก็พอจะมีฝีมืออยู่บ้าง และเพื่อดูแลลูกน้องให้อยู่รอดได้เวลานั้น อะไรพอจะทำได้ก็ทำ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนร้านเพชร มาเป็นหน้าร้านส้มตำ ตำส้มตำขาย และได้สูตรผักดองมาจากครอบครัว เอามาทำขายควบคู่ไปด้วย ซึ่งต้องบอกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับตนเองในวันนั้น เพราะเคยจับเงินล้าน ใช้ของแบรนด์เนม ขับรถหรู ใส่เครื่องประดับแพง ทั้งตัวรวมกันหลักล้านบาทเวลาออกจากบ้าน แต่พอวันหนึ่งต้องมานั่งตำส้มตำ หรือ ทำผักดองถุงละ 20 บาท ขาย จากเคยจับเงินล้านต่อวัน ต้องมาจับเงินหลักร้อย คนที่มองเข้ามาเวลาร้องขายผักดอง หรือ ส้มตำ เป็นสิ่งที่ทำร้ายจิตใจเราอย่างมากในเวลานั้น”

“และวันที่เราไม่มีทางออกคิดแม้กระทั่งจะฆ่าตัวตาย แต่ต้องกลับมาคิดใหม่แบบนักสู้ลูกอีสาน ถ้าเราไม่เลือกงาน ทำอะไรก็ได้ แค่ขายส้มตำ หรือ ขายผักดอง ก็คงจะไม่ต้องอายอะไร เพราะเป็นอาชีพที่สุจริต และครั้งนี้ ทำให้เรากลับมามองตัวเอง ว่าผิดพลาดอะไร และต้องปรับปรุงตัวอย่างไร จนสุดท้ายด้วยฝีมือการตำส้มตำ และการทำผักดองของ “คุณนวลจันทร์” ในวันนั้น ไม่ทำให้เขาผิดหวัง เพราะสามารถต่อยอดสร้างอาชีพใหม่ที่มั่นคง และได้จับเงินล้านได้เช่นกันจากอาชีพแม่ค้าส้มตำ และจากขายส้มตำหน้าบ้าน ก็ค่อยขยับมาเป็นส้มตำขึ้นห้าง ในรูปแบบของส้มตำพาสเจอร์ไรท์ วางขายตามห้างสรรพสินค้า ที่มีสาขามากกว่า 150 สาขา มีรายได้หลักหลายล้านบาทต่อเดือน”


กว่าจะเดินมาถึงเส้นทางความสำเร็จ
เจ้นวลจันทร์ อีสานบ้านเหรียญ

“นวลจันทร์” เล่าถึงวันที่กว่าจะประสบความสำเร็จในอาชีพขายส้มตำ ก็ต้องผ่านอะไรมาเยอะมาก เริ่มจากวันแรกที่ขายส้มตำ ต้องบอกว่าแทบจะขายไม่ได้เลย ค่อยขายได้มากขึ้น พอได้กินแล้วอร่อยบอกต่อ บางคนก็โทรมาสั่งซื้อตอนกลางคืน ทำให้เราคิดว่าแล้วจะทำอย่างไรถึงจะทำส้มตำเสิร์ฟลูกค้าได้ตลอดเวลา เป็นที่มาของส้มตำพาสเจอร์ไรส์ไปเสนอขายในห้างสรรพสินค้า ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการทำอาหารสด ส่งขายในห้างฯ แต่โชคดีที่ทางห้างเปิดใจรับสินค้าของเรา เพราะยังไม่เคยมีใครทำส้มตำพาสเจอร์ไรส์ ขายบนห้างมาก่อน แต่ต้องใช้ต้นทุนสูง ต้องวางขายก่อน ขายได้ถึงจะได้เงิน และขายไม่หมดเราก็ต้องรับผิดชอบเอง กระบวนการผลิตต้องได้มาตรฐาน รอบแรกที่ไปวางขาย ขายได้ไม่ถึง 10 กล่อง และต่อมาค่อยๆเพิ่มขึ้นเรื่อย จนสามารถส่งขายมากกว่า 150 สาขา รายได้หลัก 10 ล้านบาทต่อเดือน


โควิดคลี่คลายส้มตำกล่องไม่ใช่ทางเลือก
เจ้นวลจันทร์ลุยตลาดน้ำส้มตำปรุงรสรายแร

ทั้งนี้ หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ทุกคนออกจากบ้านได้ วันนี้ ส้มตำกล่องสำเร็จรูปยอดขายลดลงไป เพราะหลายคนเลือกที่จะมากินหน้าร้าน เพราะยังไงส้มตำสำเร็จรูปรสชาติไม่ได้เหมือนกับการกินหน้าร้าน “คุณนวลจันทร์” เจ้าของแบรนด์ เจ้นวลจันทร์ อีสานบ้านเหรียญ ได้ต่อยอดจากส้มตำกล่อง มาสู่ธุรกิจน้ำส้มตำสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ “น้ำส้มตำปรุงรสเจ้นวลจันทร์” ที่ผ่านการรับรอง GMP และHACP ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ รวมทั้งได้ผ่าน FDA (Food and DrugAdministration)อย.เป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงมั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย

สำหรับน้ำส้มตำปรุงรส เจ้นวลจันทร์ ไม่ได้ใช้แค่ทำส้มตำ แต่สามารถต่อยอดทำยำต่างๆ หรือ ปรุงเมนูน้ำพริกปลาร้า และอื่นๆ โดยน้ำส้มตำปรุงรส เจ้นวลจันทร์ ทำออกมา 2 สูตร คือ น้ำส้มตำลาว และน้ำส้มตำไทย โดยน้ำส้มตำลาวสามารถนำมาปรุงเมนูน้ำพริกปลาร้า ยำต่างๆ ส่วน น้ำตำไทย ใช้ปรุงเมนู ส้มตำไทย ยำมะม่วง ยำปลาดุกฟู ปลาราดพริก น้ำจิ้มลูกชิ้นต่างๆ และยังปรุงได้ทุกเมนูตามที่คุณต้องการ


คุณนวลจันทร์ บอกว่า ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่ตนเองได้เห็นน้ำส้มตำ เพราะปกติจะมีแต่น้ำปลาร้า และนำมาทำส้มตำ แต่นี้เป็นน้ำส้มตำสำเร็จรูป เหมาะกับคนที่ไม่ต้องการเตรียมเครื่องปรุงรสส้มตำที่ยุ่งยาก และรสมือของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าใช้น้ำส้มตำ ก็จะได้รสชาติ เหมือนกับการกินส้มตำหน้าร้าน ซึ่งหลังจากได้ไปเปิดตลาดแนะนำน้ำส้มตำที่ประเทศเพื่อนบ้าน ลาว กัมพูชา ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากตัวแทนจำหน่าย สั่งกันคนละ 200 ลัง 300 ลัง บางราย 500 ลัง ส่วนตลาดในประเทศ ตอนนี้ได้กระจายสินค้าไปทั่วประเทศ มีตัวแทนมารับไปจำหน่ายต่อ ราคาขายปลีก น้ำส้มตำปรุงรส ขายในราคาขวดละ 45 บาท

“เจ๊นวลจันทร์” นักสู้ลูกอีสาน เธอได้ประสบการณ์ชีวิต ที่อาจจะหาไม่ได้ในช่วงปกติ เป็นแบบอย่างให้กับคนไทยอีกหลายคนที่พบเจอพิษจากเศรษฐกิจ เพราะเส้นทางการทำธุรกิจในยุคนี้ อาจจะไม่ได้ง่าย ใจต้องสู้ ถึงจะรอดได้ เช่นเดียวกับ “เจ้นวลจันทร์” นักสู้ลูกอีสาน เจ้าของร้านเพชร รายนี้ ผ่านเรื่องราวการทำธุรกิจแบบล้มลุกคลุกคลานมาหลายครั้ง ไม่ว่าจะเป็นการทำสวนยางพารา และราคายางตก หันมาทำร้านเพชร เจอวิกฤตโควิด หรือ แม้แต่การทำส้มตำพาสเจอร์ไรส์ ไม่ใช่เรื่องง่าย จนวันนี้ ไม่ยอมแพ้เดินหน้าลุยต่อสร้างธุรกิจ “น้ำส้มตำปรุงรส เจ้นวลจันทร์”

Facebook : อีสานบ้านเหรียญ ผักดองโบราณ เจ๊นวลจันทร์
โทร.08-1666-4441







น้ำส้มตำปรุงรส
 คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุ


กำลังโหลดความคิดเห็น