จาก 500 สู่หลักหมื่นใน 2 เดือนสำหรับร้าน “แซนวิชโบราณ TU” นักศึกษาปี 4 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เริ่มต้นขายแซนวิชโบราณมาตั้งแต่ ปี 2 แต่เจอโควิด-19 เล่นงานจึงปิดร้านไปชั่วคราว และกลับมาเปิดใหม่อีกครั้ง ช่วงแรกขายไม่ค่อยได้ ต้องอดทนและหันไปเอาดีด้านการโปรโมตสินค้าผ่าน TikTok “คลิปหั่นแซนวิชผิดด้าน” แจ้งเกิดอีกครั้ง คนดูและติดตามเพิ่มขึ้นจากหลักร้อยหลักพัน สู่หลักหมื่นในที่สุด
นางสาวนลพรรณ บัวคลี่ เจ้าของร้านแซนวิชโบราณ TU เล่าว่า จุดเริ่มต้นในการเปิดร้านขายแซนวิชโบราณนั้นเริ่มต้นช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด ซึ่งในช่วงนั้นตนยังเรียนอยู่ชั้นปี 2 และมีความคิดที่อยากขายของเพื่อหารายได้เสริมบวกกับเรียนควบคู่ไปด้วย ประจวบกับในช่วงนั้นแซนวิชโบราณกำลังเป็นที่นิยมค่อนข้างมาก ทำให้ตนเริ่มทำขาย โดยปรับสูตรน้ำสลัดเป็นสูตรของตัวเอง และเริ่มขายในราคากล่องละ 35 บาท 3 กล่อง 100 บาท ลูกค้ากลุ่มแรกจะเป็นกลุ่มเพื่อน และเพื่อนก็ได้แนะนำว่ามมีกลุ่มเฟซบุ๊กสำหรับโพสต์โปรโมทสินค้าและของกิน ตนจึงเริ่มโพสต์โปรโมทและได้ลูกค้าจากเพจ ต่อมาตนจึงเริ่มเปิดเพจในอินสตาแกรมเพื่อขยายฐานลูกค้ามากยิ่งขึ้น หลังจากนั้นไม่นานประมาณ 2 เดือน โควิด-19 ก็เริ่มระบาดและรุนแรงขึ้น ส่งผลให้นักเรียน นักศึกษาจำเป็นต้องเรียนออนไลน์ ทำให้ตนได้หยุดขายไปประมาณ 2 ปี
ปัจจุบันตนอยู่ชั้นปีที่ 4 และได้เริ่มกลับมาขายแซนวิชใหม่อีกครั้ง แต่เนื่องด้วยเศรษฐกิจค่อนข้างไม่ดีจึงทำให้ขายไม่ค่อยดีนัก ส่งผลให้ต้องขายกล่องละ 35 บาท โดยไม่มีราคา 3 กล่อง 100 บาท เนื่องจากวัตถุดิบมีราคาสูงขึ้น นอกจากนี้ตนได้พัฒนาสินค้าและการตลาดเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น โดยการเพิ่มไส้แซนวิชขึ้นมาจากเดิมที่มีเพียงไส้เดียว ปัจจุบันมีประมาณ 6-7 ไส้ ได้แก่ แซนวิชโบราณหมูหยอง แซนวิชพริกเผาโบราณ แฮมชีส คอร์นสลัดแฮมชีส คอร์นสลัดปูอัดไข่กุ้ง และนูเทลล่ากล้วยฝอยทอง ซึ่งลูกค้าจะชื่นชอบแซนวิชโบราณหมูหยองมากที่สุด ทั้งนี่เริ่มทำการตลาดออนไลน์ โดยการทำคลิปวิดีโอโปรโมตผ่าน TikTok ซึ่งเมื่อลงคลิปวิดีโอใน TikTok แล้วนั้นก็ทำให้มีลูกค้าเห็นสินค้ามากขึ้น เริ่มมีลูกค้าตามมาสั่งซื้อเพิ่มขึ้น รวมถึงในแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่ก็ดีขึ้นตามลำดับ
จุดเด่นและความพิเศษของแซนวิชโบราณนั้นทางร้านจะปรับสูตรน้ำสลัดให้ตอบโจทย์คนในปัจจุบัน โดยการปรับให้มีความหวานที่ค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบกับน้ำสลัดโบราณในอดีตจะมีความหวานมากกว่า ซึ่งทางร้านจะเสิร์ฟคู่กับหมูหยอง เมื่อกินแล้วจะให้รสชาติที่ลงตัว นอกจากนี้วัตถุดิบที่ทางร้านนำมาผลิตนั้นจะเป็นวัตถุดิบเกรดคุณภาพ หมูหยองจะเป็นหมูหยองจากโรงงานผลิตอย่างดี ไม่เป็นผงเหมือนตามท้องตลาดทั่วไป
สำหรับกลุ่มลูกค้าของทางร้านนั้นหลักๆ จะเป็นลูกค้ากลุ่มนักศึกษา และผู้ปกครองของนักศึกษาที่เห็นสินค้าผ่านกลุ่มในเฟซบุ๊ก ทำให้ผลตอบรับจากลูกค้านั้นอยู่ในระดับที่ดีขึ้นจากเดิมในช่วงที่กลับมาเริ่มขายอีกครั้งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา นอกจากนี้แซนวิชของทางร้านทำสดใหม่และส่งเป็นรอบเวลา
ประมาณ 08:30-17:30 น. ในส่วนนี้จะเป็นทางร้านนำออกไปส่งเอง ส่วนเดลิเวอรี่ก็สามารถทำและส่งตามที่ลูกค้าสั่งผ่านแอปพลิเคชั่นส่งอาหารตั้งแต่เวลา 07:00-23:00 น.
นอกจากนี้ในส่วนของกำลังการผลิตนั้นทางร้านให้ข้อมูลว่าใน 1 วันสามารถทำแซนวิชได้ประมาณ 100 กล่อง เนื่องจากตนทำกับแฟนแค่สองคน กำลังการผลิตจึงไม่ได้มีจำนวนมากนัก ปัจจุบันมีราคาขายตั้งแต่ 35-89 บาท ขึ้นอยู่กับแต่ละไส้
ลงทุน 500 บาท กำไรหลักหมื่น
สำหรับการลงทุนขายแซนวิชโบราณนั้นในช่วงแรกทางร้านลงทุนไปประมาณ 500 บาท และขายเพียงไส้เดียว คือแซนวิชโบราณหมูหยอง โดยสต็อคกล่อง 1 แพ็ค ขนมปัง 2-3 แถว และหมูหยองภายในงบประมาณ 500 บาท ในช่วงแรกขายไม่ค่อยได้แต่ทางร้านก็อดทนและขายมาอย่างต่อเนื่อง และทำคลิปวิดีโอลงใน TikTok อย่างที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้มีลูกค้าเห็นสินค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งคลิปวิดีโอที่ได้รับความนิยมจำนวนมากนั้นคือคลิปที่หั่นแซนวิชผิดด้าน ทั้งนี้ ทางร้านได้ลงทุนในราคา 500 อยู่เกือบเดือนกว่าจึงขยายต้นทุนเพิ่ม และสามารถสร้างกำไรได้ถึงหลักหมื่นในเวลา 2 เดือน จากเดิมที่ขายได้วันละ 10 กล่อง กระโดดขึ้นมาเป็นวันละ 40-50 กล่อง รวมถึงในเดลิเวอรี่ก็เพิ่มจากเดิมวันละ 10 กล่อง เป็นวันละเกือบ 20 ออเดอร์และในแต่ละออเดอร์มีหลายกล่อง หลังจากนั้นก็เริ่มเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น จากเดิมกำไรเดือนแรกหลักร้อยถึงหลักพัน และสามารถฟันกำไรสู่หลักหมื่นได้ในที่สุด
ปัจจุบันทางร้านยังไม่มีหน้าร้าน เนื่องจากยังเป็นนักศึกษาและอยู่หอพัก จึงอาศัยขายออนไลน์ที่มีทั้งนัดรับ ไปส่งเองและเดลิเวอรี่ตามแพลตฟอร์มส่งอาหาร อย่างไรก็ตามในอนาคตทางร้านได้มีการวางแผนต่อยอดธุรกิจให้ไปในทิศทางของการเปิดหน้าร้านหลังจากเรียนจบ เพิ่มการขายน้ำสลัดสูตรเฉพาะของร้านเพื่อเพิ่มรายได้ รวมถึงเพิ่มไส้ของแซนวิชและพัฒนาแซนวิชให้เป็นในรูปแบบแซนวิชเกาหลีเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
“รู้สึกดีใจที่คลิปใน TikTok เข้าถึงลูกค้ามากขึ้น เพราะว่าในช่วงแรกขายได้บ้างไม่ได้บ้าง และออเดอร์ส่วนใหญ่จะมาจากเพื่อน และฝากเพื่อนให้ลงสตอรี่ให้หน่อย ลงแล้วแท็กร้านมาหน่อยนะ เพื่อที่จะให้ลูกค้าเห็นว่าของเราทำขายจริงๆ มันตรงปกจริงๆ นะ พอมาทำ TikTok พีคแล้วก็คือขายได้แล้ว ลูกค้ามาจาก TikTok 40-50% เลยค่ะ” เจ้าของร้านระบุ
ติดต่อเพิ่มเติม
Instagram : แซนวิชโบราณTU🥪
TikTok : แซนวิชโบราณTU
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *