xs
xsm
sm
md
lg

SCG International ผุด 3 กลยุทธ์ เพิ่มโอกาสทางการค้า รุกตลาด SMEs ก้าวสู่ผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจรระดับโลก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล เปิด 3 กลยุทธ์เพิ่มโอกาสทางการค้าระหว่างประเทศทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมก้าวสู่การเป็นคู่คิดธุรกิจและมอบโซลูชั่นทางการค้าครบวงจรแก่คู่ค้าและผู้ประกอบการ อีกทั้งยังรุกตลาด SMEs เพื่อขยายฐานลูกค้า พร้อมอุดช่องโหว่ธุรกิจและเดินหน้าปั้นโมเดล The Dubai Hub เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า เล็งเจาะตลาดเกิดใหม่ศักยภาพสูงอย่าง SAMEA คาดสร้างยอดขายกว่า 54,000 ล้านบาทในปี 2565 และโต 6% ในระยะยาว และก้าวสู่การเป็นผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจรระดับโลก


นายอบิจิต ดัตต้า กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล คอร์ปอเรชั่น จำกัด เผยว่า ด้วยภาวะสงครามและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นสถานการณ์คาดไม่ถึงและคาดเดาไม่ได้ ส่งผลให้อุตสาหกรรมการผลิตทั่วโลกเผชิญหน้ากับวิกฤตการขนส่งสินค้า ราคาพลังงาน และต้นทุนวัตถุดิบผันผวน SCG International ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศ พร้อมเป็นคู่คิดให้ธุรกิจเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและรับมือกับการดิสรัปชั่นทางธุรกิจ ภายใต้แนวคิด Trusted International Supply Chain Partner จึงได้นำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์และครอบคลุมการทำธุรกิจระหว่างประเทศ ผ่าน 3 กลยุทธ์ที่จะขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต ครอบคลุมทั้งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และธุรกิจ SMEs ได้แก่ End-to-End Supply Chain Solutions, Green Business และ B2B ASEAN E-Marketplace

“เราตั้งเป้าเติบโตเฉลี่ย 6% ในระยะยาว โดยมียอดขาย 54,000 ล้านบาท ในปี 2565 มีเป้าหมายเป็นผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจรระดับโลก (Trusted International Supply Chain Partner) เน้นขับเคลื่อนการเติบโต โดยขยายธุรกิจสู่ตลาดที่จะเป็นเมกะเทรนด์ของโลก อาทิ SAMEA เป็นต้น”


SCG International (เอสซีจี อินเตอร์เนชั่นแนล) เดิมมีชื่อว่า SCG Trading มุ่งเน้นโมเดลธุรกิจที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน จากการผนึกกำลังพันธมิตรทางการค้า ไม่เพียงเป็นตัวกลางในการจัดจำหน่ายสินค้าในต่างประเทศ แต่ยังมีบทบาทการเป็นผู้นำพันธมิตรการค้าครบวงจรระหว่างประเทศที่น่าเชื่อถือ ผ่านการนำเสนอสินค้าและโซลูชั่นครบวงจร เพื่อตอบสนองลูกค้ากลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ภายใต้พันธกิจในการเป็น TRUSTED INTERNATIONAL SUPPLY CHAIN PARTNER


ทั้งนี้ 3 กลยุทธ์การเติบโตที่มาขับเคลื่อน SCG International ไปสู่ความเป็นผู้นำพันธมิตรการค้าครบโซลูชั่นระดับโลก (Trusted International Supply Chain Partner) ได้แก่

1.โซลูชั่นบริหารจัดการสินค้าและวัตถุดิบให้ลูกค้าแบบครบวงจร (End-to-End Supply Chain Solutions): SCG International มีความสมบูรณ์แบบในการจัดหาโซลูชั่นที่มีความยืดหยุ่น (Resilient Solutions) และโซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพ (โซลูชั่น Efficient Solutions) เพื่อนำเสนอบริการ Supply Chain ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ไม่ว่าลูกค้าจะเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือธุรกิจ SMEs

จากความแข็งแกร่งของเครือข่ายการค้ากว่า 21 สาขาทั่วโลก ประสบการณ์ยาวนานมากกว่า 40 ปี และมีมาร์เก็ตติ้งแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยเฉพาะระบบสนับสนุนด้านการเงิน ที่จะช่วยสร้างกระแสเงินสด ปิดช่องว่างทางการเงินและเพิ่มปริมาณซัพพลายได้ต่อเนื่อง ทำให้ SCG International มีศักยภาพในการมอบโซลูชั่นครบวงจรให้กับผู้ประกอบการตลอดทั้ง Supply Chain แม้ว่าโลกจะเผชิญวิกฤติดิสรัปชั่น (Supply Chain Disruption)



“ด้วยความพร้อมในหลายมิติเราจึงมุ่งเจาะกลุ่ม SAMEA ตลาดเกิดใหม่ ในกลุ่มประเทศเอเชียใต้ รวมถึง กลุ่มประเทศในตะวันออกกลางอย่างกลุ่ม GCC ความร่วมมืออ่าวอาหรับที่เจาะกลุ่ม 6 ประเทศ ซาอุดิอาระเบีย คูเวต โอมาน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กาตาร์และบาห์เรน รวมถึงประเทศในแอฟริกา ซึ่งเฉพาะกลุ่ม SAMEA นั้น มีอันดับการเติบโตทางเศรษฐกิจเป็นอันดับต้นๆ ของโลก โดยมีประชากรรวมกันมากกว่า 45% ทั่วโลก”

“เรากำลังสร้าง The Dubai Hub เพื่อเป็นศูนย์กลางบริหารสินค้าในกรุงดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะ ช่วยลดระยะเวลาการขนส่งและต้นทุนสินค้าในการค้าขายในกลุ่ม SAMEA อีกทั้งเรามองว่าดูไบเป็นเมืองที่เอื้อต่อการเชื่อมต่อไปยังสองประเทศยักษ์ใหญ่ของโลกอย่างจีนและอินเดีย ซึ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตสินค้ารายใหญ่ของโลกด้วย”



2.ธุรกิจสีเขียว (Green Business) : มุ่งเน้นการขยายสินค้าและบริการในกลุ่มธุรกิจเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ด้วย Smart Clean Mobility โซลูชั่นบริการครบวงจรสำหรับธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) รวมบริการต่างๆ เพื่อช่วยจัดการค่าใช้จ่ายและความคล่องตัวของผู้ใช้ระดับองค์กรทุกประเภทสำหรับลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ ไปจนถึงโซลูชั่นจัดหาเพื่อธุรกิจโซลาร์ เพื่อมุ่งไปสู่การเป็นผู้นำการนำเข้าสินค้าและบริการเกี่ยวกับธุรกิจโซลาร์ โดยศักยภาพธุรกิจโซลาร์ของ SCG International เป็นไปในลักษณะ Volume Consolidation เนื่องจากมีการรุกตลาดธุรกิจโซลาร์ในหลากหลายกลุ่มธุรกิจ

“การพัฒนาโมเดลธุรกิจ Smart Clean Mobility ของ SCG International เป็นไปในลักษณะใช้ Demand Driven จากจำนวนการใช้รถไฟฟ้าของทั้งเครือ SCG มีอยู่ประมาณ 14,500 คัน ครอบคลุมการใช้รถหลากหลายประเภท (Applications) ด้วยปริมาณการใช้งานจำนวนมากจะก่อให้เกิดการพัฒนา Charging Station ที่มีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดในการขยายธุรกิจ”


นอกจากโมเดลธุรกิจ EV แล้ว SCG International ยังพร้อมขยายโซลูชั่นการจัดหาและบริการไปยังธุรกิจแผงโซล่าเซลล์ หรือที่เรียกว่า BIPV (Building Integrated Photovoltaics) ครอบคลุมตั้งแต่แผงโซลาร์, ระบบกักเก็บพลังงานไฟฟ้า (ESS- Energy storage) ไปจนถึงอุปกรณ์เสริมที่เกี่ยวข้อง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในกลุ่มธุรกิจที่ต้องการความยั่งยืนและแสวงหาพลังงานทางเลือกแบบครบวงจร


3.แพลตฟอร์มดิจิทัลเข้าถึงกลุ่ม B2B ในตลาดอาเซียน (B2B ASEAN E-Marketplace): SCG International ช่วยให้คู่ค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ ผ่าน B2B ASEAN E-Marketplace ซึ่งดำเนินการโดย SCG International ด้วยแพลตฟอร์มอำนวยความสะดวกให้เจ้าของ SMEs ดำเนินธุรกิจแบบ B2B ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เชื่อมโยงกลุ่มผู้ซื้อและผู้ขายที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะสินค้าด้านการเกษตรและสินค้ายานยนต์ โดยมุ่งเน้นการขยายตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน

ด้าน มร. อัลวิน แอนทัน คาร์ลอส ออง หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ e-Commerce และ Supply Chain ระหว่างประเทศ ในฐานะฟันเฟืองสำคัญของการขับเคลื่อนกลยุทธ์ B2B ASEAN E-Marketplace กล่าวว่า BIG Thailand เป็น B2B E-Marketplace ภายใต้การบริหารของ SCG International เป็นพื้นที่เชื่อมโยงธุรกิจอันทรงพลัง ระหว่างผู้ซื้อ-ผู้ขายที่มีศักยภาพ เป็นแพลตฟอร์มรวมสินค้ายานยนต์และการเกษตรที่ให้บริการเต็มรูปแบบครอบคลุมทุกฟังก์ชั่น รวมไปถึงบริการด้านการเงินจากพันธมิตร (Financial Solution) และระบบการจัดการที่เชื่อถือได้

“ความแข็งแกร่งของ BIG Thailand คือการร่วมกับพันธมิตรด้านการเงิน & โลจิสติกส์ & การตลาด เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในด้านยานยนต์และการเกษตร ไม่เพียงเชื่อมต่อผู้ซื้อและผู้ขายเพื่อขยายฐานการตลาด แต่ยังช่วยจบปัญหาต้นทุนการขนส่ง แก้ปัญหาระบบธุรกรรมและระบบการรับ-จ่ายค่าสินค้าที่ยุ่งยาก”


ปัจจุบัน BIG Thailand มีบัญชีผู้ซื้อกว่า 30,000 ราย มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ย 20,000 บาทต่อคำสั่งซื้อ มีจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์เติบโตขึ้น 55% นับจากปี 2563-2564 ด้านผู้ขายมีมากกว่า 500 ราย ในขณะที่อัตราการเพิ่มขึ้นของผู้ซื้อมีการเติบโตสูงขึ้นมากถึง 2,000% ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี โดยมีหมวดหมู่สินค้ามากกว่า 13 ประเภท อาทิ กลุ่มอุปกรณ์ไฟฟ้า, เกษตรกรรม, ผลิตภัณฑ์เพื่อสัตว์, กลุ่มน้ำมันเครื่องและของเหลว, กลุ่มยางและล้อ โดย BIG Thailand มีอัตราการเติบโตล่าสุด คิดเป็น 30% ในอนาคต BIG Thailand มีแผนจะขยายฐานใหม่ๆ ไปพร้อมกับสร้างแพลตฟอร์มในแต่ละประเทศอาเซียนเพื่อเชื่อมโยงผู้ซื้อและผู้ขายระดับภูมิภาค และเจาะเข้าสู่ตลาดใหม่ใน อาเซียน ไปสู่การเป็นศูนย์จำหน่ายระดับภูมิภาค


มุมมองจากคู่ธุรกิจ – บทพิสูจน์ของการเป็น Trusted International Supply Chain Partner ผู้นำพันธมิตรค้าขายแบบครบวงจร

นายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขายการตลาดและบริการ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด ในฐานะคู่ค้ากับ SCG International กล่าวว่า สยามคูโบต้ายังคงเป็นผู้นำตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรและตลาดรถขุดเล็ก โดยที่ผ่านมา SCG International เข้ามาช่วยสร้างเครือข่ายให้กับสยามคูโบต้าและขยายช่องทางการจำหน่ายที่มีศักยภาพในต่างประเทศ อาทิ กัมพูชา และกำลังเดินหน้าไปสู่กลุ่มประเทศใหม่ๆ ช่วยสร้างแบรนด์สยามคูโบต้าให้เป็นที่ยอมรับในตลาดเพิ่มมากขึ้น จากการจัดกิจกรรมสร้างความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างสินค้าของสยามคูโบต้าและสินค้าแบรนด์อื่น

“เนื่องจาก SCG International มีเครือข่ายและคอนเน็คชั่นที่ดีในหลายประเทศ ช่วยให้สยามคูโบต้ามีโอกาสได้รับความร่วมมือที่ดีจากภาคภาครัฐและเอกชน อย่างในกัมพูชาเกิดความร่วมมือกัน ทำให้สินค้าได้รับการยกเว้นภาษี (Tax exemption) สำเร็จ อีกทั้ง SCG International ยังมีความพร้อม ทั้งทรัพยากรบุคคล, เงินทุน, ประสบการณ์, สารสนเทศ และสำนักงานสาขาในหลายประเทศ ทำให้เข้าใจบริบทท้องถิ่น ช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างเป็นระบบ”


* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น