“เต่ายักษ์ซูลคาต้า” สัตว์เลี้ยงมาแรง ความเชื่อนำพาความร่ำรวย ลายกระดองตามความเชื่อจีน ราคาตัวละเฉียดแสนบาท

เต่าซูลคาต้า Sulcata tortoise หรือ เต่าเดือยแอฟริกา เป็นเต่าบกที่ความใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเต่ายักษ์กาลาปากอส และเต่ายักษ์อัลดาบรา เป็นเต่าที่มีลักษณะกระดองที่แบนราบ เมื่ออยู่ในวัยเล็กลำตัวมีสีขาว ไปจนถึงสีน้ำตาลเหลือง เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และวัยเต็มวัยสีของกระดองจะเป็นสีน้ำตาล และสีเหลือง เดิมเต่าชนิดนี้จะพบได้ที่ทะเลทรายซาฮารา และในแอฟริกาตะวันตก และตะวันออก ขนาดเมื่อโตเต็มที่ยาวได้มากกว่า 36 นิ้ว น้ำหนักกว่า 105 กิโลกรัม มีอายุยาวกว่า 100 ปี


ความน่ารักขี้อ้อน เหมือนสุนัขและแมว
เป็นที่มาของสัตว์เลี้ยงตัวใหม่

ปัจจุบันเป็นที่ทราบกันดีว่า เต่าบกซูลคาต้า กำลังเป็นที่นิยมของเหล่าบรรดาไฮโซทั้งหลาย นิยมเลี้ยงเต่าชนิดนี้ เอาไว้เสริมบารมีความร่ำรวย ตามศาสตร์ความเชื่อ และส่วนหนึ่งก็ไว้อวดกันว่าใครจะเลี้ยงได้ตัวใหญ่ที่สุด เพราะด้วยเป็นเต่าที่เลี้ยงง่ายและไม่ทำร้ายใคร สามารถเลี้ยงในสนามหญ้าหน้าบ้านได้ โดยที่ไม่ทำลายสนามหญ้าเสียหาย และไม่มีกลิ่นรบกวน ทำให้เต่าซูลคาต้ากลายเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านไปอีกตัว

นอกจากนี้ เจ้าเต่ายักษ์ชนิดนี้จะเลี้ยงดูแลง่ายแล้ว เป็นสัตว์ที่แข็งแรง อึด ทน ไม่ค่อยมีโรค มีเป็นหวัดบ้างในช่วงอากาศหนาว อากาศชื้น และพบเชื้อราได้บ้างในบางครั้ง วิธีการรักษาแค่เพียงนำเต่าออกไปตากแดดอาการต่างๆ ก็จะหายไปเอง แม้เต่าชูลคาต้าชอบแสงแดด แต่ต้องไม่ใช่แดดที่จ้า ต้องเป็นแดดที่รำไร

สาเหตุที่ทำให้หลายคนหันมาสนใจสัตว์เลี้ยงตัวใหญ่อย่างเต่าบกซูลคาต้า ไม่ใช่แค่เลี้ยงง่าย แต่เต่าซูลคาต้าเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรู้จำชื่อตัวเองได้ เมื่อไหร่ที่เจ้าของเรียกชื่อ เค้าจะรู้ชื่อของตัวเองเดินมาหาเจ้าของ และเค้ายังเป็นสัตว์เลี้ยงที่เชื่อง มีความน่ารักขี้อ้อนไม่ต่างจากสุนัขและแมว การดูแลก็ง่ายกว่าสัตว์เลี้ยงชนิดอื่น ทำให้เต่าซูลคาต้าได้รับนิยมกลุ่มคนชอบสัตว์เลี้ยง


ฟาร์มเต่าในรีสอร์ท “หนึ่งในบางคนที”

วันนี้ พามารู้จักกับฟาร์มเลี้ยงเต่าซูลคาต้า ที่อำเภอบางคนที จังสมุทรสงคราม ของ “นายจตุรงค์ สินเจริญ” เจ้าของ หนึ่งในบางคนทีรีสอร์ท และเป็นเจ้าของฟาร์มเต่าบกซูลคาต้า ตั้งอยู่ที่ 52 หมู่ 2 บ้านวัดปราโมทย์ อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งฟาร์มแห่งนี้ เริ่มเลี้ยงเต่ามาได้ 8-9 ปี โดยจำหน่ายลูกเต่าซูลคาต้าออกไปแล้วมากกว่า 1,000 ตัว

นายจตุรงค์ เล่าว่า จุดเริ่มต้นที่มาทำฟาร์มเต่าซูลคาต้า ในครั้งนี้ เริ่มขึ้นเมื่อประมาณ 10 ปี ที่แล้ว ผมได้ไปหาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงในรีสอร์ท เพื่อให้ลูกค้าที่มาพักที่รีสอร์ทได้มีกิจกรรมทำ และไปซื้อเต่าซูลคาต้า มาจากตลาดนัดสัตว์เลี้ยงจตุจักรมาเลี้ยงไว้ ตอนนั้นไม่ได้มีความรู้เรื่องการเลี้ยงเต่าอะไรมากนัก ก็ศึกษาและหาประสบการณ์เอาเอง แต่ด้วยเต่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงง่ายก็เลยไม่ได้เจอปัญหาอะไร ตอนนั้นไม่คิดว่าจะเพาะพันธุ์ขาย แต่วันหนึ่ง มีลุงท่านหนึ่ง เขาเลี้ยงเต่าซูลคาต้า และต้องการจะเลิกเลี้ยง เห็นว่าเราเลี้ยงเต่าอยู่แล้ว ก็เลยขายเหมาให้ 6 ตัว เป็นเต่าที่อายุ 5-6 ปี พร้อมผสมพันธุ์ ผมเลยซื้อไว้ในราคา 250,000 บาท


“หลังจากนั้น เต่าเริ่มผสมพันธุ์กัน และออกไข่ และฝักเป็นตัว เลี้ยงเยอะลูกออกมาเยอะ ออกมาเป็น 100-200 ตัว เราก็เริ่มเลี้ยงไม่ไหว ก็อยากจะระบายออกไปบ้าง นำไปโพสต์ในหน้าเพจเฟซบุ๊ก และที่เป็นกระแสตอนที่ผมนำเต่าไปอาบน้ำ คนที่เลี้ยงเต่าบกก็เลยเกิดดราม่า ว่าเต่าบกทำไม เอาไปอาบน้ำ ทรมานเต่า ซึ่งจริงๆแม้จะเป็นเต่าบกก็ต้องอาบน้ำบ้าง เพื่อทำความสะอาด และการที่เขาได้กินอาหารในน้ำจะทำให้อึ ของเขาจะไม่เป็นเม็ดแข็ง พออาบน้ำเสร็จร่างกายเค้าก็จะชุ่มชื้น เต่าก็จะสบายตัว และจากกระแสเอาเต่าไปอาบน้ำครั้งนั้น มีคนมาคอมเม้นท์กันเยอะมาก ผมก็ต้องเข้าไปอธิบาย เลยเป็นกระแสทำให้คนรู้จักฟาร์มเต่าซูลคาต้าของผมมากขึ้น”


โควิดไม่กระทบ..ขายมากขึ้นขายไปแล้วกว่า 1,000 ตัว

สุดท้าย มีลูกค้าวอล์กอินเข้ามาที่ฟาร์ม เพื่อมาดูเต่า พอได้พูดคุยได้รู้จักเต่าก็สนใจอยากจะเลี้ยง จนถึงปัจจุบัน คุณจตุรงค์ ขายเต่าไปแล้วมากกว่า 1,000 ตัว โดยราคาเต่าซูลคาต้า ไม่ได้แพงอย่างที่หลายคนคิด ที่ฟาร์มของคุณจตุรงค์ ขายเต่าอายุ 8 เดือน ในราคาตัวละ 890 บาท และอายุ 1-2 ปี ดูจากลวดลายบนกระดองเต่า และดูขนาด ใหญ่ที่สุดที่ “คุณจตุรงค์” ขายไป ราคา 8,000 บาท ขนาดประมาณ 6 นิ้ว ซึ่งเป็นราคาที่แพงที่สุดที่เคยขายไป ในท้องตลาดราคาเต่าซูลคาต้า มีราคาแตกต่างกันออกไป ตามลวดลาย ถ้าลวดลายกระดองเต่าไปตรงกับศาสตร์ความเชื่อของคนจีน ราคาสูงมากไปจนหลักหมื่น หลายหมื่นบาท จนแตะหลักแสนบาทก็มี


เต่ากระดองลวดลายตามศาสตร์ความเชื่อ
ดันราคาถึงหลักแสนบาท/ตัว

จตุรงค์ บอกว่า ปัจจุบันที่ฟาร์มมีแม่พันธุ์ 20 ตัว วางไข่แต่ละครั้งไม่ต่ำกว่า 30 ฟอง ต่อแม่พันธุ์ 1 ตัว ซึ่งทางฟาร์มได้เริ่มจำหน่ายเต่าซูลคาต้าผ่านมาจนถึงวันนี้ ผ่านมากว่า 5 ปีแล้ว ที่ผ่านมา แม้ว่าจะเจอสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ตลาดสัตว์เลี้ยงเต่าซูลคาต้าไม่ได้เงียบเหงาเลย มีคนแวะเวียนมาซื้อเต่าไปเลี้ยงกันเพิ่มมากขึ้นกว่าช่วงปกติเสียอีก ที่หลายคนหันมาสนใจเลี้ยงเต่า ส่วนหนึ่งมาจากความเชื่อที่ว่า เต่าเป็นสัตว์มงคลเพราะเต่ามีอายุยืน ซึ่งเต่าซูลคาต้า มีอายุยืน 30-40 ปี และตามความเชื่อของคนจีนเชื่อว่าเต่าเป็นสัตว์นำโชค นำมาเลี้ยงชีวิตจะดี นำพามาแต่ความร่ำรวย ถ้าได้เต่ากระดองลายตามศาสตร์จีน ยิ่งส่งเสริมให้คนเลี้ยงร่ำรวยขึ้นไปอีก ทำให้ราคาเต่าที่มีกระดองตามศาสตร์ความเชื่อจีน มีราคาสูงมากหลักแสนบาทต่อตัว


ส่วนอาหารของเต่าชนิดนี้ จะกินอาหารหลักได้หลากหลาย โดยมากเป็นหญ้า รวมถึงวัชพืชและผลไม้ ชนิดต่าง ๆ รวมถึงพืชในทะเลทราย เช่นกระบองเพชร มีพฤติกรรมที่แตกต่างไปกว่าเต่าบกชนิดอื่น ๆ คือ เดินเก่งและเดินได้เร็ว สามารถเดินหาอาหารกินได้วันละหลายชั่วโมง เมื่อสู่วัยเจริญพันธุ์เต่าตัวผู้เมื่ออายุประมาณ 5 ปี หรือความยาวประมาณ 15 นิ้ว ส่วนตัวเมียจะเข้าวัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุได้ 7 ปี หรือ ความยาวประมาณ 17 นิ้ว ลักษณะของเต่าตัวผู้มีโคนหางที่ยาวกว่าตัวเมีย และมีกระดองก้นเป็นรูปตัววี และกระดองใต้ท้องมีลักษณะโค้งเว้าเข้าไปด้านใน

การผสมพันธุ์จะมีในช่วงฤดูร้อน จนถึงปลายฤดูฝน เต่าตัวเมียจะวางไข่หลังผสมพันธุ์แล้ว 1 เดือน โดยใช้ขาหลังขุดหลุม ซึ่งอาจมีหลายหลุมเพื่อหลอกสัตว์กินเนื้อชนิดอื่นที่จะมาขโมยไข่ วางไข่ครั้งละ 20-30 ฟอง โดยในแต่ละปีอาจวางไข่ได้ 4-5 ครั้ง และมักจะวางไข่ในช่วงเวลาบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ไข่ใช้เวลาฟักเป็นตัวประมาณ 90 วัน ในอุณหภูมิประมาณ 29-31 องศาเซลเซียส


ส่วนช่องทางการขาย “คุณจตุรงค์” บอกว่า ไม่ได้เน้นการขายผ่านออนไลน์ แต่ต้องการให้ลูกค้ามาเลือกซื้อ หรือ ติดต่อมาซื้อที่ฟาร์มเอง มากกว่า ที่ผ่านมา ก็เลยไม่มีความเคลื่อนไหวหรือ ติดต่อซื้อขายทางหน้าเพจ ผู้สนใจสามารถเข้ามาดูฟาร์ม ที่ “หนึ่งในบางคนที รีสอร์ท” อำเภอบางคนที จังหวัดสมุทรสงคราม

ติดต่อ โทร.08-9199-9141

คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด