xs
xsm
sm
md
lg

พรทิพย์ นำนวัตกรรมยกระดับ“โอเอ๋ว” ขนมพื้นเมืองภูเก็ต เป็นของฝากเสิร์ฟนอกพื้นที่ ครั้งแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



โอเอ๋ว ขนมพื้นเมืองภูเก็ต นักท่องเที่ยวรู้จักกันดี เพราะใครเดินทางไปภูเก็ตจะต้องไปกินขนมพื้นเมืองชนิดนี้ ขนมหวานที่มีให้กินได้เฉพาะที่จังหวัดภูเก็ต ด้วยรสชาติที่โดนใจใครหลายๆ คน จนอยากจะซื้อมาฝากคนทางบ้าน แต่ที่ผ่านมา โอเอ๋ว เป็นขนมหวานที่สามารถคงรูปเป็นวุ้นอยู่ได้เพียงไม่กี่ชั่วโมง ทำให้โอเอ๋ว เป็นขนมหวานที่ต้องเดินทางไปกินที่ภูเก็ตเท่านั้น





มารู้จัก โอเอ๋ว ขนมพื้นเมืองที่ทำไมมาภูเก็ตต้องกิน

โอเอ๋ว คือ ขนมหวานพื้นเมืองภูเก็ต ที่มีสรรพคุณหลักในการแก้กระหายน้ำและแก้ร้อนใน จึงถือเป็นขนมหวานที่ช่วยดับร้อนได้ดี โอเอ๋ว เป็นวุ้นที่ได้จากพืชธรรมชาติ ซึ่งเป็นพืชชนิดหนึ่งในตระกูลมะเดื่อ โดยทำมาจากเมล็ดด้านในของผลโอเอ๋วที่ผ่านการตากแห้ง แล้วนำใส่ผ้าขาวบางปิดสนิทและแช่น้ำไว้ประมาณ 5 นาทีจนพองตัว หลังจากนั้นบีบเนื้อโอเอ๋วจากผ้าขาวบาง จะได้เนื้อโอเอ๋วสีเหลืองอ่อน

สำหรับที่มาของโอเอ๋ว เป็นขนมพื้นเมืองที่อยู่คู่กับจังหวัดภูเก็ต มานานนับ 100 ปี ซึ่งที่มาของโอเอ๋ว จุดเริ่มต้นเชื่อกันว่า น่าจะมาจากการพื้นที่ภูเก็ต ได้รับอิทธิพลหลายๆ อย่างมาจากเมืองมะละกา ปีนัง ประเทศมาเลเซีย จากการเดินทางติดต่อกันมาตลอดส่งผลให้ วัฒนธรรม การกิน อยู่ ต่างๆ ได้รับอิทธิพลมาด้วย และรวมถึง “โอเอ๋ว” สมุนไพรจีน ก็เป็นอีกหนึ่งเมนูที่เชื่อว่าน่าจะได้รับอิทธิพลมาจากเมืองมะละกา

นายวิรวัฒน์ เปี่ยมวิวัตติกุล ประธานกรรมการ บริษัท พรทิพย์(ภูเก็ต) จำกัด
นายวิรวัฒน์ เปี่ยมวิวัตติกุล ประธานกรรมการ บริษัท พรทิพย์(ภูเก็ต) จำกัด เล่าถึง โอเอ๋ว ขนมพื้นเมืองภูเก็ต ว่า เป็นอาหารที่นักท่องเที่ยว เดินทางมาเที่ยวภูเก็ตจะได้รับการแนะนำให้ต้องมากิน เช่นเดียวกับอาหารหลายอย่างที่นักท่องเที่ยวต้องมากินที่ภูเก็ตเท่านั้น แต่โอเอ๋วไม่สามารถซื้อกลับไปเป็นของฝากได้ เพราะการคงรูปของโอเอ๋วในรูปวุ้น จะต้องอยู่ในตู้เย็นเท่านั้น ซึ่งทางร้านพรทิพย์ ร้านขายของฝากภูเก็ต เดิมเปิดร้านขายขนมหวานโอเอ๋ว อยู่แล้ว เห็นว่าทำไม ในเมื่อเฉาก๊วย ยังเป็นของฝากได้ เราก็น่าจะทำให้โอเอ๋ว เป็นของฝากจากภูเก็ตได้เช่นเดียวกัน


นำนวัตกรรมยกระดับโอเอ๋ว เป็นของฝากจากภูเก็ต

โดย “พรทิพย์” ใช้นวัตกรรมพิเศษ Special Inovation ในการช่วยให้ "โอเอ๋ว" สามารถคงรูป คงตัว และเก็บได้นานยิ่งขึ้น แต่ยังคงรสชาติ สี และกลิ่นไว้เช่นเดิม ในรูปแบบ "คัพ" ซึ่งเราได้เริ่มนำโอเอ๋ว ที่พัฒนาขึ้นมาจนกลายเป็นอีกหนึ่งของฝากจากภูเก็ต ได้เป็นผลสำเร็จ และนำออกมาขายผ่านช่องทางออนไลน์ได้ประมาณ 6 เดือน หลังจากสถานการณ์โควิดคลี่คลาย นักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ตมากขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้น จากนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภูเก็ต และการขายผ่านช่องทางออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม รวมถึง การขายผ่านแพลตฟอร์มShopee และ Lazada

นายวิรวัฒน์ เล่าว่า ในส่วนของการทำ โอเอ๋ว คัพของร้านพรทิพย์ จะใช้เมล็ดโอเอ๋วแท้ 100% ไม่ผสมผงวุ้น เมื่อรับประทานจะรู้สึกสดชื่น เย็นในลำคอ ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่ม เด้ง ละมุน ไม่กระด้าง ทำให้ราคาโอเอ๋วคัพ จะสูงกว่าราคาโอเอ๋วที่ขายในท้องตลาด ซึ่งโอเอ๋ว แบบดั้งเดิมขายในรูปแบบของน้ำแข็งไส จะมีขายตั้งแต่ถ้วยละ 15 บาท ไปจนถึง 35 บาท แต่ในส่วนร้านพรทิพย์ ในคัพ อยู่ที่ราคาถ้วยละ 49 บาท มีให้เลือกหลากหลายรสชาติ ดั้งเดิมแบบโบราณ โอเอ๋ว จะกินกับน้ำแดง และเติมถั่วแดงเพิ่มขึ้นมาเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการปรับให้มีรสชาติใหม่เพิ่มขึ้นมา


นอกจากโอเอ๋วสูตรดั้งเดิมแล้ว โอเอ๋ว ยังได้ทำออกมาในรูปแบบของขนมพื้นเมืองฟิวชั่น โดยการนำขนมพื้นถิ่นภูเก็ตผสมผสานเข้ากับขนมของชาติตะวันออก ในรูปแบบของพุดดิ้งด้วย โดยจำหน่ายอยู่ในร้านพรทิพย์ ที่เปิดร้านขายโอเอ๋ว ขึ้นมาโดยเฉพาะ 2 แห่ง ได้แก่ Pornthip Dessert Cafe และ Pornthip Oldtown - พรทิพย์ โอลด์ทาวน์ ปัจจุบัน ร้านพรทิพย์ ทำโอเอ๋ว ออกมามากกว่า 15 รสชาติ โดยแบ่งเป็นรสชาติที่ทำขายในรูปคัพ 8 รสชาติ ได้แก่ น้ำแดงโบราณ สับปะรดภูเก็ต น้ำผึ้งมะนาว น้ำผึ้งมะนาวกระชายขาว น้ำผึ้งบ๊วย เสาวรส ลำไย และ โกจิเบอร์รี่ และที่ขายหน้าร้านในรูปน้ำแข็งไส อีก 7-8 รสชาติ 


จุดขายเป็นสมุนไพรจีน เจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ

และจากการที่ทางร้านพรทิพย์ ได้ใช้นวัตกรรม "Innovation" ในการทำโอเอ๋วคัพ ครั้งนี้ ทำให้สามารถคงตัวได้นานขึ้น และสามารถอยู่ในอุณหภูมิปกติได้ถึง 5 วัน จึงสามารถทำเป็นของฝากแบบหิ้วกลับได้ และอยู่ในตู้เย็นได้นานถึง 20 วันหลังจากที่ได้เปิดตัวไป 6 เดือน คนที่รู้จักโอเอ๋ว เข้ามาสั่งซื้อเพิ่มขึ้นตลอด ปัจจุบัน ร้านพรทิพย์ มียอดขายโอเอ๋วคัพไ วันละ 500-600 ถ้วย ผ่านช่องทางแพลตฟอร์มออนไลน์

ส่วนสรรพคุณของ โอเอ๋ว จะมีสรรพคุณหลัก ช่วยเรื่องของลำไส้ และช่วยแก้กระหายน้ำคลายร้อน และแก้ร้อนใน จึงเป็นขนมหวานได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงหน้าร้อน ปัจจุบันที่ภูเก็ตจะมีโอเอ๋วขายอยู่ทั่วไป ตั้งแต่ในตลาดสด ไปยังภัตตาคาร หลายแห่ง นำโอเอ๋วเป็นขนมหวานเสิร์ฟนักท่องเที่ยว ด้วย 


การนำโอเอ๋ว อาหารพื้นเมืองของภูเก็ตที่มีขายเฉพาะในพื้นที่ และนำมาปรับเพื่อให้สามารถเป็นของฝากนักท่องเที่ยวนั้น เป็นการช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งนอกจากรักษาวัฒนธรรมการกินอาหารพื้นเมืองให้ยังคงอยู่ในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ที่อาจจะไม่ได้ให้ความสำคัญกับอาหารพื้นเมืองเหล่านี้ จนอาจจะถูกลืมไปในอนาคต อย่างไรก็ดี เป็นที่ทราบกันว่า อาหารพื้นเมืองรสชาติดีๆ ของแต่ละจังหวัด ยังสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยว ได้ไม่แพ้การมาเที่ยวชมสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในจังหวัดนั้นๆ 


สร้าง SoftPower จากขนมพื้นเมืองอายุกว่า 100 ปี

นายวิรวัฒน์ กล่าวว่า โอเอ๋ว ถือว่าเป็นอาหารพื้นเมืองภูเก็ต ที่เป็น SoftPower ได้เช่นเดียวกัน เพราะภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีวัฒนธรรมการกิน ความเป็นอยู่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่นักท่องเที่ยวหลายประเทศอยากมาสัมผัส นอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวหาดสวยๆริมทะเล เท่านั้น และการที่เรานำโอเอ๋ว อาหารพื้นเมืองที่มีอายุกว่า 100 ปี มาแนะนำให้นักท่องเที่ยวได้รู้จัก พร้อมกับการยกระดับให้สามารถรับประทานได้ง่ายขึ้น ช่วยกระจายรายได้เข้าภูเก็ตได้อีกทางหนึ่ง ด้วย

ส่วนการจะนำโอเอ๋ว คัพไปจำหน่ายยังสถานที่จังหวัดอื่นๆ ในตอนนี้ ทางพรทิพย์ เองก็ยังไม่ได้มีแผนตรงนั้น ต้องการทำตลาดออนไลน์ให้แข็งแรง และทำให้คนรู้จักโอเอ๋วมากขึ้น เพื่อกระตุ้นให้คนไทยอยากมาเที่ยวภูเก็ต สร้างรายได้ด้านการท่องเที่ยว และสร้างรายได้ให้กับร้านพรทิพย์ ในฐานะร้านขายของฝากเบอร์ต้นๆ ของเมืองภูเก็ตมากกว่า


สนใจติดต่อ Facebook Pornthip Phuket ของฝากภูเก็ต Line : @pornthip88




คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด


กำลังโหลดความคิดเห็น