เกษตรยุค 4.0 ทำเกษตรอย่างเดียวไม่ได้แล้ว แต่ต้องพ่วงการท่องเที่ยวเข้าไปด้วย และนี่คือ ตัวอย่างของเกษตรกรที่ปรับตัว เนรมิตรสวนเกษตรบนพื้นที่ 10 ไร่ ริมคลองจินดา อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ให้นักท่องเที่ยวได้มาทำกิจกรรมร่วมกันในวันหยุด พร้อมกับขายผลผลิตทางการเกษตรแบบปลอดสารพิษในสวน ให้นักท่องเที่ยวได้ซื้อติดไม้ติดมือกับบ้านไปด้วย
จากทริปปั่นจักรยานเข้าป่า
สู่ พายเรือคายัคชมสวนคลองจินดา
“ปานใจ ปานมณี” (คุณปุ้ม) เจ้าของสวน เล่าให้ฟังว่า เดิมเธอมีประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยวเพราะก่อนจะเจอสถานการณ์โควิด ตนเองและสามี ชื่นชอบการปั่นจักรยาน และประกอบกับช่วงหนึ่งลูกเกิดมาป่วย หมอแนะให้ต้องออกกำลังกาย เราเลือกการปั่นจักรยานไปในพื้นที่อากาศดีๆ เพื่อให้ลูกได้ออกกำลังกายและรับอากาศดีๆ โดยเราเลือกจะพาลูกเข้าไปปั่นจักรยานในป่า
หลังจากครอบครัวได้ทำกิจกรรมปั่นจักรยานเข้าป่า โดยเลือกป่าในแถบไม่ห่างจากกรุงเทพฯมากนัก เช่น เพรชบุรี ราชบุรี สระบุรี ลพบุรี ฯลฯ ซึ่งในป่าอากาศดีมาก ทำให้อาการป่วยของลูกดีขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งเพียงแค่การรักษาทางการแพทย์อย่างเดียว พอได้เล่าให้คนที่รู้จักฟัง หลายคนอยากจะมาปั่นจักรยานกับเราด้วย และเกิดการบอกต่อ ตอนหลังตนเองและสามีก็เลยเปิดเป็นทริปท่องเที่ยวพาปั่นจักรยานเข้าป่าในช่วงวันหยุด เกิดเป็นอีกหนึ่งอาชีพเสริมที่ทำนอกเหนือจากงานประจำ
โควิด ทำให้เกษตรกรชาวสวนต้องปรับตัว
อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์ในการจัดทริปท่องเที่ยวพาปั่นจักรยานเข้าป่า ก็เลยนำมาต่อยอดเกิดเป็นพายเรือคายัคเที่ยวสวนคลองจินดา นครปฐม โดยในช่วงโควิดงานด้านท่องเที่ยวปั่นจักรยานลดน้อยลง ทำให้เรามีเวลาได้มาทำสวน ซึ่งมองเห็นปัญหาว่าการทำสวนของที่บ้านมีปัญหาเรื่องราคาผลผลิตที่ตกต่ำ และขายไม่ได้ในช่วงโควิดเนื่องจากตลาดปิดกันหมด ทำให้ผลผลิตเสียหายขายไม่ได้
ทั้งนี้ การจะให้เพื่อนหรือคนรู้จักมาช่วยกันซื้อ ติดปัญหาที่เราทำเกษตรหน้าเดียว คือ ปลูกพืชอย่างเดียว การจะหาคนมาช่วยซื้อ พอมีอย่างเดียวก็ซื้อได้ กิโลเดียว กลับมาคิดว่าถ้าอย่างนั้น ทำไมเราไม่ปลูกพืชหลายอย่าง ถ้าเวลาจะให้เพื่อนๆมาช่วยซื้อ เขาก็ซื้อได้หลายอย่างหลายกิโล และในช่วงโควิดได้มีเวลามาช่วยกัน ปรับปรุงสวนของเราใหม่ หันมาปลูกผลไม้หลายชนิด ปลูกผักอีกหลายสิบอย่าง โดยเลือกต้นพันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์โบราณที่ไม่ได้ผ่านการตัดแต่งพันธุกรรม และต้องเป็นการปลูกแบบปลอดภัยไร้สารพิษตกค้าง เราก็เลยได้พืชผักผลไม้ที่ปลอดภัยในสวนของเราส่งต่อให้กับลูกค้าของเราได้กินอย่างปลอดภัยด้วย
วิถีชีวิตคนริมคลอง จุดขายที่เริ่มหาดูยากขึ้น
หลังจากที่คุณปุ้ม ได้ลงมือทำการปรับปรุงสวน ทำให้มองเห็นว่า สวนของเธอรมย์รื่น สวยงาม แบบใกล้ชิดธรรมชาติ และบ้านอยู่ติดกับคลองจินดา เป็นคลองที่เคยมีเรือวิ่งไปมา เพื่อสัญจรของคนริมคลอง แต่พอมีถนนเข้ามา คลองก็เลยไม่ได้ทำหน้าที่ตรงนั้น แต่ธรรมชาติริมคลองยังคงอยู่เหมือนเดิม กลายเป็นคลองที่มีความสงบ น้ำสะอาด ช่วงที่ไม่ได้ไปปั่นจักรยาน คุณปุ้มกับสามีลองซื้อเรือคายัคมือสองมาพายเล่น และถ่ายภาพลงโชว์เพื่อน ๆ พอเพื่อนๆ เห็น ก็ชื่นชอบ อยากมาพายเรือคายัคแบบตนเองบ้าง เป็นจุดเริ่มต้น ของทริปท่องเที่ยวพายเรือคายัคเที่ยวสวนคลองจินดาขึ้น
ในครั้งแรกชวนเพื่อนมาพายเรือคายัค แต่เพื่อนและคนรู้จักมากันเพิ่มมากขึ้น เรือเริ่มไม่พอ ซื้อเรือมาเพิ่ม และเริ่มวางแผนจัดทริปพายเรือท่องเที่ยวคลองจินดา เพื่อให้ทุกคนได้มาชมธรรมชาติ และวิถีชีวิตของคนริมคลองว่า ใช้ชีวิตกันอย่างไร และพ่วงด้วยการจัดทริปกิจกรรมในสวนเข้าไปด้วยเพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสบรรยากาศของสวนผักผลไม้ และชิมผัก ผลไม้ สดๆจากต้น พร้อมซื้อกลับไปเป็นของฝาก ช่วยกระจายรายได้สู่เกษตรกร
กิจกรรม พายเรือคายัคเที่ยวสวนคลองจินดา
“ปานใจ” เล่าถึงกิจกรรมที่จัดให้กับนักท่องเที่ยว สำหรับการท่องเที่ยวพายเรือคายัค นครปฐม นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของการพาพายเรือเที่ยวชมคลองจินดา และจิบกาแฟที่ร้านกาแฟริมคลอง เดิมพาพายเรือในคลอง 3 ชั่วโมง แวะร้านกาแฟ และร้านขนมหวาน แต่พอทำจริงการพายเรือเที่ยว 3 ชั่วโมง สำหรับเด็กๆทำไม่ได้ เด็กไม่สามารถอยู่กับเรือ 3 ชั่วโมงได้ ก็เลยเปลี่ยนเป็น พายเรือเพียงแค่ 1 ชั่วโมงครึ่ง
โดยเวลาที่เหลือเป็นการทำกิจกรรมในสวน พาเข้าชมสวนพายเรือรอดอุโมงค์ต้นไม้ และมีเรือทุ่นโฟม ให้ทุกคนทำกิจกรรมถ่อเรือโฟมเข้าไปในสวนด้วยตัวเอง เด็กก็ได้เรียนรู้และสนุกกับกิจกรรมนี้ เพราะน้ำในล่องสวนก็จะไม่ลึก เด็กๆก็จะกระโดดลงเล่นน้ำได้ โดยไม่เป็นอันตราย หรือจะเดินเก็บผลไม้ที่อยู่ในล่องสวนกินได้เลย หรือถ้าต้องการเก็บผลไม้กลับบ้านก็นำมาชั่งกิโล คิดราคาตามชนิดของผลไม้และผัก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรม เด็กได้ช่วยพ่อแม่ตัดผัก เก็บผลไม้ และมีกิจกรรมนักท่องเที่ยวได้สนุกกับการเล่นน้ำคลอง เล่นซิปไลน์ ฯลฯ
ส่วนการทำกิจกรรมพายเรือคายัคในคลองจินดา เริ่มที่ลงเรือที่ท่าเรือ เสิร์ฟผลไม้ และขนม น้ำดื่ม ให้ก่อนลงเรือชมธรรมชาติในคลองจินดา และหลังจากนั้นแวะร้านกาแฟ ดื่มเครื่องดื่มริมคลอง ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่เปิดขึ้นมาในช่วงโควิด เพราะน้องตกงานก็กลับมาบ้าน เห็นเราทำกิจกรรมพานักท่องเที่ยวพายเรือคายัค ก็เลยเปิดร้านกาแฟขึ้นมา และหลังจากนั้นแวะร้านขนมหวาน ซึ่งทำขนมหวานขายมานานสักระยะหนึ่ง พอมีนักท่องเที่ยวพายเรือคายัค เราก็เลยได้โคกัน และพายเรือกลับ ถ้าขากลับพายไม่ไหว เราก็มีเรือยนต์ไฟฟ้า จูงลากกลับ โดยลากกลับช้าเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ชมธรรมชาติริมคลอช่วงขากลับด้วย
กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัว
ส่วนค่าบริการสำหรับการท่องเที่ยวพายเรือคายัคนครปฐม ทางคุณปุ้ม คิดค่าบริการเป็นรายหัวๆละ 600 บาท ส่วนลูกค้าที่ต้องการมารับประทานอาหาร มีบริการในส่วนของอาหารบุพเฟ่ต์ ไว้บริการด้วย เป็นอาหารแบบพื้นบ้าน ที่นำผักสดที่หาได้จากในสวนมาปรุงเสิร์ฟให้กับลูกค้า เช่น ผัดสายบัว ปลานิลทอด หรือ ต้มยำไก่บ้าน เป็นต้น ซึ่งเป็นการช่วยกันทำกันในครอบครัว ในส่วนของอาหารบุพเฟต์ คิดค่าบริการเพิ่มหัวละ 190 บาท
สำหรับผู้ที่จะเข้ามาใช้บริการจะต้องจองเข้ามาก่อน เพราะจะเปิดรับลูกค้าได้ไม่เกินครั้งละ 10 คนต่อหนึ่งทริปเท่านั้น การทำกิจกรรมก็จะแบ่งเป็น 2 ช่วงเวลา คือ ช่วงเช้า ตั้งแต่ 8 โมงเช้าไปจนถึง เสร็จกิจกรรมประมาณบ่ายโมง และช่วงบ่าย เริ่มตั้งแต่ บ่าย 2โมงไปจนถึง 6 โมงครึ่ง ส่วนคนที่จองเข้ามาไม่ถึง 10 คน ก็สามารถเข้ามาร่วมกับคนอื่นๆ ได้
โดยลูกค้าส่วนใหญ่จะจองเข้ามาในช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ลูกค้าส่วนใหญ่จะมากันเป็นครอบครัว คุณปุ้ม บอกว่า ที่วางแผนไว้ครั้งแรก คิดว่าจะเป็นลูกค้ากลุ่มวัยรุ่น แต่พอเปิดให้บริการจริง ก็จะได้ลูกค้าที่เป็นครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ พาลูกๆ มาทำกิจกรรม เพราะเราอยู่ห่างจากกรุงเทพฯไม่มาก เดินทางจากกรุงเทพฯ มาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง ซึ่งด้วยสถานการณ์ปัจจุบัน พ่อ-แม่ ต้องการจะหากิจกรรมให้กับลูกๆ ในช่วงวันหยุด เพราะลูกๆ จะได้ไม่ต้องอยู่กับมือถือ เล่นเกม หรือ เล่นโซเชียลฯ มาก
เอาใจคนรักสัตว์รับสัตว์เลี้ยง ร่วมกิจกรรม
ทั้งนี้ ในส่วนของสัตว์เลี้ยงเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ทาง “คุณปุ้ม” ให้ความสำคัญ โดยเปิดรับสัตว์เลี้ยงมาร่วมทำกิจกรรมด้วย โดยคิดราคาค่าบริการตามน้ำหนักตัวของสัตว์เลี้ยง 5กิโลกรัมให้บริการฟรี ตั้งแต่ 5-10 กิโลกรัม คิดค่าบริการตัวละ 250 บาท และ ถ้า 10 กิโลกรัมขึ้นไปคิด 550 บาท โดยกิจกรรมของน้องหมา จะมีลานอาบน้ำน้องหมา มีทุ่นโฟมกระโดดน้ำเล่นแบบน้องหมา
“ส่วนการตั้งราคา ด้วยความที่ปุ้ม เคยทำเรื่องการท่องเที่ยวมาก่อน เราก็พอจะรู้ว่าการทำกิจกรรมในลักษณะแบบนี้ ราคาน่าจะประมาณไหน เพราะปกติคนในกรุงเทพฯ วันหยุดเดินชอปปิ้งในห้าง หรือ ทำกิจกรรมดูหนัง กินอาหารในห้าง ราคาประมาณนี้ หรือ มากกว่านี้ แต่การได้ออกมาทำกิจกรรมแบบนี้ ทำให้ลูกๆ ได้ไกลชิดกับธรรมชาติ และได้ออกกำลังกายด้วย เราก็เลยต้องการจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับ กลุ่มคนที่ต้องการหากิจกรรมทำในวันหยุด” ปานใจกล่าว
การปรับตัวของเกษตรกยุค 4.0
พายเรือคายัคเที่ยวสวนคลองจินดา นครปฐม เปิดให้บริการมาตั้งแต่ เดือนสิงหาคม 2563 เป็นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 พอดี ซึ่งคุณปุ้มเองไม่ได้คาดหวังเรื่องรายได้ ว่าจะต้องได้เท่านั้น เท่านี้ ซึ่งเค้าคาดหวังเพียงแค่ได้มีกิจกรรมให้เพื่อน หรือ คนรู้จัก คนไม่รู้จักได้มาทำกิจกรรมได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ได้กินอาหาร ผัก ผลไม้ที่ปลอดภัยจากสารพิษ
อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญกว่านั้น คือ ทำให้ผลผลิตในสวนได้ขายตรงไปถึงลูกค้าโดยไม่ต้องไปตระเวนออกไปขาย แต่มีลูกค้ามาซื้อถึงสวนของเรา เราไม่ต้องใช้แรงงานในการเก็บผลผลิต เพราะลูกค้าจะเข้าไปเลือกและเก็บผลผลิตในแบบที่ลูกค้าต้องการ ผลผลิตที่เก็บมาก็ได้ขายจนหมดไม่เหลือเน่าเสีย เป็นการทำเกษตรแบบคนยุค 4.0 ในอนาคตถ้ามีคนรู้จักมากขึ้น จากเดิมที่เราต้องเก็บผลผลิตไปนั่งขายที่ตลาด ต่อจากนี้ไปเราก็อาจจะไม่ต้องออกไปขายที่ตลาด แต่สามารถขายหมดได้จากที่หน้าสวนของเราเองได้เลย
ติดต่อ FB: พายเรือคายัคนครปฐม
โทร.08-7124-8024
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า "SMEsผู้จัดการ" รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
