กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมมือกับพันธมิตรรายใหญ่อย่าง บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จัดงาน “ตลาดนัดโชวห่วย ครั้งที่ 12” ระหว่างวันที่ 2-5 มิถุนายน 2565 เพื่อให้ประชาชนได้ช้อปปิ้ง ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศยาวต่อเนื่อง 4 วัน ณ ฮอลล์ 6-7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงาน “ตลาดนัดโชวห่วย ครั้งที่ 12” เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2565 ว่า งานตลาดนัดโชวห่วยเป็นกิจกรรมหนึ่งของบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) ที่สะท้อนเจตนารมณ์ ในการส่งเสริมผู้ประกอบการโชวห่วยมาอย่างยาวนาน โดยในปีนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีซึ่งแม็คโครได้หยิบยกให้ “สมาร์ทโชวห่วย” เป็นก้าวแรกของการพัฒนาสู่ความสำเร็จในขั้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็นมิตรแท้ชุมชน หรือ บัดดี้มาร์ท โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แม็คโคร ในฐานะเอกชนรายใหญ่ที่คร่ำหวอดในวงการธุรกิจค้าส่งค้าปลีกได้ร่วมมือกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนโครงการ “สมาร์ทโชวห่วย” ช่วยพัฒนาผู้ประกอบการโชวห่วยไทยให้เป็นสมาร์ทโชวห่วยผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น 1) การปรับภาพลักษณ์ร้านค้า ทั้งในด้านการให้ความรู้แก่ทีมงานและลงพื้นที่ปรับภาพลักษณ์ร้านค้าทั่วประเทศให้มีความสวยงามและเป็นระเบียบ 2) การส่งเสริมการใช้เทคโนโลยี POS โดยร่วมคัดเลือกร้านค้าโชวห่วยที่มีความพร้อมและมีศักยภาพด้านเทคโนโลยีนำระบบ POS มาใช้ในการบริหารจัดการ และ 3) การบรรเทาผลกระทบจากโควิด-19 โดยสนับสนุนชุดสินค้าอุปโภคบริโภค รวมมูลค่ากว่า 3,500 บาท สำหรับร้านค้าโชวห่วย กองทุนหมู่บ้าน 3,500 ร้านค้า ทั่วประเทศ เพื่อนำไปจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภคในชุมชน อันจะเป็นการช่วยลดภาระต้นทุนให้แก่ผู้ประกอบการ และเพิ่มโอกาสให้ผู้บริโภคได้ซื้อสินค้าราคาประหยัด
“หลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 ธุรกิจโชวห่วยยังคงมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตลาดผู้บริโภคในเมืองเริ่มอิ่มตัว แต่ตลาดชุมชนยังเป็นที่น่าสนใจและมีฐานลูกค้าอยู่เป็นจำนวนมาก ภาคเอกชนหลายรายมีการปรับกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจ โดยใช้โมเดลร้านค้าโชวห่วยที่มีภาพลักษณ์ทันสมัยและใช้ระบบเทคโนโลยีในการบริหารจัดการ สร้างโอกาสทางตลาดรองรับผู้บริโภคในชุมชน ทำให้ผู้ประกอบการโชวห่วยมีทางเลือกในการดำเนินธุรกิจมากขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการก็ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นเช่นเดียวกัน ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการโชวห่วยไทยจึงมีความจำเป็นต้องปรับตัว มิฉะนั้นอาจสูญเสียโอกาสทางธุรกิจได้”
รองปลัดฯ ยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญในการพัฒนาผู้ประกอบการโชวห่วยให้เป็น “สมาร์ทโชวห่วย” ซึ่งจะต้องดำเนินการอย่างต่อเนื่องและค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ครอบคลุมผู้ประกอบการทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่กว่า 400,000 ราย อย่างไรก็ตาม กระทรวงฯ ไม่อาจขับเคลื่อนภารกิจนี้ได้แต่เพียงลำพัง จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยความร่วมมือจากพันธมิตรทุกฝ่ายที่มีศักยภาพและพร้อมให้การสนับสนุนโชวห่วยไทยให้มีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โดยในระยะ 5 ปีต่อจากนี้ ได้กำหนดแนวทางเพื่อยกระดับความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรในการพัฒนาสมาร์ทโชวห่วยให้ครอบคลุมทุกมิติ และใช้กลไกการทำงานร่วมกันของเครือข่าย ทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งส่วนกลางและระดับท้องถิ่น เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาใน 4 ด้าน คือ 1) ลดต้นทุน 2) เพิ่มรายได้ 3) สร้างขีดความสามารถ ในการแข่งขัน โดยร้านค้าสมาร์ทโชวห่วยจะเป็นแหล่งรับซื้อสินค้าให้คนในชุมชน นำไปสู่เป้าหมายที่ 4) กระจายรายได้สู่ชุมชน เป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของประเทศต่อไป
“สำหรับงาน “ตลาดนัดโชวห่วย” ครั้งที่ 12 จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “สูตรสำเร็จ โชวห่วยไทย สู้ภัยเศรษฐกิจ” ระหว่างวันที่ 2-5 มิถุนายน 2565 ต่อเนื่อง 4 วัน โดยมีผู้ผลิตและผู้แทนจำหน่าย (Suppliers) กว่า 200 ราย เข้าร่วมจำหน่ายสินค้าภายในงาน และคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 80,000 ราย ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงสถานที่จัดงาน ช่วยกันไปจับจ่ายใช้สอยภายในงานให้ครึกครื้น ช่วยเรียกความเชื่อมั่นให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ภายหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มคลี่คลายแล้ว ไปกันให้เยอะๆ เลยนะครับ” รองปลัดฯ กล่าวฝากในตอนท้าย