การแข่งขันในโลกการค้า ไม่ได้เกิดเฉพาะผู้ค้ารายใหญ่ๆ แม้แต่พ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดหนีไม่พ้นที่จะเจอคู่แข่ง เพราะไม่ว่าจะขยับหรือหันไปขายอะไรก็ดูเหมือนคู่แข่งในตลาดเต็มไปหมด แต่สำหรับ แม่กำไร หรือ ป้ากำไร ที่คนในตลาดนัดจอมพลปอ อำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เรียกขานกัน แม้จะด้วยวัยเพียง 55 ปี ด้วยอัธยาศัยที่ชอบแทนตัวเองว่า แม่ หรือ ป้า ทำให้ทุกคนเรียกตามแก ว่า ป้ากำไร หรือ แม่กำไร
การปรับตัวหนีคู่แข่งกลายเป็นที่มาของความสำเร็จ
สำหรับ "แม่กำไร" หรือ “นางทองหล่อ พุ่มวันเพ็ญ” เป็นเจ้าของร้านไข่กระทาเสียบไม้ ที่ชื่อว่า “ไข่นกกระทาเสียบไม้ แม่กำไร” เป็นแบบอย่างของพ่อค้า แม่ค้าตลาดนัด เพราะแม้ว่า แกจะต้องเจอคู่แข่งในตลาดที่ขายไข่นกกระทาเสียบไม้ เต็มไปหมด เมื่อ 5 ปีก่อน ที่จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการขายไข่นกกระทาใหม่ ในแบบที่ไม่ซ้ำใคร
แม่กำไร บอกว่า เมื่อประมาณ 5 ปี ก่อนหน้าที่แม่จะเปลี่ยนรูปแบบของไข่นกกระทาเสียบไม้ในแบบที่ขายในปัจจุบัน แม่ก็ขายไข่นกกระทาเสียบไม้เหมือนคนอื่นๆ แต่ในตลาดขายกันเต็มไปหมด คู่แข่งเยอะขายไม่ดี แต่แม่ก็ไม่ท้อ ด้วยเราไม่ได้มีทางเลือกเยอะนัก เพราะหนี้สินจากดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบร้อยละ 20 ที่เขาตามทวงทุกวัน เรียกว่า หาไม่พอจะจ่ายไม่เหลือให้ได้กินให้ใช้เลย ถ้าเราไม่ปรับตัวเพื่อขายให้ได้เยอะ แม่ก็คงจะอยู่ลำบาก
ปรับจากการนำสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวมาต่อยอด
การปรับตัวของ "แม่กำไร" คือ การทำไข่นกกระทาเสียบไม้รูปแบบใหม่เลย เรียกว่ายังไม่เคยมีใครทำมาก่อน โดยจุดเริ่มต้นไอเดียของแม่กำไร เกิดขึ้นมาจาก ในบริเวณบ้านของแกปลูกพืชผักเอาไว้กิน อะไรที่พอจะหยิบเอามาใช้ หรือ ในตลาดมีผักอะไรพอจะเอามาใช้ก็เลือกมาใช้ ก็เลยได้ออกมาเป็น เมนูต่างๆ ของ ร้านไข่นกกระทาเสียบไม้ แม่กำไร เช่น ไข่นกกระทาทอดชะอมเสียบไม้ ไข่นกกระทาทอดเห็ดเข็มทอง หรือ ไข่นกกระทาทอดใส่ผักหวาน และเมนูเด็ด แม่กำไรย้อนนึกไปถึงในวัยเด็ก ที่แม่ชอบทำเมนูทอดมันปลาเห็ดให้กิน แกก็เลยนำมาปรับใช้กับ ไข่นกกระทาเสียบไม้ด้วย โดยการเติมพริกแกงลงไปผสมกับไข่นกกระทาและปรุงรส และเติมผักไปตามชอบ แกก็จะมีผักให้ลูกค้าได้เลือก ได้แก่ ยอดมะพร้าวอ่อน ข้าวโพด ฟักทอง หน่อไม้ มันฝรั่ง หัวปลี ฯลฯ
“จุดเริ่มต้นเมนูทอดมันปลาเห็ดไข่นกกระทา มาจาก หัวปลีที่แม่ก็มีอยู่ที่บ้าน เราก็นึกว่าแล้วเราจะเอาหัวปลีมาใส่ในไข่นกกระทาทอดของเราได้อย่างไร ทำให้นึกไปถึงในวัยเด็กที่แม่ทำทอดมันปลาเห็ดให้กินก็จะใส่หัวปลี ใส่ไข่ และ ใส่พริกแกง ปรุงรสตามชอบ แต่แม่ปรับจากไข่ไก่ มาเป็นไข่นกกระทาแทน และ นำมาทอดเสียบไม้ ปรากฏว่าขายดีมาก เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้ ร้านไข่นกกระทาเสียบไม้แม่กำไรเป็นที่รู้จัก และมีการพูดถึงกันมาก จนมียูทูปเบอร์ มาถ่ายไปลงคลิป คนรู้จักไข่นกกระทาเสียบไม้แม่กำไรเยอะขึ้น บางคนก็มาขอสูตรบ้าง บางคนก็มาขอเรียนบ้าง”
ไม่ห่วงวิชา อยากให้ทุกคนมีอาชีพเพราะเคยลำบากมาก่อน
“ แม่ก็อยากให้ทุกคนมีอาชีพ เพราะเราเองก็เคยลำบากมาก่อน พอเห็นคนอื่นอยากมีอาชีพ หรือใครลำบากแม่ก็อยากจะช่วย ตอนที่เค้าถามมาว่า แม่จะคิดราคาค่าสอนอย่างไร หรือจะขายแฟรนไชส์ แม่ก็ไม่รู้จักแฟรนไชส์ เค้าต้องทำกันอย่างไร แม่ก็บอกไปว่า ถ้าอยากเรียนแม่สอนให้ ถามลูกสาวว่าคิดค่าเรียนเค้าอย่างไร ลูกสาวบอกว่า คิดค่าเรียนเขาไป 2,900 บาท บางคนมีเงินเค้าก็ให้ เพราะบางทีแม่ก็ต้องเดินทางไปสอนเขาถึงที หรือ บางคนมาเรียนที่บ้าน บอกแม่ หนูไม่มีเงิน แม่ก็ไม่คิดอะไรเค้าเลยสักบาท ยังให้ไข่นกกระทาเค้าไปทำมาหากิน ด้วยความที่เราเข้าใจคนที่ลำบาก เพราะเราก็ลำบากมีหนี้มีสินมาก่อน ตั้งแต่เปิดสอนแทบจะยังไม่ได้เก็บเงินใครเลย”
พอถามถึงยอดขาย “แม่กำไร” บอกว่า วันหนึ่งแม่ต้องใช้ไข่นกกระทาทั้งหมด 3,500-4,000 ฟอง ในหนึ่งสัปดาห์ ขาย 3 วันใช้ไข่มากถึง 12,000 ฟอง รายได้ต่อวัน อยู่ที่ทำเลด้วย ปัจจุบันอยู่ประมาณวันละ 3,000 บาท ขาย 3 วันมีกำไรเกือบๆ 5,000 บาท แม่จะขายแค่ช่วงเย็น เริ่มขายตอนบ่าย 2 เลิกประมาณเกือบ 2 ทุ่มก็ขายหมดแล้ว ราคาต่อไม้อยู่ที่ไม้ละ 10 บาท ใช้ไข่นกกระทาไม้ละ 5 ฟอง เมนูที่ขายดีจะเป็นเมนูชะอมไข่ และเมนูที่ใส่พริกแกง ซึ่งเป็นสูตรพริกแกงของแม่กำไรปรุงมาเอง ไม่ได้ซื้อพริกแกงสำเร็จ ทำให้รสชาติจะเข้าและไปด้วยกันได้กับไข่นกกระทา ได้รสชาติที่ไม่เผ็ดมากทำให้เด็กๆ ก็สามารถกินได้
วัยรุ่น เจอไข่นกกระทาชะอม ลืมไส้กรอก ปูอัดแบบเดิม
อย่างไรก็ดี ลูกค้าส่วนใหญ่ “แม่กำไร” บอกว่า มีทุกเพศทุกวัย แต่ส่วนใหญ่ชอบที่จะซื้อกินเล่น กินกับซอสภูเขาทอง และพริกไทยมากกว่า แม้ว่าเมนูไข่นกกระทาทอดเสียบไม้ของแม่จะคล้ายเป็นกับข้าวก็ตาม เช่น เมนูชะอม สามารถซื้อไปกินกับน้ำพริกกะปิได้ แต่ส่วนใหญ่เลือกที่จะกินเล่นกับซอสมากกว่า และด้วยไข่นกกระทาเสียบไม้เป็นอาหารที่ชื่นชอบของเด็กและวัยรุ่นอยู่แล้ว แต่พอแม่มาปรับ แม่คิดว่าน่าจะได้กลุ่มผู้ใหญ่แทน เด็กน่าจะไม่ชอบ แต่พอขายเข้าจริงๆ กลับกลายเป็นว่า เด็กๆ วัยรุ่น ชื่นชอบกันมากกว่าแบบเดิมที่ใส่ไส้กรอกและปูอัด ที่แม่เคยทำขายเสียอีก โดยเฉพาะเมนูชะอม กับหัวปลี ซึ่งเด็กๆยุคนี้ เค้ากินชะอมกินหัวปลีกันได้ เด็กวัยรุ่น พอมากินเมนูไข่นกกระทาเสียบไม้ของแม่กำไร ทำให้เค้าลืมไข่นกกระทาทอดเบบเดิม ที่ใส่ไส้กรอก ปูอัดไปเลย
แม่กำไร บอกว่า ข้อดีของไข่นกกระทาจะมีความมันกว่าไข่ไก่ แต่เวลาทอดในหลุมขนมครกไข่นกกระทาจะไม่หอม เหมือนไข่ไก่ แต่จะให้รสชาติที่มันและอร่อยกว่า ซึ่งการจะขายไข่นกกระทาให้ได้กำไร แบบแม่ คือ ต้องขายเอาปริมาณ เพราะแม่ขายถูก ไม้ละแค่ 10 บาท และให้เต็มที ถ้าขายไม่ได้ปริมาณเยอะ หรือ ไม่ได้แหล่งซื้อไข่นกกระทาราคาถูก ก็จะแทบไม่เหลือกำไรเลย เหมือนตอนแรกซื้อไข่จากตลาด เหลือกำไรน้อยมาก พอได้แหล่งซื้อไข่นกกระทาจากฟาร์ม ได้กำไรเยอะขึ้น ส่วนผักชะอม หัวปลี หน่อไม้ ปลูกเองในบริเวณบ้าน ต้นทุนตรงนี้แทบจะไม่ได้เอามาคิด เพราะบางช่วงที่ชะอมแพง บางช่วงชะอมมันก็ถูก ต่อวัน ต้องใช้ชะอมไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ถ้าช่วงชะอมแพง และเราไม่ได้ปลูกเอง ขาดทุนแน่นอน
ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าในยุคที่การค้าขายการแข่งขันกันสูง ทุกคนหันมาสร้างธุรกิจของตัวเอง เริ่มจากการค้าขายเล็ก ทำให้การแข่งขันในตลาดเล็กๆ มีสูง โดยเฉพาะตลาดนัด การปรับตัวของเหล่าพ่อค้า แม่ค้าตลาดนัดต้องบอกว่าในยุคนี้ ไม่ธรรมดา เป้าหมายเพื่อปากท้อง และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของตัวเอง และอนาคตของลูกหลาน ซึ่ง แม่กำไรเป็นแบบอย่างการปรับตัวของแม่ค้าตลาดนัด ที่ประสบความสำเร็จ และเป็นแบบอย่างของการแบ่งปัน ที่ไม่ได้เก็บความสำเร็จไว้กับตัวเองคนเดียว ยังแบ่งปันให้คนรอบข้าง ให้รุกขึ้นสู้ และมีชีวิตเลี้ยงปากท้องกันต่อไปในยุคที่ข้าวยากหมากแพง
ติดต่อโทร.06-1493-1874
คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SMEsผู้จัดการ”รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด
SMEs manager